PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

รมว.กห.จีนเข้าเยี่ยมคารวะ'บิ๊กตู่'กระชับความสัมพันธ์ 2 ประเทศ

รมว.กห.จีนเข้าเยี่ยมคารวะ'บิ๊กตู่'กระชับความสัมพันธ์ 2 ประเทศ
Cr:แนวหน้า
6 ก.พ.58 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉาง ว่านฉวน มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมคณะ เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในระหว่างวันที่ 5 - 7 ก.พ.นี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางทหาร และความมั่นคงทางภูมิภาค
โดย ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการเข้าพบว่า การเข้าพบของ รมว.กลาโหมจีน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ไทย - จีน ยกระดับความสัมพันธ์ในการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน โดยไทยยืนยันนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมความสัมพันธ์ และพัฒนาความร่วมมืออย่างใกล้ชิด
สำหรับความร่วมมือทางด้านความมั่นคง ทาง รมว.กลาโหมจีน แสดงความประสงค์ให้มีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น และเห็นพ้องให้การฝึกร่วมของเหล่าทัพมีความเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม ไทย - จีน ได้เคยฝึกร่วมคอบร้าโกลด์ในปีที่ผ่านมาเป็นครั้งแรก และปีนี้ก็จะฝึกร่วมในลักษณะเดียวกัน โดยเน้นโครงการให้ความช่วยเหลือประชาชน
ในส่วนอุตสาหกรรมป้องกัน ประเทศไทยอยากให้จีนสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา รวมถึงด้านการศึกษาและการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างเหล่าทัพที่เป็นรูปธรรม โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชื่นชมและสนับสนุนวิสัยทัศน์ของผู้นำจีน ในแนวคิดเส้นทางสายไหมทางทะเล และเส้นทางการค้าการลงทุนต่างๆ ซึ่งไทยมีความประสงค์จะร่วมด้วย
นอกจากนี้ ไทยและจีนได้มีความร่วมมือทางด้านรถไฟ และสินค้าทางการเกษตร ที่จะเดินหน้าผลักดันต่อไป อย่างไรก็ตาม ในปีนี้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยววิถีไทย โดยในเทศกาลตรุษจีนของไทย จะเชิญชวนฝ่ายจีนมาร่วมด้วย
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่จีนจะซื้อข้าวและยางพาราจากไทย มีความคืบหน้าอย่างไร ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า เป็นเรื่องความร่วมมือที่จีนจะซื้อสินค้าเกษตรจากไทย ทั้งข้าวและยางพารา แต่ยังไม่มีการลงในรายละเอียดว่าจะเป็นเมื่อไหร่อย่างไร
เมื่อถามว่า นายกฯ ได้ชี้แจงสถานการณ์การเมืองไทยหรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้อธิบายอะไรมาก เพราะฝ่ายจีนมีความเข้าใจในสถานการณ์เป็นอย่างดี และพร้อมจะร่วมมือกับไทยสนับสนุนเรื่องการปฏิรูป ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายจีนได้สนับสนุนไทยในการไปศึกษาดูงานเรื่องการปฏิรูป ระบบกฎหมาย และเรื่องความมั่นคง
อย่างไรก็ตาม การหารือครั้งนี้ไม่มีการพูดถึงเรื่องการยกเลิกกฎอัยการศึกแต่อย่างใด เมื่อถามว่า การที่ไทยมีความใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น จะเป็นการถ่วงดุลอำนาจกับสหรัฐอเมริกาหรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ไทย - จีน มีมายาวนาน ไม่ว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะเปลี่ยนไปอย่างไร จีนก็มีความคงเส้นคงว่ามาโดยตลอด มีการสนับสนุนกันในเวทีต่างๆ ทั้งสองฝ่ายก็มีความชื่นชม และคิดว่าเป็นการดำเนินความสัมพันธ์ที่ต่อเนื่อง ไม่มีอะไรที่ผิดปกติ


ไม่มีความคิดเห็น: