PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2558

ฝรั่งเศสปั่นป่วนหนัก ประชาชนนัดหยุดงานประท้วงหลายแสนทั่วปารีสและเมืองอื่นๆ ต้านมาตรการรัดเข็มขัด

ฝรั่งเศสปั่นป่วนหนัก ประชาชนนัดหยุดงานประท้วงหลายแสนทั่วปารีสและเมืองอื่นๆ ปิดหอไอเฟล ปิดโรงพยาบาล ปิดโรงเรียนต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล สหรัฐฯออกส่งทูตง้อรัสเซียขอเจรจาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
--------------
ถึงคราวฝรั่งเศสบ้างหละ พิษวิกฤตเศรษฐกิจของยุโรยังแผลงฤทธิ์ยอย่างต่อเนื่อง เมื่อวานนี้ (9 เม.ย.58) มีประชาชนในฝรั่งเศสออกมาร่วมตัวกันประท้วงนโยบายรัดเข็มขัดของรัฐบาลประมาณ 300,000 ทั่วเมืองใหญ่ในฝรั่งเศส การประท้วงในครั้งนี้เป็นการรวมตัวกันของกลุ่ม CGT, FO, FSU และ Solidaires เฉพาะในปารีสนั้นมีผู้ประท้วงประมาณ 120,000 คนออกมาประท้วงตามท้องถนนและบริเวณหอไอเฟล พนักงานที่ดูแลหอไอเฟลได้ปิดประตูตลอดทั้งวันและปิดไฟปิดระบบส่งสัญญาณวิทยุส่งผลให้เครื่องบินหลายร้อยเที่ยวบินต้องหลีกเลี่ยงฝรั่งเศสเป็นจำนวนมาก แปลกจังประท้วงอยู่ที่ถนนทั่วไปไม่ได้ปิดสนามบินซะหน่อย แต่สายการบินต่างๆ กลับเลี่ยงเส้นทางบินผ่านฝรั่งเศสเป็นจำนวนมาก เขากลัวอะไรกัน เหมือนเป็นสัญญาณบ่งบอกอะไรบางอย่างว่าอาจจะมีการก่อการร้ายสอยเครื่องบินให้ล่วงลงในฝรั่งเศสอย่างนั้นแหละ
การประท้วงดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลของฝรั่งเศสออกมาประกาศว่าจะคงมาตรการรัดเข็มขัดนี้ต่อไปอีก 3 ปี (จนถึงปี 2017) และต้องการจะตัดค่าใช้จ่ายภาครัฐลงถึง $53 billion (ประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท) พร้อมทั้งปรับลด GDP ลงอีก 3% นโยบายดังกล่าวอันเนื่องมาจากวิกฤตด้านการเงินในอียูก่อให้เกิดการว่างงานขึ้นในฝรั่งเศสเป็นจำนวนมากไม่แพ้กรีซ การประท้วงยังคงดำเนินต่อไปในวันนี้ด้วย และทางกลุ่มผู้ประท้วงบอกว่าจะนัดรวมตัวกันครั้งใหญ่อีกในวันที่ 1 พฤษภาคมที่จะถึงนี้
ที่รัสเซียเจอพิษแซงชั่นจากสหรัฐฯและอียูมากกว่าฝรั่งเศสซะอีก แต่ไม่พบว่ามีการประท้วงและมีความวุ่นวายอย่างในอียูเลย ไม่มีการเผาบ้านเผาเมืองประท้วงอยู่ที่เกิดขึ้นในเยอรมัน ฝรั่งเศสและกรีซ แต่รัสเซียก็สามารถผ่านพ้นมาได้และเศรษฐกิจของรัสเซียกำค่อยๆจะกำลังฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงที่รัสเซียโดนกลั่นแกล้งอย่างหนักจากสหรัฐฯกับอียูนั้น รัสเซียกลับได้พันธมิตรจากต่างแดนเพิ่มขึ้นมากมาย
ในขณะที่อียูยังเดินตามยุทธวิธีของสหรัฐฯคือทำเป็นเบ่งใส่ประเทศที่กำลังพัฒนา อ้างเรื่องเสรีภาพ ประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชนเข้าเป็นเครื่องมือในการกีดกันสินค้าจากประเทศเหล่านั้นเช่นไทย เป็นการทำลายพันธมิตรของตัวเองไปในตัวในภาวะที่เศรษฐกิจของอียูกำลังย่ำแย่อย่างนี้ ถือเป็นการเดินเกมที่ไม่ฉลาดเอามากๆ แพ้หมากปูตินตลอด สหรัฐฯและอียูกะจะใช้มาตรการแซงชั่นบีบให้เศรษฐกิจของรัสเซียตกต่ำให้มากที่สุด โดยคาดว่าประชาชนในประเทศรัสเซียจำนวนมากจะทนอยู่ภายใต้เศรษฐกิจที่ตกต่ำข้าวของแพงอย่างนั้นไม่อีกต่อไป จะต้องลุกฮือขึ้นมาประท้วงก่อการจลาจลอย่างที่เห็นอยู่บ่อยๆจนเป็นเรื่องชินตาในอียูไปแล้วนั้น ผิดคาดครับ ปูตินรับมือได้
แม้ว่านักการเมืองฝ่ายค้านของรัสเซียจะรับลูกต่อจากสหรัฐฯมาพยายามบ่อนทำลายความมั่นคงภายในของรัสเซียแต่ก็ไม่เป็นผล น่าสนใจไหมหละว่าปูตินทำได้อย่างไร รัสเซียไม่ได้เป็นเผด็จการ ไม่ได้เป็นคอมมิวนิสต์ มีการเลือกตั้ง และเป็นประชาธิปไตยอย่างที่โลกตะวันตกทั้งหลายอยากให้เป็น แต่แผนนี้ไม่สามารถทำความสามัคคีของคนในชาติของรัสเซียได้ ซึ่งมีหลายสาธารณรัฐและหลายชาติพันธุมาก แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์อย่างที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสในตอนนี้ นั่นเพราะรัฐบาลรัสเซียให้ความจริงใจกับประชาชนของเขา ให้ข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้องตรงไปตรงมา ว่าสาเหตุที่แท้จริงของวิกฤตค่าเงินรูเบิลและวิกฤตเศรษฐกิจของรัสเซียที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่ว่ารัฐบาลรัสเซียบริหารไม่เก่งหรือทำงานไม่เป็น ไม่ใช่จากปัจจัยภายใน แต่เป็นเพราะปัจจัยภายนอก เป็นเพราะสหรัฐฯและอียูพยายามจะทำลายรัสเซียให้ได้ ประชาชนชาวรัสเซียต้องไม่หลงกลและตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดีที่จะมาทำลายชาติของรัสเซีย แล้วรัฐบาลก็หาทางช่วยเหลือประชาชนของเขา ลดผลกระทบให้กับชาวบ้านให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนค่าเงินรูเบิลค่อยๆทรงตัวขึ้นเรื่อยๆ
เกมนี้สหรัฐฯแพ้แล้ว การใช้ไม้แข็งกับรัสเซียและการพยายามยั่วยุให้ปูตินตัดสินใจใช้กำลังทางกองทัพถล่มประเทศสมาชิกนาโต้ในอียูนั้นไม่ได้ผลซะแล้ว ล่าสุดเมื่อวานนี้รัฐบาลสหรัฐฯแอบส่งเอกอัครราชทูตของตัวเองเข้าพบประธานคณะกรรมาธิการด้านกิจการต่างเทศสภาดูม่าของรัสเซีย เพื่อถกปัญหาด้านความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซีย นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าการที่สหรัฐฯพยายามเข้ามาหารัสเซียแบบนี้น่าสงสัยยิ่งนักว่ามาในนามของมิตรหรือศัตรูกันแน่ เพราะว่าในขณะที่สหรัฐฯยื่นมือซ้ายมาจับมือกับรัสเซีย แต่มืออีกข้างหนึ่งก็ถืออาวุธชี้มาทางรัสเซียพร้อมกันไปด้วย เช่นสหรัฐฯเรียกร้องให้แซงชั่นรัสเซียต่อไป สหรัฐฯพยายามให้กลุ่มชาติพันธ์ทาทาร์ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในไคร์เมียออกมาเรียกร้องต่อต้านรัสเซีย สหรัฐฯใช้กองทัพนาโต้รุกปิดล้อมรัสเซียจากฝั่งยุโรปตะวันออก และยังไม่หยุดเสี้ยมให้ยูเครนทะเลาะกับรัสเซียอีก โปโรเชนโก้ลูกกระเป๋งของสหรัฐฯก็พยายามจะดึงกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นเข้ามาเอี่ยวในยูเครนตะวันออกแทน OSCE ให้ได้ พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้บ่งบอกว่าอยากจะเป็นมิตรและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศเลย
อ้อแถมให้อีกนิดหนึ่ง ที่อิตาลี่ก็เริ่มปั่นป่วนแล้วเช่นกัน กระแสแยกตัวออกจากอียูเริ่มจะแรงขึ้นเรื่อยๆแล้ว ตอนนี้มีการล่ารายชื่อผู้สนับสนุนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปเกิดขึ้นในกลุ่มประชาชนชาวอิตาลีแล้ว กรีซมีเพื่อนแล้ว
The Eyes
10/04/2558
----------


ไม่มีความคิดเห็น: