PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

พลิกปูมปฏิบัติการ เด็ดปีก! ยกเลิกหนังสือเดินทาง “ทักษิณ ชินวัตร”

พลิกปูมปฏิบัติการ เด็ดปีก! ยกเลิกหนังสือเดินทาง “ทักษิณ ชินวัตร” ก่อน คสช. ย้อนตั้งแต่ปี’50 “บัวแก้ว” ยุค “สุรยุทธ์” จุดชนวน ก่อนเหลว ทิ้งช่วง “สมัคร-สมชาย” สำเร็จยุค “มาร์ค” แต่ไม่วาย “รบ.ยิ่งลักษณ์” คืนให้ต่อ
PIC thaksinnnuu 27 5 58 1
กลายเป็นที่ฮือฮากันทีเดียว !
ภายหลังกระทรวงการต่างประเทศ “ยกเลิก” หนังสือเดินทาง “นายใหญ่” พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 
ด้วยเหตุที่ฝ่ายความมั่นคงพิจารณา “ถ้อยคำ” ของ “ทักษิณ” ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างประเทศ มีเนื้อหากระทบความมั่นคง ความปลอดภัย หรือชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศไทย !
ผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, 326 และ 328 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (3) และ (5) 
โดยคำสั่งดังกล่าวของกระทรวง “บัวแก้ว” มีผลตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค. 2558
อย่างไรก็ดี หากยังจำกันได้ก่อนหน้านี้ มีเหตุการณ์เตรียม “เด็ดปีก” พ.ต.ท.ทักษิณ ของฝ่ายผู้มีอำนาจรัฐแล้วหลายครั้ง
ไล่มาตั้งแต่ยุค “รัฐบาลขิงแก่” พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จนมาถึงรัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเหตุการณ์ดังกล่าวมาเรียบเรียงให้เห็นกันชัด ๆ ดังนี้
ช่วงต้นปี 2550 มีรายงานข่าวจากที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ว่า “คุณหญิงเป็ด” จารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ขณะนั้น) และหนึ่งใน คตส. รายงานต่อที่ประชุมว่า นายสวนิต คงศิริ รมช.ต่างประเทศ (ขณะนั้น) ได้ทำหนังสือในนามกระทรวงการต่างประเทศถึงคุณหญิงจารุวรรณ เพื่อขอทราบรายงานผลการตรวจสอบข้อกล่าวหาการทุจริตประพฤติมิชอบใน “รัฐบาลทักษิณ” 
โดยในที่ประชุมคราวนั้น กรรมการ คตส. หลายคนมีความเห็นตรงกันว่า สมควรยกเลิก “พาสปอร์ตแดง” ซึ่งเป็นหนังสือเดินทางที่ให้อภิสิทธิ์ทางการทูตแบบพิเศษ ไปได้ 30 ประเทศโดยไม่ต้องทำ “วีซ่า” 
หลังจากนั้น สตง. ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังกระทรวงการต่างประเทศ รายงานถึงผลการสอบสวนของ คตส. ในแต่ละโครงการ ซึ่งรวมถึงโครงการที่ คตส. ได้ชี้มูลความผิด “ทักษิณ” ไปแล้ว เช่น กรณีการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด CTX 900 และการจัดซื้อที่ดินรัชดาภิเษก ของ “คุณหญิงอ้อ” พจมาน ชินวัตร รวมถึงผลการตรวจสอบเรื่องการโอนหุ้นบริษัทชินคอร์ปที่โยงถึงคนใกล้ชิด “ทักษิณ” เป็นต้น
แต่หลังจากนั้นเรื่องราวก็เงียบหายไปราวกับสายลม 
เนื่องจากรัฐบาลในอีก 2 สมัยต่อมา คือ “พรรคพลังประชาชน” ที่ถูกมองว่าเป็น “นอมินี” พรรคเพื่อไทย ที่ถูกยุบพรรคไปก่อนหน้านี้ และนายกรัฐมนตรีคือ “สมัคร สุนทรเวช” และ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์”
ก่อนปฏิบัติการ “เด็ดปีก” จะมาคุกรุ่นอีกครั้งในสมัยรัฐบาล “อภิสิทธิ์” 
ซึ่งทำสำเร็จเสียด้วย !
โดยกระทรวงการต่างประเทศ ที่มี “กษิต ภิรมย์” เป็นหัวเรือใหญ่ขณะนั้น ได้ยกเลิกหนังสือเดินทางทูตแบบพิเศษ หรือ “พาสปอร์ตแดง” เมื่อปลายปี 2551 หลังจากที่ “ทักษิณ” ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินว่า มีความผิดในคดีที่รัชดาภิเษก ต้องจำคุก 2 ปี และคดีได้ถึงที่สุดเนื่องจากไม่มีการอุทธรณ์ และ “ทักษิณ” ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว
“กษิต” อธิบายถึงกรณีการยกเลิกพาสปอร์ตแดงของ “ทักษิณ” ว่า สถานะของคุณทักษิณเป็นผู้ต้องหา แล้วก็หนีคุกตารางไป เราจึงได้ยกเลิกหนังสือเดินทางการทูต ซึ่งหนังสือเดินทางการทูตมันไม่ใช่สิทธิ แต่เป็นอภิสิทธิ์ที่รัฐบาลไทยได้ให้กับราชวงศ์ ให้กับผู้มีตำแหน่งรัฐมนตรี ผู้มีตำแหน่งทูต หรือบุคคลสำคัญเป็นกรณี ๆ ไป
“ในเมื่อคุณทักษิณ มีสถานะเป็นผู้ร้ายแล้วหนีคดีแล้วก็ไม่คู่ควรที่จะได้รับสิทธิอันนี้ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เราได้ยกเลิกหนังสือเดินทางของคุณทักษิณด้วย” อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวทิ้งท้าย
นอกจากนี้ยุครัฐบาล “มาร์ค” ยังยกเลิกหนังสือเดินทางบุคคลทั่วไป หรือ “พาสปอร์ตเล่มน้ำตาล” ของ “ทักษิณ” ด้วย เมื่อช่วงเดือนเมษายน 2552 ด้วย ซึ่งนายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ (ขณะนั้น) ระบุเหตุยกเลิกว่า “เพื่อไม่ต้องการให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่จะเป็นภัยต่อประเทศอีก”
แต่การกระทำดังกล่าวก็ไม่กระทบ “ทักษิณ” มากนัก เนื่องจากยังมีหนังสือเดินทาง “มอนเตเนโกร” อยู่ในมือ ทำให้บินนอก-ออกในบางประเทศได้อย่างไม่มีปัญหา แต่มีข้อจำกัดในการเดินทางเข้าประเทศที่มีข้อห้ามผู้ต้องโทษเข้าเมือง เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เป็นต้น
อย่างไรก็ดีเมื่อพ้นยุค “รัฐบาลในค่ายทหาร” ไป จนกระทั่งการมาเยือนของ “นารีขี่ม้าขาว” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้มีการปัดฝุ่นรื้อแผน “คืน” พาสปอร์ตให้ “ทักษิณ” อีกครั้ง
โดยในช่วงปลายปี 2554 4 เดือนภายหลัง “รัฐนาวายิ่งลักษณ์” ได้รับชัยชนะการเลือกตั้ง “สุรพงษ์ โตวิจักรชัยกุล” รมว.ต่างประเทศ (ขณะนั้น) กล่าวยอมรับว่า รัฐบาลได้พิจารณายกเลิกคำสั่งรัฐบาลที่แล้ว พร้อมดำเนินการคืน “พาสปอร์ต” ให้ “ทักษิณ” แล้ว
เนื่องจากการอยู่ต่างประเทศของ “ทักษิณ” นั้น ไม่ได้ก่อความเสียหายต่อประเทศและต่างประเทศ 
แม้ว่า สตง. จะมีหนังสือถึงรัฐบาลว่า การคืนพาสปอร์ตดังกล่าวให้ “ทักษิณ” เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แต่ “สุรพงษ์” ชี้แจงว่า พาสปอร์ตก็มีสถานะเหมือนบัตรประชาชนที่ใช้แสดงสัญชาติในต่างประเทศ ดังนั้นการยึดพาสปอร์ตก็เหมือนการยึดสัญชาติ นี่ต่างหากเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง 
นอกจากนี้ในการคืนพาสปอร์ตดังกล่าวยังทำตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง ข้อ 23(7) ซึ่งเป็นระเบียบเดียวกับที่ “กษิต” ยกเลิกพาสปอร์ต “ทักษิณ” ทุกประการ
ด้วยเหตุผลทั้งมวลของ “สุรพงษ์” ทำให้ “ทักษิณ” กลับมา “สยายปีก” ทัวร์รอบโลกได้อีกครั้ง !
ก่อนที่เวลาจะผ่านมาอีกราว 4 ปีเศษ “รัฐนาวายิ่งลักษณ์” ถูกรัฐประหาร คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ายึดอำนาจ ภายหลังควบคุมประเทศมากว่า 1 ปี จึงได้มีคำสั่งยกเลิก “พาสปอร์ต” ของ “ทักษิณ” อีกครั้ง
ล่าสุด “สุรพงษ์” ออกมาให้ความเห็นกรณีนี้ว่า ถ้าได้กลับมาเป็นรัฐบาล ก็จะคืนหนังสือเดินทางให้ “ทักษิณ” เหมือนเดิม เพราะมองว่า “ทักษิณ” ไม่ได้ทำความเสียหายอะไร
ทำให้ “หนังม้วนนี้” ดูท่าว่าจะยาว และไม่ได้ปิดฉากลงง่าย ๆ เหมือนที่ คสช. ต้องการในอนาคตเป็นแน่ 
เหมือนกับที่ความขัดแย้งในประเทศยังบานปลายและคุกรุ่นอยู่ในขณะนี้ !

ไม่มีความคิดเห็น: