PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เกมลึก "บิ๊กตู่" ผ่าตัดทัพ 1 "อุดมเดช" นิ่ง จับตา "พอพล-ปรีชา" ชิง ผบ.ทบ. และแม่ทัพเรือ "เข้"

เกมลึก "บิ๊กตู่" ผ่าตัดทัพ 1 "อุดมเดช" นิ่ง จับตา "พอพล-ปรีชา" ชิง ผบ.ทบ. และแม่ทัพเรือ "เข้"

วันที่ 02 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11:30:03 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (แฟ้มภาพ)

รายงานพิเศษ/มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับ 27 ก.ย.- 3 ต.ค.2556)



แม้บัญชีแต่งตั้งโยกย้ายทหาร จะคลอดออกมาแล้ว แต่เรื่องที่ยังเม้าธ์กันสนั่นกองทัพบก ก็คือ ฝีมือการตัดกองทัพภาค 1 ของบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.

เพราะนอกจากจะเปลี่ยนแม่ทัพภาค 1 คนใหม่ ด้วยการคิดใหม่ทำแปลก โดยให้บิ๊กหมู พล.ท.ธีระชัย นาควานิช ขยับแนวระนาบจาก รอง เสธ.ทบ. มานั่งคุมขุมกำลังหลัก แทนการให้ขึ้นจาก รองแม่ทัพภาค 1 หรือแม่ทัพน้อย 1

แถมทั้ง พล.ท.ธีระชัย ก็ไม่ได้อยู่ในเส้นทางเหล็กของผู้ที่จะขึ้นแม่ทัพภาค 1 เพราะแม้จะเป็น ผู้บังคับกองพัน และผู้บังคับการกรม จาก พล.ร.2 รอ. บูรพาพยัคฆ์ แต่ก็ไม่เคยเป็น ผู้บัญชาการกองพล มาก่อน แต่ก็เคยเป็นแม่ทัพน้อย 1

แต่ด้วยเพราะ เก้าอี้แม่ทัพภาค 1 ในโยกย้ายครั้งนี้ เป็นโควต้าของบูรพาพยัคฆ์และน้องรักของบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต รมว.กลาโหม พี่ใหญ่แห่งทหารเสือตะวันออก จึงทำให้ พล.ท.ธีระชัย ข้ามมาเสียบแทนบิ๊กอู๊ด พล.ท.วลิต โรจนภักดี ที่ยังต้องนั่งเป็นแม่ทัพน้อย 1 รอที่จะเป็นแม่ทัพภาค 1 ในปีหน้า ด้วยความหวังว่าจะไม่ถูกเสื้อแดงสกัดอีก

แต่ทว่าได้ถูกมองว่า เป็นกลเกม การเตะถ่วงเวลาของ พล.ท.ธีระชัย ที่เดิมมีชื่อจ่อชิง เสธ.ทบ. แต่เพราะหากให้ขึ้นมาเป็นพลเอก ขึ้นห้าเสือ ทบ. เลย ก็จะกลายเป็นแคนดิเดต ผบ.ทบ.คนใหม่ ในการโยกย้ายปลายปี 2557 เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เกษียณ แข่งกับบิ๊กโด่ง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เสธ.ทบ. เพื่อน ตท.14 กันเอง ที่ขยับขึ้นจ่อเป็น รอง ผบ.ทบ. เนื่องจาก พล.ท.ธีระชัย เกษียณปี 2559 ส่วน พล.อ.อุดมเดช นั้นเกษียณปี 2558

อีกทั้งจะเป็นการทำให้ พล.ท.ธีระชัย ได้เปรียบบิ๊กติ๊ก พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาค 3 น้องชายแท้ๆ ของ พล.อ.ประยุทธ์ เอง ที่ถูกจับตามองว่า ในโยกย้ายปลายปีหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จะผลักดันขึ้นห้าเสือ ทบ. แน่นอน เพื่อไปวัดดวงชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ. คนต่อจาก พล.อ.อุดมเดช



พล.ท.ปรีชา นั้นเป็นแกนนำ ตท.15 แถมมีอายุราชการถึงปี 2559 โผโยกย้ายครั้งนี้จึงถูกมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จัดทัพเพื่อกรุยทางให้น้องชาย

เพราะ พล.ท.วลิต เอง ก็ไม่ได้ขึ้นแม่ทัพภาค 1 แต่เป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 ต่อไป เพราะเขาเป็น ตท.15 และมีอายุราชการถึงปี 2559 เช่นเดียวกับ พล.ท.ปรีชา

เชื่อกันว่า ก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จะเกษียณ ก็คงต้องส่ง พล.ท.ปรีชา น้องชาย ขึ้นฝั่งเป็นห้าเสือ ทบ. ก่อน เพื่อให้ไปวัดดวงเอาว่าจะได้เป็น ผบ.ทบ. ต่อจาก พล.อ.อุดมเดช หรือไม่ เพราะ พล.อ.อุดมเดช นั้น เมื่อเป็น ผบ.ทบ. ในโยกย้ายปลายปีหน้า ก็คงต้องตอบแทน พล.อ.ประยุทธ์ ในลักษณะใดลักษณะหนึ่งแน่

อีกทั้งยังมีเหตุผลที่สวยงาม ในการดันแม่ทัพภาค 3 ขึ้นห้าเสือ ทบ. ว่าเพื่อเป็นการกระจายความเป็นธรรม ไม่ใช่ให้แต่แม่ทัพภาค 1 เท่านั้น

หนทางของ พล.ท.ปรีชา สู่เก้าอี้ 5 เสือ ทบ. อาจจะมองเห็นชัดเจน แต่ทว่าหนทางที่จะขึ้นเป็น ผบ.ทบ. นั้นไม่ง่าย

ด้วยเพราะ พล.ท.ปรีชา นั้น ไม่ใช่แค่ไม่ได้โตมาในสายกำลังรบ หรืออาจเรียกว่า ไม่ได้เป็นดาวรุ่งหรือดาวเด่นในกองทัพภาค 3 มาก่อนเลย จนเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็น ผบ.ทบ. นี่เอง ที่เขาได้เข้าไลน์เป็นรองแม่ทัพภาค 3 แม่ทัพน้อย 3 และ เป็นแม่ทัพภาค 3



ทั้งนี้ ยังมีบิ๊กอุ๋ย พล.ท.พอพล มณีรินทร์ ผบ.ร.ร.นายร้อย จปร. ที่ไม่อาจมองข้าม เพราะมีข่าววงในว่า ได้รับการผลักดันจากแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้ขึ้นเป็นห้าเสือ ทบ. ตั้งแต่การโยกย้ายครั้งล่าสุดแล้ว แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ต่อรองให้รอไปก่อน เพราะเป็น ตท.16 และมีอายุราชการถึงปี 2559

แต่เชื่อว่าโผหน้า ก่อน พล.อ.ประยุทธ์ เกษียณ ก็คงต้องไฟเขียวให้ พล.ท.พอพล ขึ้นมาเป็นห้าเสือ ทบ.

แม้ว่าภาพพจน์ พล.ท.พอพล จะเป็นนายทหารที่ติดตามบิ๊กจิ๋ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มายาวนาน แต่ทว่าเส้นทางของเขานั้นไม่ธรรมดา ตรงที่เป็นนายทหารรบพิเศษหมวกแดง และเป็นนักรบเหรียญรามมาลาเข็มกล้ากลางสมร จึงได้ถูกคัดเลือกมาเป็นนายทหารคนสนิท พล.อ.ชวลิต ตอนเป็น ผบ.ทบ.

แต่ทว่าก็ไม่เคยเป็น ผู้บัญชาการกองพลคุมสายกำลังรบ แต่เป็น ผบ.ร.ร.เตรียมทหาร ผบ.ร.ร.นายร้อย จปร. ที่ถือว่าเป็นนายทหารที่สมาร์ต และเป็นครูใหญ่ของเด็กๆ

ที่สำคัญ เขาเป็นน้องชายของ พล.ต.ท.วงกต มณีรินทร์ แกนนำ ตท.10 เพื่อนซี้ พ.ต.ท.ทักษิณ

ทั้ง พล.ท.ปรีชา และ พล.ท.พอพล จะเป็นตัวแทนของ ตท.15 และ ตท.16 ในการชิงขึ้นมาเป็นห้าเสือ ทบ. ในโยกย้ายปลายปีหน้า และชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ. กันในปลายปี 2558



แต่ทว่า ณ เวลานี้ พล.อ.อุดมเดช เสธ.ทบ. ที่ขยับขึ้น รอง ผบ.ทบ. นั้น ถูกมองว่านอนมา 100% ที่จะเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่ ต่อจาก พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะเกษียณกันยายน 2557 นี้ เพราะพร้อมสรรพทั้งเส้นทางรับราชการที่โตมาในสายกำลังรบ และเป็นนายทหารเสือราชินี

มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับฝ่ายรัฐบาลพรรคเพื่อไทย จากการทำงานในฐานะ เสธ.ทบ. ที่เป็น เลขาธิการ กอ.รมน. ด้วยทำให้กลายเป็นคนคุ้นเคยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่เป็น ผอ.รมน. ด้วย

รวมทั้งการเป็น แผงดรีมทีมความมั่นคง ทั้งกับบิ๊กแมว พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯ สมช. เพื่อน ตท.14 น้องรักของ พ.ต.ท.ทักษิณ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาฯ ศอ.บต. และบิ๊กแป๊ะ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกลาโหม คนใหม่ เพื่อน ตท.14 ที่กลายเป็นนายทหารข้างกาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ อีกคน

เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้จะมีโปรดเกล้าฯ ให้เป็น รอง ผบ.ทบ. ครองอัตราจอมพล แล้ว แต่ พล.อ.อุดมเดช ก็ยังรักษาอาการนิ่งไว้ได้ดังเดิม ไม่มีการยิ้มร่า หรือดีใจอะไรจนเกินงาม และหลีกเลี่ยงที่จะให้ใครแสดงความยินดี

ทั้งนี้ อาจเพราะเกรงว่าจะออฟไซด์ พล.อ.ประยุทธ์ ที่กำลังจะหมดความสำคัญหมดอำนาจลงไปด้วยนั่นเอง



ที่น่าจับตามองคือ ตอนนี้ ตท.14 ขึ้นมาเป็นแผงรองรับ พล.อ.อุดมเดช แล้ว ทั้ง พล.ท.ธีระชัย เป็นแม่ทัพภาค 1 พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง เป็นแม่ทัพภาค 2 บิ๊กโบ้ พล.ท.อักษรา เกิดผล เป็น เสธ.ทบ.คนใหม่ และจะเป็น เลขาธิการ กอ.รมน.ที่จะมาอยู่ในดรีมทีมความมั่นคงด้วย

และต้องรอดูว่า ตท.14 แผงดรีมทีมความมั่นคง จะยึดเก้าอี้แม่ทัพภาค 4 ในการโยกย้ายกลางปี เมษายนปีหน้าหรือไม่ เมื่อบิ๊กแขก พล.ท.สกล ชื่นตระกูล จะต้องขยับเป็นพลเอก เตรียมเกษียณ เมื่อนั้น อาจมีการส่งบิ๊กไก่ พล.ต.กิตติ อินทสร รองแม่ทัพภาค 4 แกนนำ ตท.14 ขึ้นมาเป็น พลโท ผช.เสธ.ทบ.ฝ่ายข่าว ไว้แล้ว

เพราะแม้จะมีข่าวว่า มีบางสูตรอำนาจที่จะดัน พล.ท.วลิต ลงไปเป็นแม่ทัพภาค 4 ก็ตาม แต่วงใน ทบ. เชื่อกันว่า พล.ท.วลิต ต้องการลุ้นที่จะผ่านด่านรัฐบาลพรรคเพื่อไทยและเสื้อแดง ขึ้นเป็นแม่ทัพภาค 1 มากกว่า ที่จะต้องหนีกระแสต้าน ลงไปโตในชายแดนใต้

เพราะแม้ร่างกายจะแข็งแรงดีแล้วจากที่ถูกระเบิดที่สี่แยกคอกวัว ตอนเมษายน 2553 แต่ก็อาจจะทำงานที่ชายแดนใต้ไม่ได้เต็มที่นัก

แต่อีกสูตรอำนาจหนึ่งคือ พล.อ.ประยุทธ์ อาจคิดใหม่ทำใหม่ ด้วยการให้ พล.ต.ปราการ ชลยุทธ รองแม่ทัพภาค 3 ที่ขยับไปเป็นรองแม่ทัพภาค 4 ในโผโยกย้ายล่าสุด ขึ้นเป็นแม่ทัพภาค 4 แทน เนื่องจากเห็นฝีมือเมื่อครั้งลงไปเป็น ผบ.ฉก.ยะลา และจะเป็นการส่งทหารจากเหนือ และเป็นทหารม้า มาแก้ไฟใต้บ้าง

อย่างไรก็ตาม ในบรรดา ผช.เสธ.ทบ.ชุดใหม่หลายคน ก็มีสิทธิ์ที่จะลุ้นเป็นแม่ทัพภาค 4 และแม่ทัพภาค 1 ชิงกับ พล.ท.วลิต ได้ เพราะขยับขึ้นพลโท กันในโผนี้แล้ว ทั้งบิ๊กโชย พล.ต.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผช.เสธ.ทบ.ฝ่ายยุทธการ บิ๊กอิ๊ด พล.ต.ภาณุวัชร์ นาควงษม์ ผช.เสธ.ทบ.ฝ่ายกิจการพลเรือน

แต่โอกาสที่ พล.ต.กัมปนาท ตท.16 และ พล.ต.ภาณุวัชร์ ตท.17 ซึ่งเกษียณปี 2559 ที่จะเป็น ผบ.ทบ.นั้น ริบหรี่ลงไปแล้วจากโผนี้ เพราะต้องไปไต่อีกหลายขั้น จาก ผช.เสธ. เป็น รอง เสธ.ทบ. นอกเสียจากขึ้นแม่ทัพภาคใดภาคหนึ่ง ในโยกย้ายปลายปี จึงจะมีสิทธิ์ลุ้น

ส่วนบิ๊กแกะ พล.ต.พิสิทธิ์ สิทธิสาท รองแม่ทัพภาค 1 ที่ถูกย้ายเป็น ผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ. แต่ปลอบใจโดยให้เป็น พลโท นั้น ก็ดูจะหมดโอกาสโต เพราะถูกเรื่องร้องเรียน และเกมการเมืองภายใน ทบ. สกัดดาวรุ่งไปเรียบร้อยแล้ว



แต่คนที่คนใน ทบ. รู้ดีว่า คือทายาทอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็คือบิ๊กเข้ พล.ต.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ผบ.พล.ร.2 รอ. น้องรัก ที่ขยับขึ้นรองแม่ทัพภาค 1 ในโผครั้งนี้ เพื่อจ่อเป็นแม่ทัพภาค 1 ในอนาคต ที่คาดกันว่าเขาจะเป็นบูรพาพยัคฆ์อีกคนที่จะขึ้นมาแบบ Fast Track แบบ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ขึ้นมายศละปี ในตำแหน่ง โดย พล.ต.เทพพงศ์ นั้นเป็น ตท.18 ที่มีอายุราชการถึงปี 2562 เลยทีเดียว

ส่วนน้องรักอีกคนของบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็คือบิ๊กตู่เล็ก ว่าที่ พล.ต.กู้เกียรติ ศรีนาคา แกนนำยังเติร์ก ทบ. แห่ง ตท.20 ที่ขึ้นมาเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. แทน

ในเวลานี้ ใน ทบ. เริ่มมองข้ามช็อตกันไปแล้วว่า เมื่อ พล.อ.อุดมเดช ขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ. ในปลายปีหน้า หน้าตาห้าเสือ ทบ. ที่วางกันไว้คือ ขยับ ว่าที่ พล.อ.อักษรา จาก เสธ.ทบ. เป็นรอง ผบ.ทบ. แล้วให้บิ๊กน้อย พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รอง เสธ.ทบ. เพื่อน ตท.14 มาเป็น เสธ.ทบ. และมี พล.ท.พอพล ผบ.ร.ร.จปร. มาเป็น ผช.ผบ.ทบ. และ พล.ท.ธีระชัย แม่ทัพภาค 1 มาเป็น ผช.ผบ.ทบ. อีกคน

ส่วนบิ๊กต๊อก พล.ท.ไพบูลย์ คุ้มฉายา แม่ทัพภาค 1 แกนนำ ตท.15 ที่ขึ้นมาเป็น พลเอก เป็น ผช.ผบ.ทบ. ในโยกย้ายครั้งนี้ แม้จะมาแรงและ Fast Track ด้วยแรงหนุนจากแกนนำรัฐบาลพรรคเพื่อไทย รวมทั้ง เป็นน้องรักในสายวงศ์เทวัญของ พล.อ.ประยุทธ์ อีกด้วยก็ตาม แต่ก็เสียเปรียบ หากจะชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ. กับ พล.อ.อุดมเดช ที่เป็นรุ่นพี่และอาวุโสกว่า เกินไปหลายขุมแล้ว

ตามโผของ ตท.14 แล้ว โยกย้ายปลายปีหน้า เมื่อ พล.อ.อุดมเดช ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ก็จะส่ง ว่าที่ พล.อ.ไพบูลย์ ขยับจาก ผช.ผบ.ทบ. ข้ามไปเป็น รองปลัดกลาโหม เลยทีเดียว

ท่ามกลางการจับตามองว่า พล.ท.ไพบูลย์ จะยอมง่ายๆ หรือ ในเมื่อเขานั้นถือว่าไม่ธรรมดา ตั้งแต่ฝ่าด่านต่างๆ ขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาค 1 ได้ โดยโดนครหาว่า เป็นใบสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ จนเจ้าตัวต้องออกมาประกาศว่า "คนอย่างผมไม่เคยกราบเท้าใคร" มาแล้ว

รวมถึงมีข่าวลือออกมาเสมอๆ ถึงการพบปะติดต่อกับ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เนืองๆ ในต่างแดน ยิ่งเมื่อมีข่าวว่า พล.ท.ไพบูลย์ ลาไปต่างประเทศ ก็ต้องเช็กข่าวกันวุ่นว่าไปพบเจอใคร

เหล่านี้ถือเป็นเรื่องธรรมดาในวงการทหาร ในการแย่งชิงอำนาจในหมู่เพื่อนพี่น้องสายเลือดทหารด้วยกัน แต่จะยิ่งดุเดือด เมื่อต้องอิงอำนาจทางการเมือง



แต่ที่เชื่อว่าจะดุเดือดไม่แพ้กันก็คือ กองทัพเรือ ที่ บิ๊กเข้ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร.คนใหม่ จะต้องบริหารจัดการความขัดแย้งภายในของ ทร.

ทั้งความน้อยเนื้อต่ำใจ ในการแชร์อำนาจ กระจายอำนาจในแต่ละรุ่น เพราะแม้ว่าบิ๊กหรุ่น พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. จะจัดให้มีทุกรุ่นใน 5 ฉลามทัพเรือ คือ พล.ร.อ.ณรงค์ และบิ๊กเจี๊ยบ พล.ร.อ.จักรชัย ภู่เจริญยศ รอง ผบ.ทร. และ พล.ร.อ.ไกรสรณ์ จันทร์สุวานิชย์ ผช.ผบ.ทร. เป็น ตท.13 และบิ๊กปุ๋ย พล.ร.อ.พิจารณ์ ธีรเนตร ผบ.กองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) เป็น ตท.14 และบิ๊กจุ๊ พล.ร.อ.ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ ตท.15 เป็น เสธ.ทร. ก็ตาม

แต่ก็พบว่า ตท.15 ขยับขึ้นมาเป็นพลเรือเอกหลายคน ในขณะที่ยังเป็นแผงอำนาจที่คุมกำลังรบทัพเรือ ทั้ง บิ๊กเผือก พล.ร.อ.อนุทัย รัตตะรังสี และบิ๊กณะ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทร. ส่วน ตท.14 นั้น มีบิ๊กน้อง พล.ร.อ.พจนา เผือกผ่อง บิ๊กตัน พล.ร.อ.ชัยณรงค์ เจริญรักษ์

แต่ที่จับตามองคือ ปฏิกิริยาของบิ๊กต้อม พล.ร.อ.อมรเทพ ณ บางช้าง ที่ถูกเตะไปเป็น รอง ผบ.สส. เมื่อพลาดเก้าอี้ ผบ.ทร.

"ไม่มีอะไรหรอก ยังไงก็เพื่อนกัน คุยกันได้" พล.ร.อ.ณรงค์ ผบ.ทร.คนใหม่ เปรย พร้อมเชื่อมั่นว่า ทร. ไม่มีปัญหาในเรื่องความขัดแย้งอะไร

เพราะในส่วนตัวแล้ว พล.ร.อ.ณรงค์ เผยว่า "ผมเป็นคนใจดี ไม่ได้ดุเข้มอะไร ไม่เชื่อก็ลองดูได้"

โดยเขาจะพยายามทำให้ ทัพเรือ เป็นเหล่าทัพที่รักษาธรรมเนียมให้ได้มากที่สุด ทั้งในการเป็นทหารอาชีพ และวางระยะห่างกับการเมือง รวมทั้งอยู่กันแบบพี่ๆ น้องๆ

ภารกิจสำคัญก็คือ การสานต่อในการแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ ในฐานะที่ ทร. มีหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน (ฉก.นย.) ดูแลพื้นที่ 5 อำเภอของ จ.นราธิวาส โดยเน้นที่การดูแลสวัสดิการ ขวัญกำลังใจของทหาร เช่นที่ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ เคยทำไว้ จนมีการตั้งกองทุนน้ำใจไทยฯ ช่วยดูแล

"ผมตั้งใจว่า เมื่อรับมอบหน้าที่ ผบ.ทร. แล้ว ก็จะลงใต้ไปเยี่ยม พบปะทหารเรือที่นราธิวาส" บิ๊กเข้ กล่าว



ส่วนที่สงสัยกันว่า เพราะเหตุใด จึงมีชื่อเล่นว่า "เข้" นั้น พล.ร.อ.ณรงค์ เผยว่า เพราะเป็นคนที่ชอบว่ายน้ำมาก ตอนเรียน ร.ร.เตรียมทหารนั้น เพื่อนๆ เห็นว่าชอบลงไปว่ายน้ำลอยคอในสระตลอด นั่นเอง

แต่เรื่องฝันที่จะมีเรือดำน้ำนั้น ผบ.ทร.คนใหม่ บอกว่า ตอนนี้โอกาสยังไม่มา จังหวะยังไม่ได้ แม้ว่าจะมีความจำเป็นกับ สมุทรานุภาพ หรือ Sea Power ของ ทร. ในการปกป้องอธิปไตยและน่านน้ำ ในยุคที่ให้ความสำคัญกับ Maritime security เช่นนี้

แต่ทว่าก็ต้องดูงบประมาณและปัจจัยหลายอย่าง เราจึงต้องใช้เรือผิวน้ำ เรือฟริเกตไปก่อน เมื่อถึงจังหวะที่เหมาะสม ทร. เราจะเสนอขอรัฐบาลแน่นอน แต่ตอนนี้ก็แค่ส่งทหารไปฝึก ศึกษาหลักสูตรเรือดำน้ำก่อนเท่านั้น

ส่วนเรื่องอื่นไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แม้แต่ความขัดแย้งต่างๆ เพราะในยุคนี้เป็นยุคปรองดอง

"ยิ่งนายกฯ และ รมว.กลาโหม หญิง ที่ไม่ตอบโต้อะไรกับใคร ก็จะยิ่งทำให้ไม่เพิ่มความขัดแย้งได้" แม่ทัพเรือคนใหม่ ทิ้งท้าย

ไม่มีความคิดเห็น: