PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558

ทนายเผย อาเดม เป็นชาวอุยกูร์ สารภาพวางบึ้มจริง ตอบแทนบุญคุณ ไม่รู้จักคนอื่นที่ถูกจับ

วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 11:00:01 น

http://www.matichon.co.th/online/2015/09/14435857131443585737l.jpg

วันที่ 30 กันยายน นายชูชาติ กันภัย ทนายความเข้าพบนายอาเดม คาราดัก หรือ บิลาล โมฮัมเหม็ด ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดบริเวณศาลท้าวมหาพรหม เอราวัณ แยกราชประสงค์ ที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรีมณฑลทหารบกที่ 11โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนจะออกมา เปิดเผยว่า นายอาเดม ยอมรับว่า เป็นชาวอุยกูร์ ไม่ใช่คนสัญชาติตุรกี โดยสารภาพว่า เป็นผู้นำระเบิดไปวางจริง โดยทำตามคำสั่งของนายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์มาน ซึ่งเป็นผู้ที่นำนายอาเดม เข้ามาในประเทศไทย และรู้จักกับ นายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์มาน มาตั้งแต่เดือนเมษายนปีนี้

แต่นายอาเดม อ้างว่าไม่ทราบสาเหตุที่ยอมทำตามคำสั่งของนายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์มาน แต่เชื่อว่า อาจจะเป็นเพราะบุญคุณที่นายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์มาน สัญญาว่า จะนำพาไปยังประเทศที่สาม และนายอาเดม ยังยอมรับว่า เป็นบุคคลที่ใส่เสื้อสีเทา ที่มีข้อความ ไอเลิฟไทยแลนด์จริง โดยนายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์มาน เป็นผู้ซื้อมาให้

สำหรับหนังสือเดินทาง นายอาเดม ยอมรับว่า เป็นหนังสือเดินทางปลอมของประเทศตุรกี และปฏิเสธว่า ไม่เคยรู้จักกับกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับคนอื่นๆในคดีนี้ ส่วนแนวทางการสู้คดี นายอาเดม ต้องการล่ามที่สื่อสารภาษาอุยกูร์ได้ เท่านั้น เนื่องจากไม่สามารถสื่อสารในภาษาอังกฤษ หรือภาษาตุรกี ได้คล่อง และในฐานะทนายความเตรียมทำรายงานมูลเหตุจูงใจเสนอต่อศาลทหาร กรุงเทพฯ เพื่อพิจารณา ผ่อนปรนโทษเนื่องจากให้การรับสารภาพ

ประวัติศาสตร์ ทบ. ตท.14 เป็น ผบทบ.ต่อกัน 2คน

ประวัติศาสตร์ ทบ. ตท.14 เป็น ผบทบ.ต่อกัน 2คน /ทบ.จัดยิ่งใหญ่อำลา "พลเอกอุดมเดช" และส่งมอบหน้าที่ ผบทบ. ร้องเพลง"คนดีไม่มีวันตาย" ลั่นทบ. ส่ง บิ๊กโด่ง
พลเอกอุดมเดช สีตบุตร ส่งมอบตำแหน่ง อำนาจหน้าที่ผบ.ทบ.ให้ พลเอกธีรชัย นาควานิช ผบทบ.คนใหม่ ซึ่งเป็นเพื่อน ตท.14 ด้วยกัน โดยมีการสวนสนามของกองทหารเกียรติยศ ทหารราบ ม้า ปืน จาก ร.1รอ. พล.ม.2รอ.และ พล ปตอ.
พลเอกอุดมเดช กล่าวอำลาตำแหน่ง โดยระบุว่า "การเป็นผบทบ.ถือเป็นเกียรติยศสูงสุด และภาคภูมิใจ ที่ได้รับหน้าที่สำคัญ รับผิดชอบที่มีต่อ ชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์และประชาชน ถือเป็นเวลาที่มีความหมาย มีค่า ที่ประทับใจ ที่ได้ร่วมปฏิบัติหน้าที่ที่มีความหมาย มีค่า ประทับใจ ร่วมปฏิบัติหน้าที่กำลังพลทุกคน ที่เสียสละตนเพื่อกองทัพและประเทศชาติ
พร้อมกล่าวยินดี กับ ผบทบ.คนใหม่ ด้วยความจริงใจ และเชื่อมั่นว่า ผบทบ ใหม่ จะใช้ความรู้ ประสบการณ์ อย่างมีวิสัยทัศน์ เพราะดำรงตำแหน่งสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง ตนเองพร้อมเป็นกำลังใจให้ทุกคน
ขณะที่ พลเอกธีรชัย กล่าวในการรับมอบตำแหน่ง ผบทบ.ว่า จะนำกองทัพบก อย่าง
เข้มแข็ง พรัอมรับภารกิจในทุกรูปแบบ และจะสนับสนุนงานของรัฐบาล อย่างเต็มที่ เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และดำรงเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของทบ. ในการเป็นกองทัพของ ชาติ และราชบัลลังก์ และประชาชนอย่างแท้จริง
หลังจบพิธี วงดุริยางค์ ทบ.ได้บรรเลงและร้องเพลง "คนดีไม่มีวันตาย" เพลงโปรด ของ พลเอก อุดมเดช เป็นการส่งท้าย ก่อนขึ้นรถ กลับออกไปจาก กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 11.32 น.

"ตู่"เช็กแล้ว! ไม่มี"อ๊อด"ในบัญชีการ์ดนปช.-ประวัติอาชญากรรม ถาม อยากมีเรื่องหรือ

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ  (นปช.) กล่าวในรายการมองไกล ผ่านยูทูป ถึงกรณีนายยงยุทธ พบแก้ว หรือ อ๊อด ผู้ต้องสงสัยเกี่ยวพันการวางระเบิดศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ โดย พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ระบุว่า เป็นการ์ด นปช. และถูกหมายจับในคดีระเบิดสมานเมตตาแมนชั่น ย่านบางบัวทองปี 2553 และระเบิดย่านมีนบุรี ปี 2557 เป็นผู้เกี่ยวข้องกับการวางระเบิดตามหมายจับ ว่า 

ตนเองได้ตรวจสอบรายชื่อการ์ด นปช. ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา นายอารีย์ ไกรนรา หัวหน้าการ์ด นปช. ยืนยันว่า ไม่มีรายชื่อนายอ๊อด ในทะเบียนประวัติ นอกจากนี้ ตนให้ทนายตรวจสอบคดีทั้ง 9 ครั้ง และต้องคำพิพากษาอีก 1 ครั้ง ของนายอ๊อดด้วย และปรากฎว่า ไม่มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนประวัติอาชญากรอีกเช่นกัน รวมทั้ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ปฏิเสธว่า ไม่พบข้อมูลของนายอ๊อด เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด สมานเมตตาแมนชั่น ย่านบางบัวทอง เมื่อปี 2553 แต่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กลับบอกปัดว่า เป็นข้อมูลชุดสอบสวนของตำรวจนครบาล ซึ่งต้องตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง

นายจตุพร กล่าวว่า ถ้านายอ๊อดถูกจับถึง 9 คดีแล้ว คงมีรายชื่อในทะเบียนประวัติอาชญากร สิ่งสำคัญต้องมีรูปถ่ายและเลขที่บัตรประชาชนด้วย แต่การทำหน้าที่ของตำรวจกลับมีข้อสงสัยอย่างมาก คือ ไม่มีรูปถ่ายที่ชัดเจน ได้แต่รูปภาพจางๆ มาแสดงประกอบการแถลงปิดคดี โดยเฉพาะคนต้องคดีไม่มีเลขบัตรประชาชนนั้น เป็นไปไม่ได้

การจงใจเลี้ยวเอาข้อหามาใส่ นปช. โดยโยงนายอ๊อดมาเชื่อมคนเสื้อแดง เท่ากับมองคนเสื้อแดงเป็นศัตรู ซึ่งเป็นวิธีสกปรกชั่วช้าที่สุด และเป็นไปได้อย่างไรถ้าคนถูกดำเนินคดี 9 ครั้ง ไม่มีบัตรประชาชนก็ปล่อยตัวไป ตำรวจทำหน้าที่เหมือนคนขายชาติเอาหน้ารอด ถ้าไม่เลิกพฤติกรรมประเภทใช้ปืนนัดเดียวยิงนกได้หลายตัวแบบนี้ ไม่ได้กิน นปช. ดังนั้น ควรเปิดตัวนายอ๊อดออกมาเลย ซึ่งก็ไม่รู้ว่า อ๊อดไหน และเป็นการทำหน้าที่แบบง่ายมากกับการอธิบายความเชื่อด้วยความเท็จเพื่อต้องการปิดคดี และตนจะไม่ยอมให้ใครมาทำลายขบวนการประชาชน

"ไอ้อ๊อด พวกผมไม่ทราบ ไม่ได้อยู่ในระบบการ์ด นปช. วิธีการแบบนี้ปัญหามันจะไม่จบ ยิ่งสร้างความเคลือบแคลงสงสัย ผมไม่มีปัญหาส่วนตัวกับ พล.ต.อ.สมยศ แต่การเลี้ยวมาที่เสื้อแดง ผมต้องรับผิดชอบต่อ นปช. เราได้พยายามเตือนการชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน ดังนั้น ใครคิดว่ามีอำนาจ ไปทำเรื่องราวที่เลวร้ายแบบนี้ สร้างความอยุติธรรมไปทั่วหัวระแหง แล้วคิดว่าทำได้ ต้องการบีบบังคับให้สู้เหรอ บอกแล้วว่า อยากอยู่ก็อยู่ไป หรือแผ่นดินนี้จะไม่มีที่ยืนกับคนอื่นด้วยเหรอ" นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร กล่าวอีกว่า มีการไปพูดเรื่องสันติภาพ อยู่ดีกินดีที่สหประชาชาติ แต่ในประเทศกลับหาแพะไปวันๆ คงยิ่งใหญ่กัน ทำไมไม่คิดว่า เมื่อประชาชนให้โอกาสแล้ว ควรบริหารประเทศไป แต่กลับหาเรื่องคนอื่นข้างทางตลอด ทำไมไม่อยู่กันดีๆ จะไปแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจก็ทำไป จะลดความเหลื่อมล้ำก็ทำไป หรือทำอะไรไม่ได้ก็เอาของตายดีกว่า ทำไมไม่แถลงบอกคนไทยว่า อยากมีเรื่อง ไม่ต้องการหางาน แสดงว่า ไม่ต้องการหาทางออกให้ประเทศใช่หรือไม่ 

ทั้งนี้ ฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ขอถามหัวใจพวกท่านว่า ต้องการอะไร ถ้าประชาชนยึดมั่นเวลาการคืนประชาธิปไตยแล้ว คงเกิดเรื่องแล้ว แต่ประชาชนยอมขมขื่น เพื่อให้ประเทศผ่านพ้นได้ หรืออาจคิดเอาเองว่า อำนาจปากกระบอกปืนจะข่มหัวใครก็ได้ ซึ่งลืมไปว่า นิสัยคนไทยจะเหลืออดกับสิ่งที่มากเกินไป

"พวกท่านตอนนี้อยู่ด้วยความระวังหรือระแวง พวกรอบข้างต้องการสร้างจินตนาการให้เกิดขึ้น เพื่อให้ท่านลงมือกับพวกผม ถ้ามีสติอยู่บ้าง ควรตั้งหลักทำหน้าที่ไป และอย่าให้องคาพยพของพวกท่านอย่าไปรุกรานคนอื่น เพราะพวกท่านรู้ดีว่า ขณะนี้กฎหมายไม่เป็นกฎหมาย ผมบอกมาหลายครั้งแล้วว่า มีเรื่องกันไม่ยากหรอก รบกันไม่ยาก ที่อดทนกันเพราะเห็นแก่ชาติบ้านเมือง พวกผมประกาศชัดไม่แย่งชิงอำนาจพวกท่าน แต่ไม่ต้องการให้ใครมาย่ำยีกัน พูดทั้งหมดตรงไปตรงมา อย่าให้พวกผมคิดว่า นั่งพับเพียบก็แล้ว นิ่งก็แล้ว ถ้ายังไม่หยุด ท่านจะได้ในสิ่งที่ท่านต้องการ" นายจตุพร กล่าว

"บิ๊กหมู”แถลงหน้าบก.ทบ. ลั่น หนุนรัฐบาล-คสช. ไม่เสื่อมคลาย

"บิ๊กหมู”แถลงหน้าบก.ทบ. ลั่น หนุนรัฐบาล-คสช. ไม่เสื่อมคลายสั่งทบ.-กกล.รส. ทำทุกวิถีทางสร้างภาวะประเทศให้ปกติ เอื้อต่อรัฐบาลบริหารประเทศ ยันสถานการณ์ยังไม่ปกติ ลั่นกองทัพไม่เป็นศัตรูกับใคร ไม่ขัดแย้ง เผยอยู่ข้าง “ประชาชน” ยึดคำสั่ง รมว.กลาโหม ปัดตอบ ปฏิวัติ เตรียมบินลงใต้ เผยนโยบายดับไฟใต้ เน้นสานงานต่อ เล็งเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติ
ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก คนใหม่ ที่เพิ่งรับตำแหน่ง กล่าวถึงนโยบายในการบริหารงานของกองทัพบก ว่า แนวทางที่จะปฏิบัติงานในปีที่จะถึงนี้ ทางกองทัพบกมีภารกิจรับผิดชอบอยู่แล้วในแต่ละงาน เพราะฉะนั้นตนจะพยายามทำตามความรับผิดชอบของกองทัพบก
สิ่งที่สำคัญคือจะทำให้กองทัพบกมีความเข้มแข็ง ส่วนการสนองต่อนโยบายของรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขับเคลื่อนการบริหารประเทศนั้น
" ผมอยากให้ทำความเข้าใจว่าสถานการณ์ประเทศเรายังอยู่ในภาวะไม่ปกติ ดังนั้นกองทัพบกจะมีส่วนสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ซึ่งผมเคยปฏิบัติงานตอนเป็นแม่ทัพภาคที่ 1
และต่อจากนี้ไปส่วนต่างๆ ทั้ง กองทัพ และกกล.รส.จะมีหน้าที่ทำทุกวิถีทาง เพื่อให้สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะปกติ พร้อมทั้งสร้างมีสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการบริหารประเทศของรัฐบาล ดั้งนั้นที่กล่าวไปจึงเป็นหน้าที่ของ คสช. กกล.รส. และกองทัพบก"

เมื่อถามว่า ผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่จะให้ความสำคัญกับสร้างบรรยากาศให้เอื้อต่อการบริหารประเทศ จะให้ลำดับความสำคัญหน้าที่ทหารอย่างไร เพราะทหารต้องดูแลหลายอย่าง รวมทั้งชายแดน พล.อ.ธีรชัย กล่าวต่อว่า ในส่วนชายแดนและภารกิจต่างๆ ถือเป็นภารกิจของกองทัพบกอยู่แล้ว ซึ่งกองกำลังชายแดนทั้งหมดมีหน้าที่รับผิดชอบแน่ชัดในการปฏิบัติ
"แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือ การดูแลสภาวะแวดล้อมของทั้งประเทศให้เอื้อต่อการบริหารประเทศ เพราะฉะนั้น ผมย้ำว่าทุกสิ่งทุกอย่างกองทัพบกจะทำให้ได้"

เมื่อถามย้ำว่าถ้าเป็นแบบนี้จะทำให้ทหารเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง หรือไม่ พล.อ.ธีรชัย กล่าวว่า “ไม่มีความขัดแย้ง เราอยู่ตรงกลาง และเราอยู่ข้างประชาชน เราไม่มีศัตรู แต่เรามีหน้าที่ทำความเข้าใจกับประชาชนทั้งหมด ว่าความมุ่งหวังของรัฐบาลมีความตั้งใจจริงต่อการบริหารประเทศ เพื่อให้เกิดความสงบสุข และเรียบร้อยที่สุด”
ผู้สื่อถามถามต่อว่า กองทัพบกจะให้ความมั่นใจหรือไม่จะสนับสนับสนุนรัฐบาลอย่างไม่เสื่อมคลาย พล.อ.ธีรชัย กล่าวว่า เราเป็นกองทัพของประชาชนที่ปฏิบัติงานร่วมกับรัฐบาล และปฏิบัติงานต่างๆ ตามแนวทางและนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
พล.อ.ธีรชัย กล่าวถึงนโยบายในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ว่า กองทัพบกไม่เคยเปลี่ยนแปลงนโยบาย ซึ่งนโยบายยังคงเหมือนเดิม โดยแนวทางการปฏิบัตินั้นจะปฏิบัติตามแนวทางรัฐบาลในแต่ละสภาวะ ซึ่งในสัปดาห์หน้าตนจะลงไปพื้นที่ จชต. เพื่อไปกำกับดูแล ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนวิธีการในการปฏิบัติงานใน จชต.ใหม่ ทั้งนี้จะต้องสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง

เมื่อถามว่านโยบายสร้างกองทัพบกให้เป็นกองทัพชั้นนำในอาเซียนอย่างไร พล.อ.ธีรชัย กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ดีในช่วยปลายเดือนพฤศจิกายน เราจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งกองทัพบกจะมีการประชุมผู้บัญชาการทหารบกอาเซียน รวม 10 ประเทศ อีกทั้งจะมีการแข่งขันยิงปืนกองทัพบกอาเซียน ซึ่งถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี เพราะเป็นหน่วยงานแรกที่มีการประชุมผู้บัญชาการทหารบกของอาเซียนที่ประเทศไทย และสิ่งต่างๆจะเป็นความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของกองทัพทั้งอาเซียน ขณะเดียวกันจะทำให้การเตรียมการที่จะเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ทางกองทัพบกได้เตรียมการมานานแล้วทุกเรื่อง เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล
เมื่อถามเริ่อง ให้ยืนยันเรื่อง การปฏิวัติ พลเอก ธีรชัย ยิ้มๆและปฏิเสธ จะตอบเรื่องนี้
"วันนี้ วันแรก ขอเบาๆ นะ" พลเอก ธีรชัย กล่าว

ลงทุนการศึกษาเพื่อให้หลุดพ้น “กับดัก”



30 กันยายน 2015
วรากรณ์ สามโกเศศ
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
สหประชาชาติกำลังพูดถึง Global Goals ของโลกใน 15 ปีข้างหน้า หรือที่รู้จักกันในชื่อเดิมคือ SDG (Sustainable Development Goals: เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน) ที่บ้านเราเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีพูดกันถึงเรื่อง “การพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในเอเชีย” โดย ดร.ฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (อดีตประธาน ADB) ในงาน Amartya Sen Lecture Series
ปาฐกถาครั้งนี้น่าสนใจเพราะมีส่วนที่เกี่ยวกับไทยอยู่มาก “จดหมายเหตุถึงเพื่อนสมาชิก” ของ สสค. (สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน) ได้ลงสรุปย่อปาฐกถาครั้งนี้ ซึ่งผู้บันทึกคือ ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์การศึกษา ของ สสค.
ในบ้านเราปัจจุบันมีนักเศรษฐศาสตร์การศึกษาน้อยคนมากอย่างน่าเสียดาย รุ่นใหม่ก็มี ดร.ไกรยศ (Harvard) ดร.ดิลกะ ลัทธพิพัฒน์ (Australian National University-Berkeley) อยู่ที่ World Bank เป็นผู้รับผิดชอบรายงานสถานะการศึกษาของประเทศไทยที่เพิ่งออกมาและ สสค. กำลังแปลเป็นไทย ดร.เกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว (Australian National University) อยู่ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มีบทความเรื่องการกู้ยืมเพื่อการศึกษา ในวารสารต่างประเทศหลายบทความ ฯลฯ
ผมขอนำข้อสรุปปาฐกถาบางส่วนมาสื่อต่อดังต่อไปนี้ “…ดร.ฮารุฮิโกะ กล่าวว่า แม้ว่าเศรษฐกิจเอเชียจะเติบโตเร็วถึง 12 เท่าภายในเวลา 50 ปีที่ผ่านมา แต่ในอีกไม่ช้านี้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในเอเชียจะต้องเผชิญกับปัญหาการชะลอตัวเช่นเดียวกับประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลกเคยประสบมา เนื่องมาจาก 3 กับดักที่สำคัญ คือ
(1) “กับดักของประเทศรายได้ปานกลาง” (Middle Income Trap) ประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่จะส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยการเพิ่มปัจจัยการผลิตที่สำคัญอย่างการลงทุนและการโยกย้ายแรงงานจากชนบทป้อนภาคอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มแรงงานราคาถูก แม้วิธีนี้จะใช้ได้ผลในระยะแรก แต่ผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจะค่อยๆ ลดลงจนหมดไปในที่สุด ประเทศที่ก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลางไปได้อย่างประเทศเสือเศรษฐกิจ 4 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ไต้หวัน และฮ่องกง สามารถก้าวข้ามได้ด้วยการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการเพิ่มผลิตภาพการผลิตรวม (Total Factor Productivity) ของระบบเศรษฐกิจ และการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง รวมถึงการเปิดตลาดใหม่สู่การเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขั้นสูงที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
(2) “กับดักโครงสร้างประชากร” (Demographic Trap) ธรรมชาติของประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร อันเนื่องมาจากอัตราการเกิดของประชากรที่ลดลงและอายุขัยเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น ประชากรในประเทศกำลังพัฒนาเหล่านี้จึงมีความเสี่ยงที่จะ “แก่ก่อนรวย” หรือก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ก่อนเป็นประเทศรายได้สูง (High Income Country) การมีประชากรวัยพึ่งพิงสูงกว่าประชากรวัยแรงงานเช่นนี้จะยิ่งทำให้การหลุดออกจากกับดักรายได้ปานกลางล่าช้ายิ่งขึ้นไปอีก
(3) “กับดักด้านความจำกัดของทรัพยากรธรรมชาติในประเทศ” (Natural Resource Trap) การสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ น้ำ รวมถึงที่ดิน เป็นต้น เมื่อทรัพยากรเหล่านี้ร่อยหรอไป ภาระต้นทุนการผลิตจึงเพิ่มขึ้นและฉุดรั้งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายจึงพยายามรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจด้วยการขยายฐานการค้นหาทรัพยากรธรรมชาติแหล่งใหม่จากในและนอกประเทศตนเอง
กับดักทั้ง 3 ประการนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยยังไม่สามารถเป็นเสือเศรษฐกิจตัวที่ 5 แห่งเอเชียได้เสียที ปัจจุบันการเจริญเติบโตของระบบเศรษฐกิจไทยยังคงพึ่งพาการส่งออกสินค้าการเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมที่ยังขาดนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงเหมือนเมื่อทศวรรษที่แล้ว ด้วยภาวะการแข่งขันในระดับนานาชาติที่สูงขึ้น รวมถึงความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ทำให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยไม่ยั่งยืน และมีแนวโน้มถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง
ห้องเรียนนำร่อง ห้องเรียนอนาคต โครงการซัมซุงSamsung Smart Learning โรงเรียนเทิงวิทยาคม จ.เชียงราย
ห้องเรียนนำร่อง ห้องเรียนอนาคต โครงการซัมซุงSamsung Smart Learning โรงเรียนเทิงวิทยาคม จ.เชียงราย
ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ในอีก 10 ปี ในขณะที่ประชากรวัยเด็กกำลังลดลง ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่ธนาคารโลกได้รายงานว่า “…มีการเพิ่มขึ้นของจำนวนโรงเรียนขนาดเล็ก (จำนวนเด็กต่ำกว่า 120 คน) ถึง 5,000 โรงเรียน (ปัจจุบันร้อยละ 50 ของ 28,803 โรงเรียนในบ้านเราเป็นขนาดเล็ก) อันเนื่องมาจากการลดลงของจำนวนนักเรียนกว่า 2 ล้านคน (ร้อยละ 20) ภายในเวลาเพียง 10 ปีเท่านั้น สวนทางกับการเพิ่มขึ้นของประชากรสูงวัยในประเทศไทย ทำให้ปัจจุบันดัชนีการสูงวัย (Aging Index) ซึ่งคิดจากสัดส่วนผู้สูงวัยต่อประชากรเด็ก 0-15 ปีของประเทศไทยสูงถึง 83.1 สูงเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน และมีแนวโน้มสูงกว่า 100 ภายใน 10 ปีข้างหน้านี้ ทำให้ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการก้าวออกจากกลุ่มประเทศรายได้ปานกลาง
ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นจึงได้ให้กุญแจ 3 ดอก ในการสร้างความยั่งยืนให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยและประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ในเอเชีย ได้แก่ (1) มาตรการยกระดับคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์ (2) การยกระดับสภาพแวดล้อมในการประกอบธุรกิจ และ (3) การพัฒนาตลาดการเงินให้เข้มแข็งและมีเสถียรภาพ โดยประเทศที่พัฒนาแล้วล้วนมีประชากรวัยแรงงานส่วนใหญ่ที่มีระดับการศึกษาสูง ตรงกันข้ามกับประเทศไทยที่ 7 ใน 10 คน ของประชากรวัยแรงงานมีการศึกษาสูงสุดเพียงแค่ระดับประถมศึกษาเท่านั้น
แม้ว่าประเทศไทยจะเร่งขยายโอกาสและคุณภาพทางการศึกษาผ่านการลงทุนด้านการศึกษาด้วยการจัดสรรงบประมาณด้านการศึกษาสูงถึงปีละ 5 แสนล้านบาท และเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 8 ต่อปี ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา แต่ด้วยการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้ระบบเศรษฐกิจไทยเติบโตเฉลี่ยเพียงร้อยละ 3 ต่อปีเท่านั้น หากต้นทุนการจัดการศึกษายังคงเพิ่มสูงกว่าการเติบโตของรายได้คนไทยถึง 2.5 เท่าเช่นนี้ มาตรการยกระดับคุณภาพทรัพยากรมนุษย์ของไทยก็จะไม่ยั่งยืน ระบบการศึกษาไทยจึงจำเป็นต้องมีการปฏิรูปประสิทธิภาพการลงทุนด้านการศึกษาอย่างเร่งด่วน…”
ด้วยสถานการณ์และทางโน้มของประเทศเราข้างต้น ดังนั้น จึงมีหนทางเดียวเท่านั้นที่จะสามารถช่วยให้หลุดพ้นจากปัญหาอันหนักหน่วงในอนาคตอันใกล้ได้ นั่นก็คือการเร่งปฏิรูปการศึกษาอย่างไม่อาจรออะไรได้อีกต่อไป
หมายเหตุ: ตีพิมพ์ครั้งแรก คอลัมน์“อาหารสมอง” นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันอังคารที่ 29 ก.ย. 2558

วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558

ปิดจ็อบ คสช.ล่ามือบึ้มราชประสงค์

ปิดจ๊อบ......
"พันเอกวินธัย" แถลง ยุติ การแถลงข่าวประจำวันของ ศูนย์ติดตามสถานการณ์ คสช. หลังรายงานความคืบหน้าต่อเนื่อง1เดือน11วัน หลังตำรวจจับกุมผู้ต้องหา-ปิดคดี จากนี้ให้ตำรวจแถลงตามปกติ
พันเอกวินธัย สุวารี โฆษก คสช. แถลงผ่าน ทรท. ว่า ภายหลังเกิดเหตุที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร คสช. ได้จัดตั้ง ศูนย์ติดตามสถานการณ์ฯ เพื่อเร่งรัด/ติดตาม และบูรณาการการปฏิบัติของหน่วยที่เกี่ยวข้องทั้งในด้านการสืบสวน สอบสวนคดี การให้ความช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต การรักษาพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ การดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อฟื้นฟูและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว การจัดการอบรม/ให้ความรู้ประชาชนและกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ในเรื่องแนวทางการสังเกตสิ่งบ่งชี้ เพื่อป้องกันการก่อเหตุร้ายรวมถึงการรายงานความคืบหน้าในด้านต่างๆ ให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย
ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วน สมบูรณ์ ทำให้สามารถแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดแล้ว และสถานการณ์โดยรวมของประเทศขณะนี้ได้คลี่คลายลง กลับสู่สภาวะปกติ ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคง ยังคงดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการปฏิบัติงานของ "ศูนย์ติดตามสถานการณ์คณะรักษาความสงบแห่งชาติ"และการชี้แจงสถานการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ จะได้ยุติลงนับตั้งแต่บัดนี้
อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณพี่น้องประชาชน สื่อมวลชน ที่เป็นส่วนสำคัญ และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในทุกด้าน จนทำให้เหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งได้รับการแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว สังคมไทยกลับมามีความสงบสุขเช่นเดิม
หลังจากนี้ในส่วนของคดีจะเป็นการดำเนินการของพนักงานสอบสวนตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งพี่น้องประชาชนสามารถติดตามความคืบหน้าได้จากช่องทางปกติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

“นายกฯ” เขียนคอลัมน์ ปลุกคนไทยเลิกยืมจมูกคนอื่นหายใจ สร้างความเข้มแข็งพึ่งพาตนเอง

“นายกฯ” เขียนคอลัมน์ ปลุกคนไทยเลิกยืมจมูกคนอื่นหายใจ สร้างความเข้มแข็งพึ่งพาตนเอง มั่นใจนโยบายช่วยฟื้นประเทศกลับมาเป็น “สยามเมืองยิ้ม” เผยเข้าใจ "ถ้าพี่น้องกินไม่อิ่ม นอนไม่หลับ แล้วจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปทำมาหากิน และจะเอากำลังกายกำลังใจที่ไหนไปสร้างชาติ"
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เขียนคอลัมน์ “จากใจนายกรัฐมนตรี” ลงใน “จดหมายข่าวรัฐบาลเพื่อประชาชน” ปีที่ 1 ฉบับที่ 11 วันที่ 1 ตุลาคม
โดยมีเนื้อหา ว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ด้วยความไม่สมดุลทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม อันเป็นผลมาจากความไร้เสถียรภาพทางการเมือง ส่งผลให้การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลขาดความต่อเนื่อง
หลังจากที่ผมเข้ามาบริหารประเทศได้มุ่งแก้ปัญหาของชาติในอดีต พร้อมทั้งวางรากฐานการปฏิรูปในอนาคต เพราะรู้ดีว่า ถ้าพี่น้องกินไม่อิ่ม นอนไม่หลับ แล้วจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปทำมาหากิน และจะเอากำลังกายกำลังใจที่ไหนไปสร้างชาติ
ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลกและเศรษฐกิจไทยต้องพึ่งรายได้กว่าร้อยละ 70 จากการส่งออก ผมคิดว่าคนไทยต้องเลิกยืมจมูกผู้อื่นหายใจ เราต้องสร้างความเข้มแข็งของประเทศด้วยการพึ่งพาตัวเองให้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา ดังนั้นรัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร ผู้เป็นกระดูกสันหลังของประเทศ ด้วยการแก้ปัญหาหนี้สินนอกระบบ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน ลดต้นทุนการผลิต พัฒนาแหล่งน้ำและระบบชลประทาน รวมไปถึงการพัฒนาสวัสดิการสังคม และการปลูกฝังวินัยการออม ให้ครอบคลุมถึงเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยที่ประกอบอาชีพอิสระ
นอกจากนี้ รัฐบาลได้เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน หมู่บ้าน ตำบล รวมถึงธุรกิจSMEs ที่เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการผลักดันกองทุนหมู่บ้าน ตำบล เม็ดเงินการลงทุนขนาดเล็กของรัฐ และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ เพื่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้
ทั้งนี้การลงทุนในระบบโครงสร้างการคมนาคมพื้นฐานทั้งทางถนน ราง ท่าเรือ ท่าอากาศยาน นอกจากจะช่วยในการขนส่งคนและสินค้าแล้ว ยังเป็นตัวเชื่อมโยงตัวเมืองสู่ท้องถิ่น เพื่อการกระจายความเจริญเชื่อมโยงแหล่งผลิตสู่ตลาด เชื่อมโยงเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอันเป็นรากฐานการผลิตขนาดใหญ่ไปสู่ภูมิภาคอาเซียนและตลาดโลก อันเป็นรากฐานการพัฒนาของประเทศในอนาคตต่อไป
"ผมมีความมั่นใจว่ามาตรการเหล่านี้ จะช่วยคืนความสุขให้กับคนไทย กลับมาเป็น “สยามเมืองยิ้ม” ที่ชาวโลกรู้จักคุ้นเคย ในเร็ววัน"
ทั้งนี้ในเนื้อหาในจดหมายข่าวรัฐบาลเพื่อประชาชน ฉบับดังกล่าวได้มีการ เผยแพร่ “วาทะนายกรัฐมนตรี” ในพิธีเปิดเวทีจุดประกายสานพลังประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก วันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา ระบุว่า “ประเทศไทยเป็นประชารัฐ ไม่มีคำว่าประชานิยม ประชารัฐหมายถึง ประชาชนกับรัฐบาลร่วมกัน รัฐบาลจะเป็นผู้ที่อำนวยความสะดวกเปิดช่องทางให้เอกชน ประชาชน เข้ามาร่วมมือกัน ตามกระบวนการประชาธิปไตย”
นอกจากนี้ในหน้าสุดท้ายได้มีการ อธิบายเนื้อหาสาระสำคัญ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 โดยมีการระบุถึงวัตถุประสงค์ และบทลงโทษเอาไว้ด้วย

พลเอกหญิง สมเด็จพระเทพฯ ทรงเครื่องแบบทหารบก ร่วม พิธีเทิดพระเกียรติในโอกาสที่ทรงเกษียณราชการ

ทรงมีใจรัก....
พลเอกหญิง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงเครื่องแบบทหารบก ร่วม พิธีเทิดพระเกียรติในโอกาสที่ทรงเกษียณราชการ พร้อม 332 นายพล โดยมีการสวนสนาม ภาคพื้นดิน และ ทางอากาศ ทรงเผยว่า ที่มาเป็นอาจารย์ รร.นายร้อยจปร. เพราะความมีใจรักเป็นอาจารย์ จปร. ในฐานะเป็นพลเมืองไทยคนหนึ่ง ทรงภูมิใจ ที่มีส่วนพัฒนา สติปัญญาวิสัยทัศน์ให้ นร.นายร้อย ที่จะเป็นอนาคตของ ทบ.และชาติบ้านเมืองต่อไป ทรงขอ กองทัพ นายร้อย จปร.ให้ผดุงเกียรติ รักษาความมั่นคง สำนึกในคุณแผ่นดินอย่างสุจริตใจ ยึดถือเอกราชอธิปไตย ประโยชน์ประชาชน

"พลเอกหญิงสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ "ทรงทรงเครื่องแบบทหารบก ร่วมพิธีเทิดเกียรติอำลา เนื่องในโอกาสทรงเกษียณราชการ พร้อม อีก332 นายพล ทบ. โดยมีการสวนสนาม 11 กองพัน ของ นักเรียนนายร้อยจปร. และ กองพลทหารราบที่2 รักษาพระองค์ ร.21 รอ.และ ร.31รอ. และ กองพันทหารม้า สวนสนาม และม้าอากาศ เฮลิคอปเตอร์ 12 ลำ และ เครื่องบินปล่อยควันสีธงชาติ และสีม่วง สีประจำพระองค์

พลเอกหญิงสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงมีพระราโชวาท อำลาเกษียณ ตอนหนึ่งเพื่อทรงขอบพระทัย ต่อความปรารถนาดีที่แสดงต่อข้าพเจ้า มีคุณค่าสูงส่ง ซาบซึ้งใจและจะจดจำไม่ลืมเลือน
พล.อ.หญิงสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทาน พระราโชวาท ในตอนหนึ่งว่า ขอขอบใจท่านทั้งหลาย ในวาระที่จะเกษียณอายุราชการ ความปราถนาดีของท่านทั้งหลายที่แสดงต่อข้าพเจ้ามีคุณค่าสูงสง ทำให้ข้าพเจ้าซาบซึ้งใจและจะจำไว้ไม่ลืมเลือน
" การที่ข้าพเจ้าเข้ามารับราชการ
เป็นอาจารณ์ ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เกิดจากความมีใจรักที่จะเพิ่มพูนความรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ให้บุคคลอื่น และปราถนาจะสร้างสรรค์สิ่งอันเป็นประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในฐานะที่เป็นพลเมืองไทยคนหนึ่ง ข้าพเจ้าจึงมีความภูมิใจที่ได้มีส่วนในการพัฒนา สติปัญญา และวิสัยทัศน์ให้กับนักเรียนนายร้อย ผู้ที่จะเป็นอนาคตของกองทัพบกและชาติบ้านเมืองต่อไป"
"ซึ่งหมายถึงการได้ร่วมสร้างความเข้มแข็ง ให้แก่กองทัพบก สถาบันอันเป็นเสาหลักด้านความมั่นคงของชาติ ที่มีภาระหน้าที่อันสำคัญในการสร้างเสริมความมั่นคง ปลอดภัยของชาติและความสงบสุขของสังคม "
"นับตั้งแต่ข้าพเจ้ารับราชการจนถึงปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าปลื้มปิติใจที่ได้เห็นลูกศิษย์แต่ละรุ่น เจริญเติบโตและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน สร้างประโยชน์แก่ส่วนรวมในฐานะที่เป็นทหารและประชาชนชาวไทย จึงขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนทำหน้าที่ของตนให้บรรลุผลและขอให้ช่วยผดุงเกียรติของสถานศึกษาแห่งนี้และรักษาเกียรติของตนไว้ให้มั่นคง ทั้งมีความสำนึกในคุณแผ่นดิน สุจริตใจปฎิยัติภาระกิจน้อยใหญ่ให้ผสานสอดคล้อง เกื้อกูลกัน โดยยึดถือเอกราช อธิปไตย ของชาติ และประโยชน์สุขอันยั่งยืนของประชาชนเป็นจุดหมายสูงสุด ข้าพเจ้าขอถือโอกาสนี้อวยพรให้ทุกท่านที่มาร่วมพิธีมีแต่ความาขสวัสดี เจริญด้วยจตุรพิธพรชัยโดยทั่วกัน"

ทั้งนี้หลังสวนสนาม ทหารทั้งหมด ร่วมร้องเพลง "พระเทพแห่งไทย" ถวายเสียงดังกึกก้อง และถวายพรพร "ทรงพระเจริญ"

ในพิธีครั้งนี้ สมเด็จพระเทพฯ ทรงโปรดเกล้าฯให้จัดรวมกับ 332 นายพล ที่เกษียณเลย โดยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ที่เกษียณ 30กย.นี้มี11 จอมพล และเป็น6 รัฐมนตรี ในรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ ด้วย

นายทหารชั่นผู้ใหญ่ ที่ครองอัตราจอมพล เกษียณ 30 กย.นี้ ทั้ง บิ๊กใหญ่ พลเอก มล.ประสบชัย เกษมสันต์ฯ ประธานที่ปรึกษากลาโหม และ บิ๊กกี๋ พลเอก ภูดิศ ทัตติยโชติ จเรทั่วไป
พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกห./ รมว.แรงงาน พลเอกไพชยนต์ ค้าทันเจริญ รองปลัดกห. พลเอกวิชิต ศรีประเสริฐ รองปลัดกห.
พลเอกวรพงษ์ สง่าเนตร ผบ.สส. พลเอกวุฒินันท์ ลีลายุทธ รอง ผบสส.
พลเอกอุดมเดช สีตบุตร ผบทบ./รมช.กห.
พลเอกอักษรา เกิดผล ประธานที่ปรึกษา ทบ.รวม11 บิ๊กๆ เกษียณราชการ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ /รองผบทบ
ขาดแต่ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รองผบสส. และ รมว.ยุติธรรม ที่ไม่ร่วมพิธี แม้จะกลับจากจีนแล้วก็ตาม และก่อนหน้านี้ ก็ไม่ไปอำลา ศูนย์การทหารราบ เมื้อ24 กย. ด้วย แต่ตอนนี้ไปเยือนจีน
นอกจากนี้ อีก2 พลเอก รัฐมนตรี คือ พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษทบ. /รมว.พลังงาน พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ หน.ฝ่ายเสธ.ประจำ ผบช./ รมช.ศธ. ก็เกษียณ
(ภาพจาก Bangkok Post)

ทำไมสีจิ้นผิงกับโมดี ต้องจับเข่าคุยซีอีโอไฮเทคมะกัน? โดย : กาแฟดำ


29092558 ทำไมสีจิ้นผิงกับโมดี ต้องจับเข่าคุยซีอีโอไฮเทคมะกัน?
โดย : กาแฟดำ

นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ทำอะไรเหมือนกัน
อย่างหนึ่งในการเยือนสหรัฐในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

นั่นคือการนัดพบกับผู้นำด้านไฮเทคของสหรัฐเพื่อชักชวนให้ไปลงทุนในประเทศของตน

นายกฯโมดีบุกไปตั้งโต๊ะสนทนาถึงซิลิคอน เวลลี (Silicon Valley) ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ถือเป็นผู้นำอินเดียคนแรกที่มาเยือนที่นี่ใน 33 ปี

โมดีไม่ได้ไปเยี่ยมเพียงเพื่อให้ทำตัวเป็นข่าวเท่านั้น แต่ยังนั่งแลกเปลี่ยนความเห็นด้วยการเสวนากับผู้บริหารของบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Google, Apple, Facebook, Microsoft เป็นต้น ก่อนที่จะร่วมงานเลี้ยงอาหารเย็นกับผู้นำธุรกิจใหญ่ ๆ ของอเมริกา 350 คนเพื่อตอกย้ำถึงความพร้อมของอินเดีย ที่จะก้าวเข้าสู่ยุคไฮเทคพร้อมกับความร่วมมือของคนที่เก่งที่สุดทางด้านนี้ระดับโลก

ยิ่งเมื่อซีอีโอของกูเกิลคนใหม่ Sundar Pichai มีเชื้อสายอินเดียด้วย ก็ยิ่งเห็นภาพของอินเดียในอันที่จะสร้างนักนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีรุ่นใหม่ที่เปิดกว้าง และพร้อมจะให้คนเก่งที่สุดของโลก เข้ามามีส่วนในการสร้างเสริมอินเดียให้ก้าวกระโดดไปข้างหน้า

ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิลบอกนายกฯ โมดี ว่าบริษัทของเขามีความผูกพันเป็นพิเศษกับอินเดีย “เพราะสตีฟ จ็อบส์ ผู้ก่อตั้งของเราไปอินเดียเพื่อแสวงหาแรงบันดาลใจในการสร้างนวัตกรรมยิ่งใหญ่ของโลก”
โมดีไปเยี่ยมโรงงานของ Telsa Motors นำโดยซีอีโอ Elon Musk ซึ่งมีชื่อว่าเป็นผู้นำธุรกิจที่คิดนอกกรอบและกล้าทำอะไรที่คนอื่นไม่กล้าแม้แต่คิด

ผู้นำอินเดียทำการบ้านมาอย่างดีเพราะต้องการเห็นนวัตกรรมการสร้างรถยนต์ใช้ไฟฟ้าเพื่อประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ผมเชื่อว่าโมดีคงได้ยินกิตติศัพท์ของผู้นำไฮเทคคนนี้ว่าเขาทุ่มทุนเพื่อสร้างยานอวกาศที่จะไปค้นหาสิ่งมีชีวิตในดาวดวงอื่นในจักรวาลด้วย จึงต้องมาซักถามด้วยตนเองว่ามันเป็นเรื่องเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด

นายกฯโมดีก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯเมื่อปีเศษ ๆ ที่ผ่านมาท่ามกลางความฮือฮาว่าเขาเป็นผู้นำไม่ธรรมดา กล้าประกาศวาระแห่งชาติในหลาย ๆ เรื่องที่นักการเมืองแต่ก่อนเก่าไม่กล้าแม้แต่คิด

โมดีสร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการรุกทุกด้าน ตั้งแต่แก้ปัญหาความยากจนระดับหมู่บ้านไปถึงการผลักดันให้อินเดียเป็นศูนย์กลางการผลิตด้วยนโยบาย Make in India และให้อินเดียเป็นสังคมดิจิทัลอย่างแท้จริง

แม้อินเดียจะมีชื่อเสียงด้านไอทีโดยมีบังคาลอร์เป็นศูนย์กลางด้านนี้มาระยะหนึ่งแล้ว แต่โมดีต้องการจะต่อยอดเพิ่มเติมด้วยการดึงเอามันสมองชั้นเลิศของโลกมาที่อินเดียให้กว้างขวางเต็มที่

นายกฯโมดีประกาศต่อหน้าคนอินเดียในแคลิฟอร์เนียกว่า 18,000 คนว่า “Brain Drain can become Brain Gain.”

เพื่อตอกย้ำว่าการที่คนอินเดียออกนอกประเทศมาทำงานในสหรัฐฯนั้นต้องไม่มองว่าเป็น “สมองไหลออก” แต่ต้องมองว่าเป็น “สมองไหลกลับ” ก็ยังได้

เพราะวันนี้คนอินเดียเก่งๆ ที่มาทำงานนอกบ้านกำลังมีตำแหน่งแห่งหนที่สำคัญๆ โดยเฉพาะด้านบริหารบริษัทไฮเทคจนสามารถที่จะร่วมมือสร้างความแข็งแกร่งให้กับบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองได้จากข้างนอก

การไปเหยียบซิลิคอน เวลลีครั้งนี้จึงเป็นการตอกย้ำทิศทางที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง กระตุ้นให้คนอินเดียทั่วประเทศ ได้มีความตระหนักร่วมกันในการรุกไปทางเทคโนโลยี เพื่อแก้ปัญหาความยากจนและเพื่อสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นในเวทีโลกให้ได้

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงไปสหรัฐคราวนี้ แวะมาที่ซีแอตเทิลของรัฐวอชิงตันก่อนไปวอชิงตันเมืองหลวงด้วยซ้ำ เพื่อพบปะกับผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Microsoft, Amazon, Apple, Facebook และผู้บริหารบริษัทไฮเทคของจีนที่เป็นเจ้าของแบรนด์ดังระดับโลก

เป้าหมายของสี จิ้นผิงไม่ต่างกับของโมดีนัก แต่จีนต้องเร่งรัดเรื่องนี้มากกว่าเพราะการขยายตัวทางเศรษฐกิจภาพรวมที่ชะลอตัวลง ทำให้ผู้นำจีนต้องหันมาหาทาง สร้างประสิทธิภาพทางด้านการผลิต และผลักดันให้ใช้นวัตกรรมเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง ให้กับเศรษฐกิจของตนเองอย่างเป็นกิจจะลักษณะ
เห็นหรือยังว่าทำไมประเทศไทยเราจึงต้องเอาจริงเอาจังกับการสร้าง “ซิลิคอน เวลลี” ของไทยเพื่อเสริมสร้างนวัตกรรมให้สามารถแข่งขันระดับโลกได้

เพราะหากผู้นำยักษ์ใหญ่อย่างจีนและอินเดีย ยังต้องนั่งลงจับเข่าคุยกับ เจ้าของธุรกิจไฮเทคด้วยตนเอง เพื่อให้เข้าใจแนวโน้มของโลกด้านนี้ ผู้นำประเทศเล็กๆ ที่ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้จะต้องไปต่อแถวยาวเหยียดเพียงใด?
- See more at:http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/635702…

'จากนิวยอร์ก ถึงราชประสงค์' เปลว สีเงิน



29092558 'จากนิวยอร์ก ถึงราชประสงค์' เปลว สีเงิน
ต้องเรียกว่า เป็นปรากฏการณ์ "ประวัติศาสตร์" ฝากไว้ที่หน้ายูเอ็นกันเลยทีเดียว....!
โดยคนไทยในสหรัฐฯ.......
หลั่งไหลไปรวมตัวกันต้อนรับ "ผู้นำรัฐบาล" ประเทศตัวเอง คือ "นายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา" มืดฟ้า-มัวดินนิวยอร์ก
ยูเอ็น ประชุมสมัชชาใหญ่มาก็ตั้ง ๗๐ ครั้ง มีบ้างบางครั้ง ที่คนมาชุมนุมต่อต้านผู้นำคนนั้น-คนนี้
แต่ก็พอเป็นกิริยา เป็นสีสันทัศนคติต่างทางการเมือง!
มีครั้งนี้แหละ ๒๖-๒๗ กันยา ๕๘ มากันเหมือนกรีธาทัพ ชนิด "คนทั้งโลก" ต้องหันมาสนใจศึกษา
เพราะไม่ใช่มาต่อต้าน หรือมาแค่เป็นสีสัน!
หากแต่มารวมตัวกัน "ด้วยศรัทธา" สนับสนุน เป็นกำลังใจให้ผู้นำของตน จนเกิดเป็นสีสัน-บรรยากาศบรรเจิด ในตัวมันเอง
ตะโกนเรียก ลุงตู่..ลุงตู่..สู้ๆ
จนฝ่ายมาต้าน ซึ่งซุกๆ อยู่กระจุกหนึ่ง หงอยสนิท ทิ้งป้าย Why did you revoke my passport?
หลบหัว-หลุบหาง ไปยืนบิดตูดโบกแท็กซี่ หนีอายไปเลย!
ไม่แน่นะแบบนี้ นายใหญ่อาจกระทืบแทนจ่าย...หนอย กูให้ไปด่ามันแทนกู ดันไปประท้วงเพื่อตัวมึงเองซะนี่!?
จะไม่ให้หนีได้ไง เพราะพี่น้องคนไทยในสหรัฐฯ มาเชียร์ลุงตู่กันเป็นพัน แต่ละป้ายสะอาด-สะอ้าน สวยงาม
We Support Our Policy Of Anti Corruption And Reconstruct Thailand's Politic บ้าง
No More corrupt democracy We love and support prime minister Gen.Prayut Chan-o-cha บ้าง
PM PRAYUT:Thank You For Your Leadership And Bringing Peace To Thailand บ้าง
และอีกเป็นร้อย-เป็นพันป้าย อ่านไม่ไหว....!
ล้วนแต่สนับสนุน "นายกฯ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง" ที่ชื่อลุงตู่ ให้อยู่นานๆ ทำหน้าที่กวาดบ้าน-กวาดเมือง
ที่ "นักการเมืองมาจากการเลือกตั้ง" ทำสกปรกไว้ด้วยคอร์รัปชัน และหั่นประเทศขาย!
คนไทยในแอลเอ ที่ไม่ได้ไปรวมอยู่นิวยอร์ก ก็รวมตัวกันที่ไทยทาวน์ราวกับมีงานมหกรรม
ร่างแถลงการณ์ แจงเหตุ-แจงผล ที่ต้องสนับสนุนรัฐบาลไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แล้วอ่านแถลงการณ์ออกอากาศ
ทั้งภาคภาษาไทย-ภาษาอังกฤษ ก้องแอลเอ!
ผมดูคลิปที่เขาโพสต์ในโซเชียลมีเดีย นี่ถ้านายกฯ ลุงตู่ได้ดู ต้องยิ้มจนหน้ากลมกลบลูกตาแหงๆ
บอกตรงๆ ตอนนี้...ปลื้มลุงตู่น้อยลง
เพราะเทใจไปปลื้มพี่น้องคนไทยในต่างบ้าน-ต่างเมืองมากกว่า...นิดนึง!
มีประเด็น G 77 ค้างอยู่หน่อย.....
คือหลังจาก ๑๓๔ ประเทศสมาชิก โหวตให้ไทยให้เป็น "ประธานกลุ่ม G 77" ในวาระปี ๒๕๕๙ แล้ว
มีเสียงจากบางพวก-บางคน ก็คนไทยด้วยกันนี่แหละ ค่อนขอด... "โหวตเหวิดที่ไหน ก็แค่ประธานเวียนกันเป็นเหมือนเปียแชร์ ไม่มีอะไรต้องตื่นเต้นยินดี"
ฟังแล้วก็....อย่าให้พูดดีกว่านะ!
อยากอธิบายสั้นๆ ให้บางคนที่เหมือนสวะลอยน้ำ ฟังเขามาแล้วก็หยิบมาพูด-มากระเดียดต่อ โดยไม่ศึกษาหาข้อเท็จจริงให้กับตัวเอง
ถ้าจะว่าเวียนเหมือนเปียแชร์ ก็ต้องรู้ก่อนว่า ประเทศกำลังพัฒนา ที่เป็นประเทศรุ่นก่อตั้ง มี ๗๗ ประเทศ
เรียงกันตามอักษร T ไทยแลนด์ อยู่ลำดับที่ ๖๕!
ถ้าบอกว่าเวียน ปีหน้า คือ ๒๕๕๙ จะเป็นปีที่ ๕๑ ของการต่อตั้ง G 77
ยังเวียนไม่ถึงไทยหรอก.........
อันดับที่ ๕๑ น่าจะเป็นปากีสถาน ซึ่งเป็นประเทศรุ่นก่อตั้งเหมือนกัน เขาเคยเป็นมาแล้ว ๒-๓ ครั้งด้วยซ้ำ!
หลักปฏิบัติของกลุ่ม G 77 เท่าที่ผมศึกษาดู น่าจะเป็นอย่างนี้ครับ เขาแบ่งเป็นกลุ่มประเทศตามภูมิภาค
ถ้าจะเวียน ก็ในความหมาย เวียนกันไปแต่ละภูมิภาค ไม่ใช่เป็นกันอยู่แต่ประเทศกลุ่มใด-กลุ่มหนึ่ง
นั่นคือ ถึงวาระภูมิภาคใด ก็ให้แต่ละภูมิภาคนั้น คัดเลือกประเทศในกลุ่ม เสนอให้ที่ประชุมใหญ่เห็นชอบอีกที
ปัจจุบัน กลุ่ม G 77 ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ สำคัญอันดับ ๓ ในสหประชาชาติ มีสมาชิกเพิ่มจาก ๗๗ ประเทศ เป็น ๑๓๔ ประเทศ
ปี ๒๕๕๘ คือขณะนี้ แอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นสมาชิกเพิ่มใหม่ อยู่ในลำดับที่ ๑๒๓ เป็นประธานกลุ่ม G 77!
การทำงานกลุ่ม G 77 จะแบ่งส่วนงานของแต่ละกลุ่มออกเป็นส่วนๆ ตามที่ตั้งองค์กรระหว่างประเทศในประเทศต่างๆ
เช่น FAO องค์การอาหารและเกษตร สำนักงานอยู่อิตาลี
UNIDO องค์การพัฒนาอุตสาหกรรม สำนักงานอยู่ออสเตรีย
UNESCO องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม อยู่ฝรั่งเศส
UNEP โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาติ สำนักงานอยู่เคนยา
ยังมี G 24 IMF และ IBRD อีก สำงานตั้งอยู่วอชิงตัน ดี.ซี.
ทราบคร่าวๆ อย่างนี้แล้ว ในความเป็นคนไทย ได้อาศัยแผ่นดินนี้เกิด ถึงจะอิจฉานายกฯ ประยุทธ์จนเก็บอาการไม่อยู่
ก็ควรแยกแยะ "ความเป็นชาติ" กับความอิจฉา-ริษยาตัวคนออกจากกัน ถึงไม่ดีใจกับประเทศตัวเอง ก็ไม่มีใครว่า
แต่ควรหุบปาก....
หุบไม่ได้ ก็ยกหัวแม่เท้าตัวเองยัดปากไว้!
นั่นจะเป็นสง่าราศีกับตัวเอง และหมู่คณะของท่าน มากกว่า หาเหตุ-หาจุดเจาะไชประเทศชาติตัวเองให้เกิดรอยหมอง
เอ้า...กลับมาเรื่อง "ในบ้าน-ในเมือง" ซักนิดปะไร เมื่อวาน (๒๘ ก.ย.๕๘) สำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลง "ความสำเร็จ" ในคดีระเบิดย่านราชประสงค์
ผมดูโทรทัศน์ที่ถ่ายทอดสดตอนใกล้บ่าย ถึงตอนนักข่าวซักลึกไปถึงประเด็น "โยงถึงการเมือง" ในประเทศเท่านั้นแหละ
คลื่นดาวเทียมขัดข้อง...จอดำทันที!
ขัดข้องทางเทคนิค หรือมีคนใช้เทคนิคทำให้ขัดข้องก็ไม่ทราบ มันพิลึกอยู่?
ผมจะไม่เท้าความอะไร ขอจับประเด็นตรง "พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช" ผบก.น.๖ บรรยายสรุป ดังนี้
".....คดีดังกล่าวออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว ๑๗ ราย จับกุมได้ ๒ ราย ยังเหลือ ๑๕ ราย ที่ต้องติดตามตัวมาดำเนินคดี
ส่วนกรณี ที่มีคนไทยถูกออกหมายจับ ๒ คน คือ "นายอ๊อด พยุงวงศ์" หรือ "นายยงยุทธ พบแก้ว" และนางวรรณา สวนสัน
โดยเฉพาะนายอ๊อด นั้น.....
ที่ผ่านมา พบว่าเคยฝ่าฝืน พ.ร.บ.ฉุกเฉิน ปี ๕๓ ถูกศาลสั่งจำคุก ๑ ปี แต่รอลงอาญา และยังเกี่ยวข้องเป็นผู้ต้องหาคดีระเบิดเมื่อปี ๕๗ ที่ย่านมีนบุรี
จากการตรวจสอบประวัติ มีการเชื่อมโยงไปยัง "สมานเมตตาแมนชั่น" นนทบุรี ซึ่งเกิดเหตุระเบิดเมื่อปี ๕๓
ผบ.ตร. "พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง" แถลงว่า......
".......มูลเหตุจูงใจการก่อเหตุครั้งนี้ เชื่อได้ว่ามาจากเจ้าหน้าที่ไปจับกุมเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะการค้ามนุษย์ชาวอุยกูร์ที่จำเป็นต้องใช้พาสปอร์ตปลอม
นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า มีบุคคลอยู่เบื้องหลัง ที่เป็นคนจ้างวาน หรือใช้สอยกลุ่มผู้ที่ก่อเหตุ
ตัวละครต่างๆ อาจเชื่อมโยงได้ เช่นนายอ๊อด หรือนายยงยุทธ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่มีนบุรี และที่สมานเมตตาแมนชั่น
ดังนั้น การทำงานของตำรวจก็ต้องไปหาส่วนเชื่อมโยง และคนจ้างวานอาจจะต้องการให้เกิดเจตนาเหตุร้าย โดยการว่าจ้างคนอีกกลุ่มที่อาจจะไม่พอใจการทำงานเข้มงวดของรัฐเข้ามาก่อเหตุ
'เพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน ทั้งกลุ่มผู้ก่อเหตุและจ้างวาน'
......จะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่นั้น ตำรวจไม่สามารถตัดเรื่องนี้ทิ้งไปได้ เพราะมีผู้ต้องหา คือนายยงยุทธ มีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดทางการเมืองที่ผ่านมา ทั้งที่มีนบุรีและที่สมานเมตตาแมนชั่น
และล่าสุด ก็เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์
ส่วนจะรู้ได้อย่างไร ต้องรอจับนายยงยุทธหรือนายอ๊อดให้ได้ก่อน จากการสอบสวนพบว่า มีส่วนเชื่อมโยงกันจริง แต่ตำรวจยังไม่หยุด ต้องขยายผลต่อว่า มีใครมาเกี่ยวข้องอีกหรือไม่"
"พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล" ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงว่า...
"นายยงยุทธ หรือนายอ๊อด มีประวัติติดยาบ้า เล่นการพนัน มีหน้าที่สนับสนุนจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ ให้กับกลุ่มผู้ต้องหาที่ก่อเหตุระเบิดครั้งนี้ นอกจากนี้ ยังมีประวัติทางคดีอาชญากรรมด้วย อย่างไรก็ตาม เลขบัตรประจำตัวประชาชนของนายอ๊อดก็ไม่มี"
พล.ต.ต.ชยพล แถลงเพิ่มเติม.......
"นายยงยุทธ พบแก้ว เป็นผู้พบกับนางวรรณา และนายเมียไรลี ยูซุฟู ที่ไมมูณาการ์เด้นโฮม จึงขอศาลออกหมายจับ"
"ระเบิดสมานเมตตาแมนชั่น" นนทุบรี จับแก๊งไหนไป...ระเบิดหล่นซอยราษฎร์อุทิศ มีนบุรี อ้าว..."แก๊งเจ้าเก่าอีก"
พลันตำรวจระบุ โยงการเมือง ปี ๕๓ กับปี ๕๗ และบรรจบ ๑๗ สิงหา ๕๘ "บึ้มราชประสงค์"
โยมก็พลัน...ดวงตา "เห็นโจร" ทันที!

สถานการณ์ข่าว28/9/58


29092558 ข่าวในหลวง และข่าวที่ค้างคา กำลังเกิดขึ้น ทั้งการเมือง UN ถึงซูปเปอร์Moon
• 28 กย. สำนักพระราชวังได้เผยแพร่แถลงการณ์เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 18 ความว่า
ในหลวงปอดไม่อักเสบ-พระโลหิตไม่ติดเชื้อ อุณหภูมิพระวรกายปรกติ
.... อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/social/royal/390767
• นายอมร วาณิชวิวัฒน์ อดีตสปช.เชื่อโผสภาขับเคลื่อนปฏิรูปฯที่ปล่อยออกมา
ยังไม่ใช่ของจริง ชี้คนปล่อยแค่หวังกดดันนายกฯ มั่นใจบิ๊กตู่คนเดียวที่รู้รายชื่อที่แท้จริง
@ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า พรรคจะส่งชื่อบุคคลที่เป็น สปท.ให้ คสช.ในวันที่ 28 ก.ย. จำนวน 2 คน ซึ่งอยู่ระหว่างการหาตัวบุคคล อาทิ นายธีระ วงศ์สมุทร นายนิกร จำนง นายประภัตร โพธสุธน
@ ดูแล้ว นับแล้ว มีคนหลายพันคนที่มีชื่ออ้างตัว ที่คอยนายกตู่ คัดเหลือ 200 คน
.
• 28 ก.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่มี
นายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฏีกา เป็นประธานเพื่อพิจารณาเลือกตุลาการศาลรธน. ผู้ทรงคุณวุฒิสาขารัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ จากจำนวน 10 คน
ได้มีมติเสนอชื่อ "ปัญญา อุดชาชน" เลขาธิการสำนักงานศาลรธน. ให้สนช.พิจารณา
• 28 กย. คดีระเบิดราชประสงค์ “สมยศ” แถลงที่มาที่ไปขบวนการทำร้ายประเทศ
ยันหลักฐานเชื่อมโยงการเมืองนอกเหนือจากค้ามนุษย์และส่งอุยกูร์กลับจีน
แฉ “อ๊อด พยุงวงศ์” ตัวละครสำคัญ พันระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่นปี 53 และ
มีนบุรีปี 57 สุดอึ้ง! ศรีวราห์ปูดเคยจับมาแล้ว 9 ครั้งแต่ไม่รู้ที่อยู่ ไม่มีบัตรประชาชน บอกเป็นบุคคลลึกลับ มั่วสุมกับขบวนการมาตั้งแต่ปี 2557
• 26 ก.ย. ซีอีโอของเฟซบุ๊กอย่าง "มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก" และ "โบโน่" นักร้องนำวง U2
ผู้เข้ามามีบทบาทผลักดันเรื่องการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ก็ได้ร่วมมือกันเผยแพร่บทความน่าสนใจผ่านทางหนังสือพิมพ์ The New York Times หากเราต้องสร้างโลก
ที่ไม่ใช่เพื่อ "บางคน" แต่เป็น "ทุกคน" ให้สามารถมีชีวิตที่ดีและปลอดภัย
ก็ยังมีสิ่งต่างๆอีกมากมายที่ต้องทำซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ผลักดันให้ทุกๆคนบนโลกมีตัวตนด้วยการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ภายในปี 2020
• 28 กย.ตำรวจกองปราบฯจำลองเหตุรถชนคดี "ชูวงษ์" พบความเร็ว 40.6 กม./ชม.
ที่พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์เป็นคนขับ อ้าง80 กม./ชม.
• 28 กย. บุรีรัมย์-ทหารสนธิกำลังหลายฝ่ายเข้าตัดโค่นต้นยางกว่า 80 ไร่
หลังมีผู้บุกรุกปลูกในเขตป่าสงวนแห่งชาติ
• สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติเผยภาพ "ซูเปอร์มูน" คืน 28 ก.ย.
ชี้ดวงจันทร์โคจรใกล้โลกสุดในรอบปี
• พี่เปลว สีเงิน 'จากนิวยอร์ก ถึงราชประสงค์' มีหลากหลายประเด็น เช่น
@ พี่น้องคนไทยในสหรัฐฯ มาเชียร์ลุงตู่กันเป็นพัน แต่ละป้ายสะอาด-สะอ้าน สวยงาม
We Support Our Policy Of Anti Corruption And Reconstruct Thailand's Politic บ้าง
No More corrupt democracy We love and support prime minister Gen.Prayut Chan-o-cha บ้าง
PM PRAYUT : Thank You For Your Leadership And Bringing Peace To Thailand บ้าง
ล้วนแต่สนับสนุน "นายกฯ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง" ที่ชื่อลุงตู่ ให้อยู่นานๆ ทำหน้าที่กวาดบ้าน-กวาดเมือง
ที่ "นักการเมืองมาจากการเลือกตั้ง" ทำสกปรกไว้ด้วยคอร์รัปชัน และหั่นประเทศขาย!
@ พี่เปลว ยังเตือนไปยัง คนบางคนที่หน้ากลมหน้าเหลี่ยมและบริวาร
ทราบคร่าวๆ อย่างนี้แล้ว ในความเป็นคนไทย ได้อาศัยแผ่นดินนี้เกิด
ถึงจะอิจฉานายกฯ ประยุทธ์จนเก็บอาการไม่อยู่
ก็ควรแยกแยะ "ความเป็นชาติ" กับความอิจฉา-ริษยาตัวคนออกจากกัน
ถึงไม่ดีใจกับประเทศตัวเอง ก็ไม่มีใครว่า
แต่ควรหุบปาก....
หุบไม่ได้ ก็ยกหัวแม่เท้าตัวเองยัดปากไว้!
นั่นจะเป็นสง่าราศีกับตัวเอง และหมู่คณะของท่าน มากกว่า หาเหตุ-หาจุดเจาะไชประเทศชาติตัวเองให้เกิดรอยหมอง
• ทำไมสีจิ้นผิงกับโมดี ต้องจับเข่าคุยซีอีโอไฮเทคมะกัน? โดย : กาแฟดำ
เป้าหมายของสี จิ้นผิงไม่ต่างกับของโมดีนัก แต่จีนต้องเร่งรัดเรื่องนี้มากกว่าเพราะ
การขยายตัวทางเศรษฐกิจภาพรวมที่ชะลอตัวลง ทำให้ผู้นำจีนต้องหันมาหาทาง
สร้างประสิทธิภาพทางด้านการผลิต และผลักดันให้ใช้นวัตกรรมเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง ให้กับเศรษฐกิจของตนเองอย่างเป็นกิจจะลักษณะ
เห็นหรือยังว่าทำไมประเทศไทยเราจึงต้องเอาจริงเอาจังกับการสร้าง “ซิลิคอน เวลลี” ของไทยเพื่อเสริมสร้างนวัตกรรมให้สามารถแข่งขันระดับโลกได้
เพราะหากผู้นำยักษ์ใหญ่อย่างจีนและอินเดีย ยังต้องนั่งลงจับเข่าคุยกับ
เจ้าของธุรกิจไฮเทคด้วยตนเอง เพื่อให้เข้าใจแนวโน้มของโลกด้านนี้
ผู้นำประเทศเล็กๆ ที่ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้จะต้องไปต่อแถวยาวเหยียดเพียงใด?
• สุดท้าย ไม่ใช่เรื่องข่าวการบ้านการเมือง แต่เป็นเรื่องของชีวิตและความเป็นมนุษย์
เป็นเรื่องของอนาคตของความรัก ที่เราคนรุ่นปู่รุนพ่อมีหน้าที่และความรับผิดชอบฯ
เมื่อวานไปสมัครเรียนกับลูกให้หลานน้ำผึ้ง ที่ได้น้ำใจของเพื่อนมิตรที่ช่วยสนับสนุน
ด้วยความขอบคุณ และไปดูบ้านดูห้องที่ต้องปรับเสริมแต่งให้น่าอยู่
แล้วไปกินอาหารกับลูกๆและครอบครัวที่ ห้างใหญ่ 4 แยกอสมท.
เป็นความรักและความสุขเล็กๆ ที่เป็นกำลังใจในการทำงานตามอุดมคติต่อไป
@ ก็ขอฝากเพื่อนมิตร ที่เดินบนเส้นทางประชาธิปไตยของประชาชน
อย่าลืมให้ความรักและความสุขที่เป็นจริงแก่ครอบครัวและตัวเองบ้าง
เพราะเรื่องอุดมการณ์ยังมีอุปสรรคอีกมากมายมหาศาล สู้มา 83ปี ยังไปไม่ถึงฝั่ง

สนธิญาน ฟันธง ทักษิณ จบแล้ว มะกันไม่หนุน

สนธิญานฟันธง
28/9/58

"สนธิญาณ" ฟันเปรี้ยง!! "แม้ว" ปิดฉากแล้ว? เหตุมะกันเปลี่ยนท่าที - ลุงตู่ นั่งหัวเรือ "G77" สะท้อนโลกไม่รังเกียจ "รบ.รัฐประหาร"

"สนธิญาณ" ชี้!! "ทักษิณ" จบแล้วเหตุสหรัฐฯพลิกตัว - ทูตท่าทีอ่อนลง ?? ย้ำ "ประยุทธ์" รั้งประธานกลุ่ม G77 สะท้อนโลกไม่ได้รังเกียจ "รบ.รัฐประหาร" - ลุ้นมะกันหนุนนั่ง "คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ"

รายการ "ยุคล ถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำคืนวันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2558 ออกอากาศทางช่องทีนิวส์  ดำเนินรายการโดย คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) และคุณยุคล วิเศษสังข์ (
หนึ่ง)  โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

ยุคล : สวัสดีครับต้อนรับคุณผู้ชมเข้ามาในช่วงเวลาของรายการยุคลถามตรงสนธิญาณฟันธงตอบนะครับ วันนี้ประจำวันจันทร์ที่ 28 ก.ย. 2558 ครับ คุณผู้ชมยังคงอยู่กับผมยุคล วิเศษสังข์ เช่นเดิมนะครับ แล้วก็ผู้ร่วมดำเนินการกับผมในวันนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนะครับ พี่ต้อย สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม

สนธิญาณ : สวัสดีครับท่านผู้ชมครับ ก็พบกันทุกจันทร์

ยุคล  : เป็นอีกหนึ่งจันทร์ที่จะได้มาสรุปสถานการณ์ที่พี่ต้อย เลือกดึงออกมาเพื่อนำเสนอให้กับท่านผู้ชมได้รับทราบนะครับ วันนี้มี 2 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรกก็คือบทบาทอันโดดเด่นของ พล.อ.ประยุทธ์ ในเวทียูเอ็น แล้วก็เรื่องของระเบิดราชประสงค์ เราจะมาเริ่มต้นในเรื่องแรกกันก่อนพี่ต้อย ตั้งหัวข้อไว้แบบนี้เลยนะครับว่าทักษิณ จบแล้วโลกล้อมประเทศเหลวประยุทธ์ ผงาดเวทีโลก ชื่อก็เหมือนกับโยงไปที่คุณทักษิณ อีกแล้ว แล้วก็บทบาทของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการประชุมระดับโลกหรือว่ายูเอ็นในครั้งนี้

สนธิญาณ : มันเป็นยังไง ที่แต่ละเรื่องแต่ละราวโยงไปที่ทักษิณ ได้เนี่ยนะครับ คล้ายๆ เหมือนเป็นการหาเรื่องหาราวคุณทักษิณ ก็ไม่ใช่นะครับ เป็นเรื่องที่จะต้องเรียงลำดับให้ท่านผู้ชมได้เห็นภาพอย่างชัดเจน ความหมายของการเรียงลำดับให้เห็นภาพอย่างชัดเจนก็คือต้องกลับไปทบทวนแนวรบของคุณทักษิณ แนวรบของคุณทักษิณ คือ 1 สื่อก็คือบรรดาทีวีของคนเสื้อแดงทั้งหลาย 2 พรรคการเมืองก็คือพรรคเพื่อไทยนะครับ 3 องค์กรแนวร่วมทั้งหลายซึ่งวันนี้เปิดตัวแดงแจ๋นำพาไปสู่การต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ 4 คุณทักษิณ จะยอมรับหรือไม่ยอมรับก็ตามแต่ แต่มีขบวนการหรือกองกำลังติดอาวุธมาเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของคนเสื้อแดง 5 ก็คือนโยบายโลกล้อมประเทศ ซึ่งคุณทักษิณ มีล็อบบี้ยีสต์ระดับโลกกระทำทั้งในนามตัวบุคคลสำนักงานทนายความระดับโลก บริษัทล็อบบี้ที่เป็นของนักการเมืองอเมริกัน ทุกแนวรบนะครับ วันนี้ นปช.กับองค์กรแนวร่วมก็เหนื่อย สื่อก็เหนื่อยนะครับ พรรค ทักษิณก็บอกว่ารอๆ อยู่ก่อนให้เลือกตั้งก่อน แต่ดูท่าแนวทางการร่างรัฐธรรมนูญนะครับซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่แนวทางที่จะไปกีดกันคุณทักษิณ แต่เป็นแนวทางที่ต้องการเสียงส่วนใหญ่ที่แท้จริงจะมาเป็นรัฐบาลมันจะทำให้เสียงส่วนใหญ่ที่มาจากการเลือกตั้งโดยใช้เทคนิคของการเลือกตั้งจนทำให้พรรคเพื่อไทยหรือพรรคไทยรักไทยในอดีตชนะการเลือกตั้งเกินครึ่งโอกาสก็แทบจะไม่มี ถ้าแนวรัฐธรรมนูญยังเดินไปเหมือนฉบับที่ อ.บวรศักดิ์ ร่างเนี่ยนะครับ มันก็ดูริบหรี่ไปทุกแนว เหลือแนวหนึ่งคือแนวต่างประเทศซึ่งเราก็จะต้องพูดกันให้ชัดเจน ว่าทำไมแนวของต่างประเทศถึงเป็นแนวที่ผมให้ความสำคัญ

ยุคล : คือวันนี้พี่ต้อยจะมาฟันธงให้ชัด ตอนนี้เรามาติดตามข่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ ค่อนข้างมาก ไปประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติหรือว่ายูเอ็นในครั้งนี้ บทบาทแทบไม่ต้องพูดถึงนะครับ ดูโดดเด่นดูสง่างามใช้คำนี้ได้เลยนะครับ ประกอบกับมีมวลชนทั้งฝ่ายหนุนฝ่ายต้าน ออกมาตามที่ทีนิวส์เราได้นำเสนอกันไป บทบาทของ พล.อ.ประยุทธ์ และยุทธศาสตร์หรือว่าแนวนโยบายคุณทักษิณ โลกล้อมประเทศไทยวันนี้มันกำลังสู้กันยังไงพี่ต้อยจะมาฟันธงกันให้ทราบ

สนธิญาณ : ถูกต้องๆ ทีนี้ก่อนที่เราจะขยายความไปถึงความสำเร็จอันงดงามของ พล.อ.ประยุทธ์ เนี่ยนะครับ ซึ่งถ้าดูทั่วๆ ไป จะไปเกี่ยวข้องอะไรกับคุณทักษิณ เดี๋ยวเราจะอธิบายให้ฟัง แต่เราก็ต้องมาดูแนวทางของคนเสื้อแดงกับนโยบายโลกล้อมประเทศของคุณทักษิณ ก่อน ผมก็อยากจะมาทวนเสียงที่ท่านผู้ฟังท่านผู้ชมได้ยินทีนิวส์นำเสนอบ่อยมากคือเสียงที่เป็นคำพูดของนายมหาหิน ซึ่งเป็นผู้มาขว้างระเบิดในศาลอาญา พูดถึงเรื่องจะก่อจุดระเบิดขึ้น 100 จุด ทั่วทั้งประเทศและจะมีกองกำลังจากต่างชาติเข้ามาช่วยสนับสนุนการเคลื่อนไหวลองฟังเสียงนะครับ แล้วจะชี้ให้เห็นว่ามันโยงยังไงและบทบาทของทักษิณ ที่บอกว่าจบแล้วตายแล้วเพราะนโยบายหรือสิ่งที่มหาหินพูดเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายโลกล้อมประเทศ

ยุคล : ลองฟังดูนะครับท่านผู้ชมครับ(เปิดเสียงมหาหิน)ทำไมพี่ต้อย ต้องเอาเสียงของมหาหิน พูดถึงการก่อเหตุรุนแรงร้อยจุดแล้วบอกว่าจะให้ยูเอ็นเข้ามาเนี่ยครับ

สนธิญาณ : มันเป็นแบบนี้ต้องตอกย้ำนะครับก่อนหน้านี้ ก่อนหน้ามหาหิน จะให้สัมภาษณ์แบบนี้ เขาได้พูดไว้ก่อนว่าพวกเขาเป็นกลุ่มจัดตั้งกลุ่มละ 10 คน มีการติดต่อเชื่อมโยงกัน ผมก็จะทวนย้ำเสมอว่าวันนี้เนี่ยนะครับการต่อสู้ของกลุ่มบุคคลเหล่านี้มันคือการต่อสู้ในแนวของขบวนการขบวนปฏิวัติต้องการจัดตั้งกองกำลังเป็นกลุ่มย่อยๆ ใช้ระบบทฤษฎีของการลุกขึ้นสู้ ทฤษฎีของกลุ่มกบฏต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาใช้ปฏิบัติและใช้ในการอบรมคนเหล่านี้

เพราะฉะนั้นมหาหิน เป็นคนหนึ่งที่ถูกอบรมมาขว้างระเบิดถูกจับได้ ข่าวมันเลยแพลมออกมาว่าพวกนี้คือหนึ่งกลุ่มจัดตั้ง แล้วที่เรายังไม่เจออีกเป็น 100 กลุ่มจัดตั้งละ พวกเขามีอยู่เท่าไหร่แล้วเขาก็พยายามจะสร้างให้มหาหินเชื่อว่าวางระเบิดเดี๋ยวจะวาง 100 จุด มหาหินเองก็ไม่ค่อยเชื่อนะ ว่าไม่น่าจะถึงแต่คิดจะวางทั่วประเทศ

แล้วท้ายที่สุดคำตอบที่มหาหิน ตอบท่อนสุดท้ายเนี่ยแล้วบอกว่ายูเอ็นจะเข้ามา ก็ต้องมีคนมาบอกมหาหิน ถูกไหม ทีนี้ผมอยากให้ดู ผมไม่ต้องทวนละครับว่าแกนนำ นปช.หรือใครเคยพูดในสมัยการชุมนุมตั้งแต่ปี 53 เป็นต้นมา ว่าประเทศไทยก็กำลังเดินตามรอยอาหรับสปริง จำได้ไหมอาหรับสปริง อาหรับสปริงคืออะไรครับท่านผู้ชม อาหรับสปริงก็คือการชุมนุมของพี่น้องมุสลิมในกลุ่มประเทศอิสลามซึ่งปกครองด้วยวิถีแห่งอิสลามไปหมดนะ ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่เป็นฝ่ายตรงกันข้ามสหรัฐฯ หรือเป็นประเทศที่สหรัฐฯสนับสนุน ประเทศที่สหรัฐฯสนับสนุนอย่างนี้เป็นต้น รัฐบาลที่ดูแลอยู่เป็นรัฐบาลที่ตรงข้ามกับทางการสหรัฐฯ สหรัฐฯก็ปกป้องรัฐบาลนี้แล้วก็ให้ทหารรัฐประหารยึดอำนาจแล้วจัดการกับผู้ประท้วงให้อยู่ในความสงบ นี้คือที่อียิปต์ แต่ในด้านกลับกันอีกประเทศหนึ่ง ซึ่งกำลังเป็นข่าวทุกวันที่พวกเราติดตามกันเนี่ยนะครับ ก็คือซีเรีย ซีเรียผลพวงของการประท้วงเนี่ยนะครับ ได้ทำการประท้วงประธานาธิบดีอัลอัสซาด เนี่ยนะครับประธานาธิบดีซีเรียตระกูลนี้ครองอำนาจมาอย่างยาวนานตั้งแต่บิดาที่ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 13 จนถึงวันนี้ 58 แล้ว 45 ปีนะครับ ในตอนปี 2553 เนี่ยประชาชนก็ลุกฮือขึ้นต่อต้านแบบเดียวกันเลยครับ ประธานาธิบดีอัสซาดก็ดำเนินการปราบปรามประชาชนเหมือนกับที่อียิปต์ทำเป๊ะ แต่มันกลับข้างกัน ผลที่เราเห็นวันนี้ซีเรียคนอพยพเป็นแสนๆ ล้านๆ เพราะอะไรครับ หลังจากที่การต่อต้านเกิดขึ้นแล้ว สหรัฐฯทำตรงกันข้ามกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอียิปต์ คือสหรัฐฯเข้ามาสนับสนุนกลุ่มกบฏซีเรียให้ล้มรัฐบาลเพราะรัฐบาลซีเรียอยู่คนละขั้วกับสหรัฐเชื่อมโยงกับอิหร่านเป็นศัตรูตัวฉกาจกับอิสราเอลถึงปัจจุบัน

อิสราเอลยังยิงระเบิดใส่นะ และถ้าพออิสราเอลยิง ฝั่งโลกตะวันตกก็บอกว่าอิสราเอลมีสิทธิ์อันชอบธรรมเพื่อการปกป้องประเทศ ทีนี้ในซีเรียตอนนี้มันสับสนอลหม่านแต่ภายใต้การสับสนอลหม่าน ปรากฏว่าสหรัฐฯก่อนหน้านี้ไม่ยอมรับว่ามีการสนับสนุนกองกำลังติดอาวุธบอกว่าทุกอย่างทุกสิ่งเป็นการช่วยในแง่ของมนุษยธรรม ท้ายที่สุดมันเกิดข่าวขึ้น

ยุคล : ก็คือย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.นะครับ นางซูซาน ไรท์ ที่เป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายความมั่นคงของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำของสหรัฐฯได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นว่า คือด้านหนึ่งเหมือนพี่ต้อยว่านะครับก็คือวอชิงตันมอบความช่วยเหลือในด้านมนุษยธรรมแก่ซีเรียไปแล้วกว่า 1.7 พันล้านสหรัฐ

สนธิญาณ : 1.7 พันล้านสหรัฐ 5.6 หมื่นล้านบาทไทย มหาศาลเข้าไปสนับสนุนทุ่มเท

ยุคล : และในจำนวนนี้เป็นการให้ความช่วยเหลือทั้งที่เป็นอาวุธและไม่ใช่อาวุธแก่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย

สนธิญาณ : ทีนี้มันไม่ใช่ มันต่อต้านหรือให้เงินอย่างเดียว มีอีกปรากฏว่าในซีเรียมันสับสนอลหม่าน กลุ่มกบฏกลุ่มต่อสู้ ฝ่ายนู้นฝ่ายนี้เขาสู้กันเยอะปรากฏว่าเป็นแบบนี้เนี่ย กลุ่มกบฏซีเรียซึ่งสหรัฐฯสนับสนุนกลับเอายุทโธปกรณ์ที่สหรัฐฯให้ไปให้กับกลุ่มก่อการร้ายในเครือของอัลกออิดะห์เป็นเรื่องเลย เพนตากอนออกมาแถลงเองเพนตากอนออกมาแถลงเองว่าเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นแล้วแล้วได้ปรากฏข่าวสารเนี่ยนะครับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความล้มเหลวและน่าอับอายในโครงการฝึกฝนและติดอาวุธแก่กบฏซีเรีย 

เห็นไหมที่บอกว่าสหรัฐฯไม่ไปเที่ยวยุ่มย่ามบ้านเพื่อคือพอมีเงื่อนมีไขและพอไม่ใช่อยู่ในเครือข่ายตัวเองเนี่ยนะ เอาทันทีเลยนะ เงินที่ใช้สำหรับการฝึกฝนกองกำลังติดอาวุธท่านผู้ชมสหรัฐฯใช้เงินไปทั้งสิ้น 1.5 หมื่นล้าน จาก 5.6 หมื่นล้านที่ช่วยไปนะ ไปช่วยในการฝึกฝนกองกำลังติดอาวุธเนี่ย 1.5 หมื่นล้าน สร้างกองทัพของกบฏขึ้นมาเนี่ยมีกำลังประมาณ 5.4 พันนาย

ผมเกริ่นอันนี้ให้เห็นเพื่อให้ท่านผู้ชมได้เห็นภาพว่าความหมายของโลกล้อมประเทศ ความหมายที่มหาหินพูดเรื่องกองกำลังยูเอ็น พูดถึงเรื่องระเบิดเป็น 100 จุด แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่คิดกันอยู่คืออะไร คือให้เกิดสงครามกลางเมืองเหมือนซีเรีย และถ้าเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นเหมือนกับที่พี่เคยพูดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ฉลาด ถ้าวันที่รัฐประหารออกมารัฐประหารเลยกลุ่มกำลังติดอาวุธกับมวลชนที่เตรียมไว้ก็จะฮือออกมาแล้วประเทศเราก็จะคล้ายๆ ซีเรียมีกองกำลังเข้ามาปะทะตีโต้กับกองกำลังของกองทัพ แล้วท้ายที่สุดกองทัพก็จะเป็นฝ่ายกบฏในความหมาย นานาชาติหรือสหรัฐฯหรือยูเอ็นอะไรก็ตามแต่ก็จะเข้ามาช่วยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้อย่างเต็มภาคภูมิแล้วแบบนั้นก็จะยิงกัน ประเทศเราก็จะเป็นไงหายนะไหม มันอยู่ในแผนการหรือไม่เป็นเรื่องที่อยากให้พิจารณา แล้ววันนี้ทำไมถึงบอกว่าจบแล้ว เวลาหมดพอดี

ยุคล : แหมน่าเสียดายกำลังมันเลยนะครับ พูดถึงจบแล้วเพราะอะไรนะครับ เดี๋ยวมาตามต่อในเบรกหน้า เดี๋ยวช่วงหน้าว่ากันต่อครับ(พักช่วง) กลับมาตามในเบรคที่สอง ช่วงที่แล้วพี่ต้อยได้พูดให้เห็นแผนชั่วร้ายของฝ่ายระบอบทักษิณ

สนธิญาณ : เปรียบเทียบและจินตนาการให้เห็นว่า มีโอกาสเป็นแบบนี้ได้นะครับ

ยุคล  : ก็คือพูดถึงเหตุการณ์ที่ซีเรียกับเหตุการณ์ที่ถูกกำหนดว่าจะเกิดขึ้นในประเทศไทย แต่พล.อ.ประยุทธ์เข้าขัดขวางไว้

สนธิญาณ : มีการกำหนดจริงๆ ไม่ใช่ผมพูดเอง มหาหินพูดและข่าวอื่นๆ ที่ทีนิวส์เกาะติดในนำมาเรียงเรื่องให้เห็น และคนที่จะนำมาเรียงเรื่องให้เห็นผมเรียนท่านผู้ชมนะครับ ต้องเป็นคนที่เคยศึกษาเรื่องของกองกำลังกบฏ กองกำลังติดอาวุธในเมือง กองกำลังที่จะทำการต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง ผมอาจจะเคยมีบทเรียนของทฤษฎีเหล่านี้มาบ้าง จึงจับต้นชนปลายเรื่องพวกนี้ถูกและนำมาบอกให้ท่านผู้ชมได้รับทราบ ทีนิวส์ถึงดำเนินเรื่องนี้มาตามลำดับ มหาหินเป็นตัวที่ขยายความจากเสียงของมหาหินเอง คือถ้าฟังเฉยๆ จะดูแปลกมาก แต่ถ้าเอาไปร้อยเรียงตามทฤษฎีปฏิวัติจะชัดเจนครับ ทีนี้ความเป็นไปได้ ของมหาหินในนโยบายโลกล้อมประเทศที่มหาหินสารภาพออกมา ซึ่งมหาหินจะต้องได้ยินได้ได้ฟังมาจากคนที่จัดตั้ง มาจากเจ้านายคนที่บัญชาการเครือข่ายอยู่ข่างบน

โอกาสที่จะเป็นไปได้จริงมีอยู่ทางเดียวเท่านั้นคือกองกำลังต่างชาติ ทีนี้กองกำลังต่างชาติท่านผู้ชมก็อาจจะสงสัย ว่าสหรัฐฯจะเข้ามาได้อย่างไร ยูเอ็นจะเข้ามาได้อย่างไร ผมหยิบเรื่องซีเรียมาให้ดูเป็น
ตัวอย่าง

ยุคล : ผมขยายข้อมูลที่พี่ต้อยพูดมาเลยนะครับ ก็คือข้อมูลของพ.อ.แพทริค ไรเดอร์ ซึ่งเป็นโฆษกศูนย์บัญชาการกลางของสหรัฐ(ในสังกัดกระทรวงกลาโหมหรือเพนตากอน)ควบคุมปฏิบัติการกวาด
ล้างไอเอสในอิรักและซีเรีย ยืนยันว่ากองกำลังเอ็นเอสเอฟ(NSF : กองกำลังซีเรียใหม่)ได้ส่งมอบอาวุธยุทธภัณฑ์ให้แก่อัล-นุสรา ฟรอนท์ เพื่อขอใช้เส้นทางผ่านเขตอิทธิพลของพวกเขา หากเรื่องที่เอ็น
เอสเอฟส่งมอบเรื่องไม้เครื่องมือให้แก่อัล-นุสรา ฟรอนท์ เป็นความจริงก็เป็นสิ่งที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง และฝ่าฝืนโครงการฝึกฝนและติดอาวุธให้แก่กบฏสายกลางให้แก่ซีเรีย เรื่องนี้พี่ต้อยจะขยาย
อย่างไรครับ

สนธิญาณ : ก็จะขยายว่าชื่อของกองกำลังเอ็นเอสเอฟนี่ก็คือกองกำลังกบฏที่ซีเรียที่สหรัฐฯสนับสนุนภายใต้โครงการฝึกฝนและติดอาวุธ พ.อ.แพทริค ไรเดอร์ยอมรับ

ยุคล : ที่ใช้เงิน15,000ล้านบาทตามที่พี่ต้อยว่า

สนธิญาณ : ครับ 15,000 ล้านบาทสนับสนุนในการฝึกฝนพวกนี้ และมอบอาวุธไปให้ ปรากฏว่ากลุ่มเอ็นเอสเอฟเนื่องจากว่าต่อสู้กันหลายกลุ่มเหมือนที่เล่าให้ฟังในซีเรียก็มีการปะทะกัน พวกนี้ก็บอกว่ากลุ่มที่เอาไปให้อัล-นุสรา ฟรอนท์ เป็นหนึ่งในเครือของอัล-กออิดะห์

ยุคล : เครืออัล-กออิดะห์

สนธิญาณ : ถูกต้องซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามกับสหรัฐฯ

ยุคล : สหรัฐผิดหวัง

สนธิญาณ : ผิดหวังครับ และไม่เพียงเท่านั้นในกลุ่มของเอ็นเอสเอฟมาสมัครพอถึงเวลาได้อาวุธหนีออกเหมือนกับมาย้อนรอยสหรัฐฯ บทเรียนที่พ.อ.แพทริคมาแถลงในนามของเพนตากอน  เขาก็ยอมรับนะครับ เพนตากอนก็คือกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ฉะนั้นข้อสรุปสหรัฐฯมีการสนับสนุนกองกำลังอาวุธที่กำลังต่อสู้กันในประเทศอื่นๆ จริง

ยุคล : อีกความหมายก็คือทีซีเรียสหรัฐฯยังทำจริงเลย

สนธิญาณ : ถูกต้องครับ

ยุคล : แล้วถ้าเป็นประเทศล่ะทำไมจะทำไม่ได้

สนธิญาณ : ก็ไม่เห็นหรือครับ ทูตสหรัฐฯกี่คนเดินไปพบแกนนำคนเสื้อแดง ไปดูเว็บไซต์ของกลุ่มที่ต่อต้านสถาบัน สหรัฐฯเดินสายตลอด นึกภาพออกไหมครับ ทำไมต้องเดินสายตลอด ผมบอกได้
เลยครับ การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไปชะลอโครงการสัมปทานน้ำมัน ชะลอนะครับถูกไหมครั

ยุคล : ถูกครับ

สนธิญาณ : ไม่คิดบ้างหรือครับ ว่าเรื่องที่เดินกันมาผ่านรัฐบาลก่อนหน้านี้ เครือข่ายของบริษัทค้าน้ำมันยักษ์ใหญ่ ล้วนมีอิทธิพลอยู่เหนือรัฐบาลสหรัฐฯทั้งหมด อยู่ๆ หมูเขาจะหามเอาคานเข้าไปสอด ไม่นับกรณีอื่นๆ ที่พล.อ.ประยุทธ์เข้าไปแสดงท่าทีที่ค่อยข้างชัดเจนในการตอบโต้สหรัฐฯเมื่อดำเนินการยึดอำนาจแล้วสหรัฐฯดำเนินการแสดงท่าทีในการต่อต้าน รัฐบาล คสช.และพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ยินยอมพูดท่าทีที่เรียกว่าแข็งกร้าวต่อรัฐบาลสหรัฐฯในขณะนั้น ฉะนั้นการที่มายกตัวอย่างและคนไทยจะต้องตระหนักนะครับ ซีเรียวันนี้ผู้อพยพเป็นล้านนะครับ ทะลักเข้ายุโรป ฆ่ากันตายเป็นแสนๆ

สงครามกลางเมืองตั้งแต่ปี 2553 - ปัจจุบัน 5 ปี ถามสิครับว่าถ้าประเทศเราเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นเราจะเป็นอย่างไร ทีนี้ที่ต้องสรุปว่าจบแล้วทักษิณเป็นอย่างไร ผมฟันธงแบบนี้ครับว่าวันนี้สหรัฐฯเริ่มจะพลิกตัว อันนี้สำคัญนะครับ

ยุคล : ปรัชญาของสหรัฐฯ เป็นไปตามผลประโยชน์ พี่ต้อยจะบอกแบบนั้นใช่ไหมครับ

สนธิญาณ : แน่นอนครับ คือ ไม่ใช่สหรัฐฯหรอกครับ ทุกประเทศในโลกนี้เวลาจะเดินนโยบายระหว่างประเทศจะต้องดำเนินนโยบายภายใต้สิ่งที่เราเรียกว่าผลประโยชน์ของประเทศนั้นๆ ทั้งสิ้น ยกเว้นพวกขายชาติบางคนที่คิดว่าขายชาติเพื่อที่จะเข้าตระกูลตัวเองยอมเอาชาติของตัวเองไปผูกไปรับชาติมหาอำนาจ จะเป็นใครก็ไปพิจารณากัน 

ทีนี้เป็นแบบนี้ที่ผมเรียนว่าทักษิณจบ เพราะความหวังหลักคือสหรัฐฯ กลุ่มล็อบบี้กลุ่มการเมืองที่ใช้ในการเคลื่อนไหวการเมืองต่างๆ อยู่ในสหรัฐฯทั้งสิ้น เรามาดูภาพแรกจิ๊บๆ จ๊อยๆ ก่อนนะครับ ก็คือการที่พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปประชุมยูเอ็นที่นิวยอร์ก ระหว่างม็อบของเครือข่ายที่ต่อต้านพล.อ.ประยุทธ์กับม็อบที่ทำการสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ผมคิดว่าสหรัฐฯเขารู้อยู่แก่ใจว่าทั้งสองกลุ่มเป็นใคร ความรู้สึกในการเชื่อมโยงแล้วก็ไปดำเนินการใครไปด้วยความรู้สึกแบบไหน ใครเป็นอย่างไร อีกฝั่งหนึ่งแสดงศักยภาพให้เห็นว่าผู้ที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์มีมาก จำนวนไม่ใช่ตัววัด จำนวนคือสิ่งที่สะท้อนออกในเชิงสัญลักษณ์ซึ่งยังไม่เคยมีคนไทยรวมตัวกันมากขนาดนี้แล้วไปแสดงแบบนั้น

ยุคล : ไม่ต้องเป็นหมื่นเป็นแสน แบบนี้ก็ถือว่าไม่ปกติ

สนธิญาณ : ครับไม่ปกติในพื้นที่แบบนี้ที่รวมกันได้ส่วนใหญ่นะครับล้วนแต่เป็นต่อต้านทั้งสิ้น เพิ่งมีงบสนับสนุนเผด็จการ

ยุคล : พี่ต้อยจะบอกว่าโดยธรรมชาติของม็อบ ม็อบไล่จะเยอะกว่าม็อบแชร์

สนธิญาณ : ถูกต้องครับ เพราะว่าไปประชุมนะครับ เช่น พวกที่ไม่ต่อต้านฮุนเซน ก็ไปต่อต้านฮุนเซน ทิเบตก็ไปต่อต้านจีน อันนี้ม็อบเชียร์แล้วไปมากด้วย แต่นี่ถือว่าน้ำจิ้ม สิ่งที่เป็นสาระสำคัญที่ผมบอกว่าทำให้สหรัฐฯต้องคิดและต้องหันกลับมาก็คือสิ่งที่เราเรียกว่านโยบายระหว่างประเทศที่พล.อ.ประยุทธ์ใช้ดุลและน้ำหนักไม่ยอมสหรัฐฯตอนต้น จับมือกับจีนแตะมือกับรัสเซีย มวลชนในประเทศจะกี่โพลการทำงานต่อให้ร้อยซีไอเอของหน่วยข่าวกรองจองสหรัฐฯเท่าไหร่ ก็รู้ว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้เชียร์พล.อ.ประยุทธ์ เราก็ต้องกลับมาดูว่าสิ่งที่เกิดเป็นรูปธรรมหนึ่งเรื่องคือประเทศไทยได้รับเลือกเป็นประธานกลุ่มจี77(G77) ข่าวแบบนี้ไม่ค่อยหลุดออกไปกว้างขวางนัก

ยุคล : ต้องขยายต้องอธิบายนะครับ

สนธิญาณ : ครับ กลุ่มจี77 แล้วเป็นอย่างไรล่ะครับ

ยุคล : คือเป็นยิบย่อยในการประชุมครั้งนี้

สนธิญาณ : ถูกครับ เรื่องนี้สำคัญกับประเทศไทยนะครับ กลุ่มจี77 เรียกว่าเป็นกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาคือพวกยากจนนะครับ มีอยู่ 134 พวกนี้รวมกลุ่มกันเพื่อไว้เป็นดุลต่อรองต่อรองกับประเทศมหาอำนาจ

ยุคล  : เป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดแล้วนะครับ

สนธิญาณ : 134 ประเทศครับ อาจจะเป็นประเทศยากจน แต่เยอะที่สุดเวลาลงเสียงหนึ่งเสียงเท่ากันนะครับ

ยุคล : ความจนความรวยไม่ได้วัดกัน

สนธิญาณ : ถูกต้องครับและเมื่อมารวมกันแล้วอำนาจก็มีอำนาจในการต่อรองกับกลุ่มประเทศ เช่น จี7 นี่จี77 นะครับ จีคือพวกไหนครับ ก็พวก เยอรมนี สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เป็นต้น มีหลายเสียงค่อนขอดมาว่าวนมาถึงประเทศไทยพอดี ผมเรียนท่านผู้ชมครับว่าสมาชิกทั้งหมดมี 134 ประเทศ

ยุคล : คือจี 77 เป็นจำนวนเดิมนะครับ แต่ผ่านมา 50 ปีงอกขึ้นมาเรื่อย

สนธิญาณ : ถูกต้องครับ เราก็กลับมาดูว่าโควต้าที่เวียนมาบรรจบไม่ใช่โควต้าของประเทศไทย เป็นโควต้าของเอเชียนะครับ

ยุคล : ของทวีป

สนธิญาณ : ฉะนั้นกลุ่มเอเชียจะได้เป็น เมื่อได้เป็นก็แสดงว่าประเทศไหนที่อยู่ในประเทศเอเชียล้วนมีสิทธิ์สมัครทั้งสิ้น

ยุคล : ก็มีหลายสิบประเทศเลย

สนธิญาณ : ปรากฏว่าในครั้งนี้ข่าวที่ไม่ปรากฏเป็นข่าวคือมีการสมัครทั้งสิ้น 3 ประเทศรวมทั้งประเทศไทย แต่ปรากฏว่า 2 ประเทศถอนตัว การที่เขาถอนตัวก็แสดงว่าต้องมีการล็อบบี้ พูดคุย ยอมรับ
แน่นอนครับว่ากลุ่มบุคคลหนึ่งที่ทำงานอยู่เบื้องหลังความสำเร็จก็คือกระทรวงการต่างประเทศที่จะต้องไปเจรจา แต่การไปเจรจาก็แสดงว่าประเทศทั้งหลายเขาต้องยอมรับ 2 ประเทศถอนออกไป แล้วให้ไทยขึ้นเป็นประเทศเดียวให้เลือกเป็นเอกฉันท์

ยุคล : แล้วทำไมไทยต้องเป็นประเทศจี77 ในรอบนี้ครับ

สนธิญาณ : เราก็ดูครับว่าในระหว่างนโยบายโลกล้อมประเทศกำลังขยายไปนะครับ วันนี้ประเทศที่ผู้นำมาจากการรัฐประหารเป็นเผด็จการทหาร โลกเขาไม่ได้รังเกลียดนะครับ ปกติโลกจะรังเกลียดนึกออกไหมครับ เมื่อโลกไม่ได้รังเกลียดนะครับไม่ได้จบแค่นี้ครับ ผมเรียนท่านผู้ชมต่อนะครับว่านอกเหนือจากจี77 แสดงว่าโลกไม่ได้รังเกลียดประเทศไทยที่มีผู้นำมาจากการรัฐประหาร 134 ประเทศเป็นเอกภาพกันเลือกไทย แต่ไม่ได้หยุดอยู่เท่านั้นนะครับในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีการเลือกตัวแทนขององค์กรอีกองค์กรหนึ่งที่สำคัญของสหประชาชาติคือ

ยุคล : คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

สนธิญาณ : ต้องเรียนท่านผู้ชมครับ ว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเป็นหน่วยงานที่สำคัญที่สุดของสหประชาชาติต้องย้ำแบบนั้น สำคัญที่สุดอย่างไร สหประชาชาติจัดตั้งขึ้นเมื่อหลัง
สงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะมีสงครามจึงตั้งองค์การระหว่างประเทศขึ้นเพื่อที่จะป้องกันระงับเหตุไม่ให้เกิดสงคราม ใครมีข้อพิพาทใครมีประเด็นที่ถกเถียง ก็ต้องมาคุยกันในสหประชาชาติ และพวกที่จะทำหน้าที่ก็คือ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งมีหน้าที่อยู่ทั้งสิ้นอยู่ 11 ข้อด้วยกัน

ยุคล : ข้อ 1 ธำรงรักษาสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศตามวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติ
ข้อ 2 สอบสวนเกี่ยวกับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การกระทบกระทั่งระหว่างประเทศ
ข้อ 3 เสนอแนะวิธีที่จะใช้กรณีพิพาทเช่นว่านั้น หรือ เงื่อนไขที่ให้มีการตกลงปรองดองกัน
ข้อ 4 วางแผนเพื่อสถาปนาระบบการควบคุมกำลังอาวุธ
ข้อ 5 ค้นหาและวินิจฉัยว่ามีภัยคุกคามต่อสันติภาพ หรือ เป็นการกระทำที่รุกรานหรือไม่ แล้วเสนอแนะว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร
ข้อ 6 เรียกร้องให้สมาชิกประเทศทำการลงโทษในทางเศรษฐกิจ และใช้มาตรการอื่น ๆ ที่ไม่ถึงขั้นทำสงคราม เพื่อป้องกันมิให้เกิดหรือหยุดยั้งการรุกราน
ข้อ 7 ดำเนินการทางทหารตอบโต้ฝ่ายที่รุกราน

สนธิญาณ : นี่ล่ะครับเวลายูเอ็นจะส่งกองกำลังไปมาจากรัฐมนตรีความมั่นคงฯ

ยุคล :  ข้อ 8 เสนอให้รับประเทศสมาชิกใหม่ รวมทั้งเงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ ในการที่จะเข้าเป็นภาคีตามกฎหมายของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
ข้อ 9 ทำหน้าที่ให้ภาวะทรัสตีของสหประชาชาติ ในเขตที่ถือว่ามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์
ข้อ 10 เสนอแนะให้สมัชชาสหประชาชาติ แต่งตั้งตัวเลขาธิการและร่วมกับสมัชชาในการเลือกตั้งผู้พิพากษาศาลโลก
ข้อ 11 ส่งรายงานประจำปีและรายงานพิเศษต่อสมัชชาสหประชาชาติบรรดาประเทศสมาชิกของสหประชาชาติ ต่างตกลงยินยอมที่จะปฏิบัติตามข้อมติใด ๆ ของคณะมนตรีความมั่นคง ทั้งยังรับรอง
ที่จะจัดกำลังกองทัพของตนให้แก่คณะมนตรีความมั่นคงหากขอร้อง รวมทั้งความช่วยเหลือและและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ

สนธิญาณ : ฉะนั้นคณะมนตรีความมั่นคงฯ แท้จริงแล้วคือคณะกรรมการบริหารสหประชาชาตินั่นเอง คือเป็นผู้ที่บริหารโลกดูแลไม่ให้โลกกระทบกระทั่งไม่ให้เกิดสงคราม มีปัญหาก็เข้าไปเคลียร์ ถ้าเคลียร์ไม่ได้ก็เข้าไปบอยคอตทางเศรษฐกิจ หากไม่ได้ก็เอากำลังทหารเข้าไป ต้องเป็นมติไปจากนี้ทั้งสิ้น สำคัญมากนะครับท่านผู้ชมครับ เมื่อสำคัญมากการที่จะเข้าไปอยู่ในนี้ก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดา 

คณะรัฐมนตรีความมั่นคงฯ มีอยู่ทั้งสิ้น 15 ประเทศ 5 ประเทศเป็นถาวรเป็นมหาอำนาจ

ยุคล : มี จีน ,ฝรั่งเศส, รัสเซีย, สหราชอาณาจักร และอเมริกา

สนธิญาณ : ทำไม 5 ประเทศนี้ได้เป็นเจ้าประจำ เพราะเป็นผู้ชนะสงครามหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ชนะ ก็มีหน้าที่ดูแลโลก แต่ว่าจะดูแลโลกกันเองก็น่าเกลียด เปิดโอกาสให้ประเทศอื่นๆ ซึ่งเป็นสมาชิกของสหประชาชาติเข้ามาอีก 10 ประเทศ

ยุคล : คือ 5 ประเทศแรกเป็นสมาชิกแบบถาวร

สนธิญาณ : ไม่มีใครมาแทนเป็นทุกปีทุกชาติ

ยุคล : ประเทศที่เวียนมาเป็นชั่วคราว

สนธิญาณ : แล้วเขาจะแบ่งมาเป็นโซนครับ โซนเอเชีย 2 คน โซนแอฟริกา 3 คน โซนหมู่เกาะ 1 คน ประมาณนี้ครับ ผมยกตัวอย่างว่าเขาจะแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละกี่คนเขาก็จัดมาหลักการแบบนั้นครับ ทีนี้ในแต่ละกลุ่มก็จะมีการสมัครเข้าไปและให้ประเทศต่างๆ ในวง เห็นภาพไหมครับ

ยุคล : เชื่อมจากจี77

สนธิญาณ : มีโอกาสอย่างยิ่งครับ

ยุคล : ที่จะสมัครใช่ไหมครับ

สนธิญาณ : สมัครแน่นอน ซึ่งการที่จะสมัครเป็นแบบนี้ครับ ถ้าไม่หยั่งเสียงไว้ก่อนไม่ได้ ต้องหยั่งเสียง สมัครแล้วไม่ได้นี่หน้าแตก

ยุคล : ประมาณว่าเตี๊ยมไว้ก่อน

สนธิญาณ : ฉะนั้นก็จะเดินไปสู่จุดนี้ถ้าไทยซึ่งเคยเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติครั้งนึงแล้วเมื่อปี 2528-2529 ไทยได้เป็นมาแล้ว ถ้าไทยได้เป็นก็แสดงว่าปัญหาที่ไปพูดไปกล่าวขานกันว่ารัฐบาลประเทศไทยมาจากรัฐประหารเป็นเผด็จการทหารน้ำหนักจะลดลงทันที

ยุคล : พูดได้ว่าแสบมากเลยนะครับ เพราะว่าก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์จะไปยูเอ็น ฝ่ายต้านหรือฝ่ายไหนๆก็ตามไปเสียท่าแล้วจะโดนบอยคอตจะโดนจะไม่ต้อนรับอย่างนั้นอย่างนี้ วันนี้ไปถ้าเข้าไปเป็นสมาชิกในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้อีกจะคนละเรื่องเลยนะครับ

สนธิญาณ : ทีนี้ผมจะเรียนอย่างนี้ครับ ว่าจะเป็นได้จะมีประเทศนึงที่หนุน ต้องประเทศนี้หนุนถ้าประเทศนี้ไม่หนุนก็เหนื่อยครับ คือ สหรัฐอเมริกา ผมก็เชื่อว่าสหรัฐฯจะหนุนก็เที่ยวนี้

ยุคล : พี่ต้อยมาแปลก พี่ต้อยพูดแบบนี้ก็อะไร ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์กับสหรัฐฯก็ไม่น่าจะหนุนกัน

สนธิญาณ : เกาะข่าวนะครับ การเกาะข่าวเพื่อจะบอกว่าให้จับตาดูบทบาทของ กลิน ทาวน์เซนด์ เดวีส์ เอกอัครราชทูตคนใหม่ เพราะก่อนหน้าที่ที่มาไม่ว่าจะเป็นตัวทูต, อุปทูตหรือรักษาการแสบทั้งนั้นครับ แสดงท่าทีให้เห็นเลยว่าเข้าไปสนับสนุนระบอบทักษิณนะครับ เดินทางไปพบที่นู่นที่นี่เหมือนกับลำดับความให้ฟัง แต่ปรากฏว่าเดวีส์เขาออกคลิปมาหน่อยนึงแล้วนะครับ ว่าท่าทีอ่อนลงค่อนข้างจะมาก แม้จะพูดเรื่องประชาธิปไตยอะไรก็ว่ากันไปนะครับ การที่พูดเรื่องประชาธิปไตยก็ต้องยังรักษาท่าทีว่าไม่สนับสนุนเผด็จการอยู่ โทนเป็นแบบนั้น แต่ท่าทีของทูตสหรัฐฯคนใหม่เปลี่ยนไปเราก็จะเห็น เห็นอะไรครับ เห็นดุลที่ประเทศไทยโดยรัฐบาล คสช. และพล.อ.ประยุทธ์วางน้ำหนักได้อย่างลงตัว แน่นอนครับเราไม่ควรจะไปเลือกใคร ทีนิวส์เคยบอกแล้วว่าถูกต้องที่ไปเลือกจีน เราต้องเลือกสิครับเพราะสหรัฐฯไม่เอาเรา เราจะไปตามง้อไปตามกราบไปตามเป็นลูกกะโล่เขาทำไม แต่ทันทีที่เราเดินไปที่จีนกับรัสเซียท่าทีก็เปลี่ยนไปครับ ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเรือจีนมาป้วนเปี้ยนอยู่หน้าฮาวาย เพนตากอนออกมาแถลงนะครับ ว่าแม้ว่าจะอยู่ในน่านน้ำสากลแล้วคุณจะมาป้วนเปี้ยนทำไม คุณกำลังจะส่งสัญญาณอะไรหรืออย่างไร ในขณะที่จีนก็รู้สึกปวดกบาลกับสหรัฐฯที่เข้ามายุ่มย่ามในเขตเอเชียในระหว่างที่จีนกำลังกระทบกระเทือนในน่านน้ำทะเลในหมู่เกาะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น ซึ่งกำลังมีปัญหากันใหญ่โต สหรัฐฯก็เข้ามาหนุนอยู่ จนวันนึงจีนก็พูดแล้วว่าอยากเกิดสงครามโลกครั้งที่สามหรือ  เหมือนขู่นะครับ นี่คือท่าทีที่กำลังเกิดขึ้น ฉะนั้นแนวนโยบายของสหรัฐฯในวันนี้จึงควรกลับมาดีกลับไทย ทั้งในแง่ของจุดยุทธศาสตร์ ของพื้นที่ตั้งและในจุดอื่นๆ ที่การเมืองระหว่างประเทศของไทย ได้เดินไปถึงจุดที่น่าสนใจ เมื่อเป็นแบบนี้ผมพอจะสรุปได้หรือไม่

ยุคล : ว่าอเมริกาจะหนุนให้ไทยไปเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

สนธิญาณ : ถ้าจะได้เป็นสหรัฐฯต้องหนุน ซึ่งนั่นแสดงว่าจบแล้ว

ยุคล : สหรัฐฯพลิกข้างแล้ว

สนธิญาณ : ไม่มีอนาคตแล้วนี่

ยุคล : หมายถึงทักษิณหรือครับ

สนธิญาณ : ถูกต้อง บอกขวัญชัยว่านอนเย็นๆก่อน เดี๋ยวรอเลือกตั้ง ก็ไม่มีอนาคต เพราะเจอเรียกว่าหมัดเด็ดของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ทำแบบ คตส. ไม่ได้ใช้อำนาจเผด็จการ ไม่ใช่มาตรา44 ทุกอย่างไปตามขั้นตอนกฎหมาย ทุกอย่างลงล็อคหมด สมชายเป็นอย่างไรครับ

ยุคล : ลุ้นอยู่ศาลฎีกานักการเมืองตัดสินทักษิณสลายม็อบ

สนธิญาณ : ยิ่งลักษณ์เป็นอย่างไร

ยุคล : มีโอกาสติดคุกและจะโดนยึดทรัพย์อีก คุณพานทองแท้ก็จ่อจะโดนคดีฟอกเงินอีก ดีเอสไอ(DSI)กำลังสืบสวนสอบสวนอยู่

สนธิญาณ : จบไหมครับ

ยุคล : จบไปที่ศาล

สนธิญาณ : บ๊ายบาย

ยุคล : บ๊ายบายใครครับ ท่านผู้ชมหรือใครครับ

สนธิญาณ : ผมยังไม่บ๊ายบายคุณผู้ชมเพราะมีอีกช่วงหน้า ผมบ๊ายบายใครก็ไปตีความหมายกันเอาเอง

ยุคล : เดี๋ยวพักกันสักครู่ บ๊ายบายไปแล้วหนึ่งคน ช่วงหน้าจะบ๊ายบายใครอีกหรือเปล่า ระเบิดราชประสงค์ ตามต่อกันในเบรคหน้าสักครู่เดียวครับ(พักช่วง) กลับเข้ามาในช่วงสุดท้ายของรายการอีกหนึ่งเรื่องผมเชื่อว่าท่านผู้ชมรอฟังอยู่ก็คือเรื่องของการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาหรือจะเรียกว่าคนร้ายก็ตามคดีระเบิดราชประสงค์และท่าเรือสาทร จนถึง ณ ขณะนี้มี 17 คน และจับกุมผู้ต้องหาสำคัญได้ 2 คนก็คือ มิราลลี ยูซูฟู และ บิลา มูฮัมหมัด(นายอาเดม คาราดัก) จนกระทั่งข่าวตั้งแต่ปลายสัปดาห์จนถึงต้นสัปดาห์ทั้งคู่รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง วันนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงข่าว ทีนิวส์ของเราก็ถ่ายทอดสดให้ดูตั้งแต่ต้นจนจบ แต่สิ่งที่ค้างคาอยู่เหมือนเดิมก็คือว่าต้นสายปลายเหตุของการก่อเหตุคืออะไร และใครคือผู้บงการตัวจริง จะเป็นประเด็นที่สองที่เราจะมาพูดคุยกันในวันนี้ ระเบิดราชประสงค์ตำรวจจะสาวถึงตัวผู้บงการหรือไม่ นี่คือประเด็นที่พี่ต้อยตั้งขึ้นเอง

สนธิญาณ : เป็นประเด็นที่ผมตั้งขึ้นแต่ผมเรียนนะครับว่าคนไทยทุกคนคิดอย่างนี้ เหมือนถามแทนพี่น้องคนไทยทั้งหลายว่า ตำรวจซึ่งได้แสดงผลงานอันเยี่ยมยอดแล้ว ยอมรับกัน แต่ก็ต้องเรียนต่อไปว่าไม่ใช่มีตำรวจฝ่ายเดียวเรื่องนี้ทหารและหน่วยงานความมั่นคงได้ร่วมทำงานกันอย่างเข้มแข็ง ฉะนั้นตัวผู้ต้องหาเมื่อจับได้จึงต้องอยู่ภายใต้การควบคุมหรือการดูแลของฝ่ายทหารด้วยแม้ว่าเราจะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่มีอะไรทำผิดกฎหมายในการสืบสวนสอบสวนฝ่ายทหารดูแลอยู่ด้วย ทีนี้เราต้องกลับมาดูว่า ณ นาทีนี้ ต้องเรียนก่อนว่าผู้ต้องหาทั้งสิ้นมี 17 คน จับได้ 2 คน แล้ว 2 คนที่จับได้นะครับเขาไม่ได้รับสภาพ ดังนั้นเมื่อจับตั้งแต่แรกสิ่งที่เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาเขาตั้งข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง การตั้งข้อหาของตำรวจสำคัญครับ เมื่อตั้งแล้วจะต้องมีพยานหลักฐานเป็นที่ประจักษ์มัดตัวผู้ต้องหาให้ได้รับโทษตามที่ตัวเองกระทำได้ ฉะนั้นหลายท่านจะรู้สึกคับข้องหมองใจ บางทีผบ.ตร.คนนู้นคนนี้มาพูดว่ารู้ตั้งแต่ต้น อาจจะมีการรู้ตั้งแต่ต้นแต่ทำไมไม่ตั้งข้อหาล่ะ รู้มาตั้งแต่ต้นครับ แต่ไม่มีหลักฐานก็จะซวยโดนฟ้องกลับได้ โดนฟ้องกลับตอนไหนก็ตอนที่เรื่องเดินเข้าสู่ศาล ซึ่งศาลต้องใช้หลักฐานพยานมายัน เราจะมาใช้ความรู้สึกและหลักฐานอย่างเดียวไม่ได้ เพราะหลักของกฎหมายอาญามีหลักที่สำคัญข้อหนึ่งครับว่า ปล่อยคนผิดไปสิบคนร้อยคน ดีกว่าจับคนบริสุทธิ์เพียงคนเดียวเข้าคุก เพราะฉะนั้นกระบวนการเดินเข้าสู่ศาลและเปิดเผย ศาลจะมีหลักตรงนี้อยู่ ว่าต่อให้น่าจะเชื่อว่าผู้ต้องหามุ่งกระทำความผิด แต่มีข้อสงสัยบางประการแล้วศาลจะปล่อยเลย ท่านผู้ชมอาจจะงง เช่นเขาไปยิง เห็นชัดๆว่านายนี้รูปร่างอย่างนี้เข้าไปยิง แต่ไปยิงตอนตะวันกำลังจะตกดินแสงกำลังแยงตา พยานบอกว่าลักษณะคล้ายแบบนี้แต่ไม่ชัด แค่นี้ศาลก็จะยกขึ้นมาทั้งๆ ที่ดูพยานหลักฐานอื่นๆ น่าจะใช่ เมื่อองค์ประกอบทำให้มีข้อสงสัยว่าผิดจริงหรือไม่เพียงนิดเดียวก็ปล่อยแล้ว

ยุคล : ถ้ายืนยันไม่ได้

สนธิญาณ : ไม่ได้เลยครับ คดีอาญาเป็นแบบนี้ ฉะนั้นตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงเขาถึงเดินมาทีละเปราะ เขาอาจจะรู้ตั้งแต่ต้นซึ่งถ้าเหมือนกับเวลาพี่มาพูดในรายงาน หรือพูดตอนเช้าเหมือนกันว่าเวลาเปิดข่าวหรือตั้งประเด็นอย่างนู้นอย่างนี้เป็นการอำพรางบางเรื่อง อำพรางให้โจรหรือคนกระทำความผิดตายใจ เช่นอำพรางว่าจะไปอยู่มาเลเซียหรือไม่ หนีออกนอกประเทศไปแล้วยังไง พวกที่อยู่ก็ตายใจทั้งๆ ที่ในเชิงของการสืบสวนความจริงเขาอาจจะไปเกาะอยู่แล้ว แต่เพื่อไม่ให้กระโตกกระตาก นี่เป็นวิธีการทำงานของตำรวจในการจับกุม จับกุมมาแล้ว 2 ราย ไม่ใช่หัวใจสำคัญ ติดข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง อันนี้แน่นอนอยู่แล้วไม่มีข้อสงสัยเห็นชัดๆ อยู่แล้ว จนทนายเสื้อแดง ชูชาติ กันภัย ออกมาบอกว่าเขาไม่ได้อยู่ห้องนี้ ไปจับเขามานั่งอยู่กับวัตถุระเบิด

ยุคล : พูดง่ายๆ คือเล่นละครจัดฉากยัดข้อหาเต็มที่เลยนะครับ

สนธิญาณ : แต่ตอนนั้นเขาอาจจะนึกถึงเรื่องมนุษยธรรมกับอาเดม แต่ไม่รู้นึกถึงมนุษยธรรมของคนต่างชาติที่มาเสียชีวิตที่ราชประสงค์หรือไม่ก็ไม่รู้ ปรากฏว่าวิธีข้อต่อสู้แบบนั้นที่ต้องการชี้ให้เห็น เพราะประจักษ์พยานหลักฐานชัด จึงบอกว่าจัดฉากต่อเนื่องมา จนถึงวันที่ชัดเจนว่าสองคนนี้ สิ่งที่ตำรวจจะต้องแกะ ต้องแกะรอยประจักษ์พยานผ่านกล้องวิดีโอ ซึ่งแต่แรกเขาไม่พูดนะว่าอยู่ๆ กล้องตามติดไป อยู่ๆ หายไปจากจอ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปไม่ได้ เพราะว่าคุณจะไปโผล่ที่ไหน เพราะว่ายกตัวอย่างว่า คุณออกมาสวนลุมพินี ขาดออกจากกล้องสวนลุมพินีไป แต่กล้องกี่พันตัว คุณจะไปโผล่อยู่ตัวหนึ่ง นึกออกไหมครับ เขาเจตนาตั้งแต่ต้นเขามาเพื่อเปิดเผย เขาไม่ได้ไปพักโรงแรมแล้วนั่งรถจากใต้ถุนโรงแรมออกมา แล้วก็มาแล้วก็วาง ไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะถึงจะนั่งรถมา ก็ต้องมีกล้องตัวใดตัวหนึ่งเห็นว่าลงมาจากรถ และมาจากไหน จึงต้องสร้างกระบวนการซับซอน อำพราง

เมื่อจับมาเสร็จผมถึงเรียนว่าตอนนี้มีคนอยู่สามคนที่เป็นหัวใจสำคัญอยู่ หนึ่งคนแรกนะครับก็คืออีซาน ตัวบงการ เพราะความหมายของตัวบงการเขาเรียกว่าบงการในระดับผู้ปฏิบัติ คือบงการวางแผน สั่งคนนู้นทำหน้าที่ จะเป็นตัวบงการก็แสดงว่าหัวใจสำคัญอยู่ที่คนนี้ ว่าคนนี้เป็นคนคิดค้นว่าจะทำเรื่องนี้ขึ้นมาเอง มีแรงจูงใจแล้วหาพวกมาทำกันเอง ใช่หรือไม่ สองก็คือคนที่ชื่อนายอ๊อด พยุงวงศ์

ยุคล : อ๊อด พยุงวงศ์ เป็นผู้ต้องหาคนล่าสุดนะครับที่มีการออกหมายจับ ยงยุทธ พบแก้ว

สนธิญาณ : สามนี้คือ วรรณา ที่บอกว่าจะจับวันนี้หายไปไหน หายไปจากสารบบของโลก มีการบอกว่าจะกลับมาพิสูจน์ข้อเท็จจริง แต่ไม่กลับ ทำไมสามคนนี้ถึงเป็นคนสำคัญ ก็เพราะว่าตัวอีซาน จะต้องติดต่อกับผู้บงการแน่และตัวของนายอ๊อดซึ่งเป็นผู้มาติดต่อกับนางวรรณาข้อสำคัญนายยงยุทธมีส่วนไปเกี่ยวพันกับการระเบิด

ยุคล : ทั้งระเบิดที่มีนบุรีในปี57 และสมานเมตตาเมนชัน ปี 53

สนธิญาณ : อันนี้เราไม่ได้ยืนยันเองนะครับ พ.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ท่านว่านะครับเอารายละเอียดให้ท่านผู้ชมได้เห็นชัด

ยุคล : ตอนแถลงข่าวตอกย้ำแบบนี้ พอเริ่มพูดถึงนายอ๊อดขึ้นมาปรากฏว่านักข่าวซัดตำรวจทุกคนนะครับที่แถลงข่าว เริ่มต้นที่ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช  ผบก.น.6 ก็แถลงตอนหนึ่งว่ากรณีที่มีคนไทยถูกออกหมายจับนายอ๊อดและนางวรรณา โดยเฉพาะนายอ๊อดนั้นเคยก่อคดีเอาไว้ พบว่าเคยฝ่าฝืนพ.ร.บ.ฉุกเฉินและเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีระเบิดเมื่อปี 57 ที่ย่านมีนบุรี และจากการตรวจสอบประวัติกลุ่มคนร้ายก็เชื่อมโยงไปยังสมานเมตตาเมนชัน ซึ่งเกิดระเบิดเมื่อปี 53 ข้อเท็จจริงจุดนี้จะสืบสวนขยายผลต่อไป ผบ.ชน. พ.ต.ท.ศรีวราห์ที่ร่วมแถลงข่าวด้วยก็พูดถึงความเชื่อมโยงไปยังเหตุการณ์สมานเมตตาเมนชัน การเชื่อมโยงในส่วนรายละเอียดยังเปิดเผยไม่ได้ แต่พบว่าวัตถุพยานล่าสุดมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุที่ผ่านมาส่วนข้อมูลอยู่ในสำนวนคดีอยู่แล้ว แล้วอ๊อดมีประวัติติดยาบ้า เล่นการพนันและมีหน้าที่สนับสนุนจับหาอุปกรณ์ต่างๆ ให้กับกลุ่มผู้ต้องหาก่อเหตุระเบิดครั้งนี้ และนอกจากนี้ยังมีประวัติอาชญากรรมอีกด้วย อย่างไรก็ตามเลขบัตรประจำตัวของนายอ๊อดไม่มีแต่กำชับให้จับกุมมาให้ได้แล้วยืนยันว่าต้องจับมาให้ได้และคนสุดท้าย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ก็แถลงว่าตัวละครต่างๆอาจจะเชื่อมโยงได้ เช่นนายอ๊อดอาจมีส่วนเกี่ยวข้องที่มีนบุรีและที่สมานเมตตาเมนชัน ดังนั้นการทำงานของตำรวจก็ต้องไปหาส่วนเชื่อมโยงและคนจ้างวานอาจจะทำให้เกิดเจตนาร้าย โดยอาจจะจ้างวานคนอีกกลุ่มที่ไม่พอใจในการทำงานเข้มงวดของรัฐเข้ามาก่อเหตุเพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันของผู้ก่อเหตุและผู้จ้างวาน ตรงนี้ครับที่คนสงสัยว่าไปพูดถึงกระบวนการค้ามนุษย์ว่าอาจจะเป็นเหตุ แต่ก็พูดถึงว่ามีการจ้างวานด้วย เป็นการสมประโยชน์ร่วมกันทั้งผู้ก่อเหตุและจ้างวานนี่คืออะไร

สนธิญาณ : ผมเรียนแบบนี้คือตอนนี้ตำรวจพูดนะครับ เพราะบอกแล้วว่าต้องฟังไว้ทั้งสิ้นและเขาจะพูดอำพรางจะพูดอะไรว่าของเขาไป แต่สิ่งที่ผมเรียนว่าท่านผู้ชมต้องพิจารณาผมเรียนแบบนี้ก่อน
เรื่องแรกก่อน "ความแค้น" ถ้าเป็นความแค้นของกระบวนการค้ามนุษย์ ผมถามว่าแค้นเรื่องอะไร แบบนี้ก่อนถ้าเป็นความแค้นกับขบวนการค้ามนุษย์แสดงว่าพวกขบวนการที่มาทำการอาชญากรรม
ไม่ใช่อุดมการณ์ทางการเมือง ถูกไหมครับ ทีนี้ความแค้นของกระบวนการอาชญากรรมเพราะพวกนี้อยู่ในขบวนการอาชญากรรมค้ามนุษย์ข้ามชาติ ไล่เลียงมาชายแดนเขมรเข้าสู่ไทย สู่กรุงเทพฯ แล้วลงสามจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้วทะลุไปสู่มาเลเซีย พวกนี้ทำเพื่ออะไรครับ เพื่อเงินในกระเป๋า ถูกไหมครับ

ยุคล : ก็เป็นการค้า

สนธิญาณ : เป็นการค้า เป็นอาชญากรรม คนที่ทำอาชญากรรมถามว่าตั้งแต่มีเรื่องมีราวรัฐบาลไทยรัฐบาล คสช. จับพวกเขาไหมครับ ไม่ได้จับพวกเขาเลยนะครับ จับทหารบก จับตำรวจ จับทหารเรือ เขาจับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งตามพยานหลักฐานตามหมายศาลที่ออกเจ้าหน้าทีรัฐก็คนไทยทั้งนั้น แสดงว่าคนไทยพวกนี้มาสนับสนุนพวกนี้ และพวกนี้เป็นการก่ออาชญากรรมนะครับ จะมาก่อเหตุแบบนี้เพื่อให้สูญเสียผลประโยชน์และรายได้ของพวกเขาไหมครับ เขาไม่ทำครับ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจมากนะครับ แต่รู้ไหมครับว่าองค์กรอะไรแฝงอยู่ในญี่ปุ่น รัฐบาลญี่ปุ่นก็ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว แม้จะยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ไม่ไปสร้างคดีใหญ่เพื่อให้กระทบกระเทือนรัฐบาล ก็คือ "ยากูซ่า" (YAKUZA)

ยุคล : ที่ดูตามหนังนะครับมีจริง

สนธิญาณ : มีจริงๆ ครับ ข่าวลงใหญ่โตสามารถติดตามได้ครับ คนที่ก่ออาชญากรรมสิ่งที่อยู่ในหัวพวกเขาคือผลประโยชน์ แล้วที่มาวางระเบิดนั้นแค้นอะไร

ยุคล : ไม่มีประโยชน์นะครับถ้าจะมีปัญหากับรัฐนั้น

สนธิญาณ : จะมีปัญหาทันทีครับ จะมีประโยชน์ตรงไหนขึ้นมาสำหรับตัวเอง แล้วบอกว่าแค้นแล้วแค้นอะไร จะบอกว่าไม่ได้ค้าขายสักพักก็ได้ค้าขายต่ออยู่ดี เพราะยังไงกระบวนการก็เป็นไปนึกออกไหมครับ เพราะถ้าแค้นแล้วทำ ถ้าบอกว่าแค้นเพราะว่าอุยกูร์ไม่ได้เดินทาง โรฮิงญาไม่ได้เดินทางก็แสดงว่าเป็นเรื่องอุดมการณ์ ถ้าเป็นเรื่องอุดมการณ์เขาต้องมีการแถลงไหมครับ แสดงความรับผิดชอบ ถ้าทำเป็นเรื่องอุดมการณ์นะครับจะต้องแถลงย้ำให้เห็นว่าไม่พอใจรัฐบาลไทย ถ้ายังขืนไม่เคารพจะโดนอีก ก็ว่ากันไป นี่ไม่แถลง ไม่แถลงก็ต้องมาอาชญากรรมแบบที่พล.ต.อ.สมยศว่า แต่ถ้าเป็นอาชญากรรมคำถามเวลาจะก่ออาชญากรรมต้องมีแรงจูงใจและต้องมาดูเหตุ ทีนี้เหตุจูงใจทั้งหลายคือเงินและผลประโยชน์แล้วจะมาทำทำไม แล้วมาทำสลับซับซ้อนแบบนี้ เราก็กลับมาดูต่อว่าข้อเท็จจริงถูกต้อง ท่านไม่ต้องมาแถลง เลขา สมช. ชัดอยู่แล้วการค้ามนุษย์ แต่ถามว่าอะไรเป็นแรงจูงใจของเขา เมื่อแรงจูงใจของเขาคือเงิน อะไรเป็นแรงจูงใจ ตัวละครแบบอ๊อดจึงเกิดขึ้น ตัวละครเกิดขึ้น รองรับตาว่าพวกนี้ซึ่งเป็นกลุ่มคนตุรกีจะมาเชื่อมกับอ๊อดได้อย่างไร อ๊อดเป็นคนที่บัตรประชาชนก็ไม่มี อยู่ในวงการอาชญากรรม เขาประกาศอยู่ในยูทูบหรือครับว่าพวกนี้จะทำ ต้องมีคนมาพาเชื่อมกับอ๊อด คนที่พามาเชื่อมกับอ๊อดคือใคร

ยุคล : วรรณา

สนธิญาณ : ครับ เพราะมีสามีเป็นคนตุรกี สามีก็มีส่วนด้วย แสดงว่าจะเป็นคนที่เดินมาหาอ๊อดหรืออ๊อดเดินไปหาตอนนี้ไม่แน่แล้ว นึกออกไหมครับ เพราะถ้าวรรณาเดินมาหาอ๊อด แล้วจะเดินมาหาอ๊อดทำไมเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการทำนู่นทำนี่

ยุคล  : มีการเชื่อมกันระหว่างไทยกับต่างชาติที่พี่ต้อยกำลังบอก

สนธิญาณ : ถ้าเป็นผมผมคาดการณ์ ผมก็ต้องเรียกว่าอ๊อดเป็นคนเดินมาหาวรรณา เพราะอ๊อดเคยมีส่วนในการเชื่อมโยงการระเบิดทั้งสมานเมตตาและที่มีนบุรี

ยุคล : ไกลมากนะครับระหว่างปี 53 - 57

สนธิญาณ : 5 ปีเต็ม

ยุคล : คนในวงการตัวจริงเลยแบบนี้

สนธิญาณ : ไม่ใช่วงการตัวจริง แต่ต้องเป็นตัวสำคัญตัวหนึ่งที่เดินอยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดและเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถที่จะสแกนมาได้แล้ว ถึงบอกว่าวันนี้อ๊อดกลายเป็นตัวที่ไขความลับ เพราะโดยหลักการที่น่าเชื่อก็คืออ๊อดต้องเดินมาหาวรรณาจะเจอกันที่ไหนอย่างไรเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้อยู่แล้วหรือติดตามต่อก็ได้ อาจจะเดินมาหาวรรณาแล้วบอกว่าช่วยวางระเบิดหน่อยสิ

ยุคล : ถ้าเป็นตามนี้อ๊อดจะต้องอยู่ในระดับที่อาจจะสูงหรือเท่ากับอีซานเลยนะครับ

สนธิญาณ : ไม่ครับ เดินมาหาวรรณา เพราะวรรณาเป็นคนไทยที่รู้จักกับตุรกีกับแก๊งนี้ และภายใต้แก๊งนี้ก็อยู่ภายใต้อีซานเป็นหัวและวรรณาก็ต้องมาพูดกับหัวหน้า นี่ผมจินตนาการไป ดูสมเหตุสม

ผลไหมครับ

ยุคล : ก็มีความเป็นไปได้ครับ

สนธิญาณ : อ๊อดที่เดินเข้ามาแล้วก็ดำเนินการต่างๆ อ๊อดเคยเชื่อมกับเหตุการณ์ระเบิด 53 อ๊อดเคยเชื่อมกับเหตุการณ์ 57 มาเชื่อมอย่างไร แสดงว่าต้องติดต่อกันเป็นเครือข่ายในขบวนการเดิม อ๊อดจะต้องเกี่ยวข้องกับขบวนการเดิมซึ่งเป็นขบวนการที่เตรียมการวางระเบิดในปี 53 และ 57 แต่ไม่สำเร็จแต่ระเบิดเสียก่อน กลับมาดูพฤติกรรมของพวกนี้ แค้นมากตายไป 20 ศพ สะใจไหมครับ

ยุคล : ก็ต้องสะใจถ้าว่าแค้นมาก

สนธิญาณ :  ควรหนีไหม

ยุคล : ควรหนี

สนธิญาณ : หนีไหมครับ ไม่ได้หนี เตรียมการจะวางระเบิดต่อนะครับ การเตรียมอุปกรณ์ทั้งหมด

ยุคล : คือตอนไปซื้อท่อเหล็ก เจ้าของร้านบอกว่าซื้อไป 10 ต่อ

สนธิญาณ : ซื้อไป 10 ท่อแสดงว่าเตรียมการวางอย่างน้อย 10 จุด และสิ่งที่ปรากฏให้เห็นก็คือที่ท่าเรือสาทรว่าแสดงว่าเอาจริง ถ้าเอาจริง การระเบิดหนึ่งครั้งเพื่อแสดงอะไรบางสิ่งบางอย่างในทางการ

เมืองหรือความสะใจ ทำเสร็จต้องสลายตัวหายไป

ยุคล  : แต่นี้วางแผนต่อเนื่อง

สนธิญาณ : ทำต่อเนื่อง การที่คิดจะทำต่อเนื่องแสดงว่าคิดที่จะทำต่อไป ว่าถ้าระเบิดต่อเนื่องไป 10 ลูก รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์เจ๊งเลยไหมครับ

ยุคล : หนักเลยไหมครับตอนนั้น

สนธิญาณ : ไม่ใช่แค่ตอนนั้น ตอนนี้ก็หนักครับ เรียนท่านผู้ชมแบบนี้นะครับ ระเบิดลูกเดียวผมได้รับผลกระทบเต็มๆ ทำไมครับ เพราะว่าผมทำธุรกิจอีกส่วนหนึ่งอันเกี่ยวข้องกับทัวร์พี่น้องชาวจีน เตรียมการทำมาตั้งแต่เดือนเมษายน เซ็นสัญญากับเอเยนต์ทัวร์ต่างๆ เรียบร้อยในการที่จะนำทัวร์มาแล้วมาใช้บริการในธุรกิจของผม ผลปรากฏว่าวันนี้จากแผนรายได้ทั้งหมดที่เตรียมการเอาไว้เป็นศูนย์ครับ พี่น้องทัวร์ที่มาพูดคุยมาเป็นตัวแทนผมบอกว่าตอนนี้เหลือ 30% เราอาจจะยังเห็นทัวร์จีนอยู่ที่ภูเก็ต ที่พัทยา ที่กรุงเทพฯ ที่วัดพระแก้วเต็มไปหมด แต่นั่นหายไปแล้ว 70% เป็นการหายโดยการยกเลิกพวกที่มาคือพวกที่ยังกล้าหาญและตกค้าง แต่ขายใหม่ยังเป็นปัญหาอยู่ ตอนนี้นะครับธุรกิจผมต้องเดินแล้วในเดือนตุลาคม เข้าใจเขาเขายังบอกว่าไม่ได้นะคุณสนธิญาณจะมาคาดหวังแบบเดิมตอนนี้ไม่ได้ จะต้องไปดำเนินการหาทัวร์คนไทยมาสนับสนุนมาซับพอร์ต ดิฉันไม่ได้ผิดสัญญาข้อเท็จจริงเป็นแบบนี้ แนวโน้มอาจจะดีขึ้นมองเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นแต่ผลกระทบชัดเจนเข้าใจไหมครับ นี่ลูกเดียวครับ

ยุคล : ถ้า 10 ลูกไม่ต้องพูดเลยนะครับ

สนธิญาณ : เหมือนที่มหาหินว่าไม่ต้อง 10 แค่เพียง 2 ลูกแล้วก็เหมือนที่ผมเรียนไปนะครับ โยงใยกลับไปที่มหาหินว่าที่ระเบิด 100 จุด แล้วมหาหินบอกว่าจะเป็นไปได้หรือ ฟังดูดีนะครับ มหาหิน

เขาก็เอาระเบิดเหมือนกับพวกปัญญาอ่อนมาขว้างหน้าศาลอาญา คดีของมหาหินเกิดขึ้นเมื่อไหร่ครับ

ยุคล : 7 มีนาคม 58

สนธิญาณ : มหาหินโดนจับ มหาหินบอกมีการจะวางระเบิด 100 จุด มหาหินไม่เชื่อ แสดงว่ามีคนบอกมหาหินนึกออกไหมครับ ผมถามครับว่าพวกนี้มาเช่าบ้านตั้งแต่เดือนอะไร

ยุคล : หมายถึงที่หอพักใช่ไหมครับ

สนธิญาณ : ครับ มาเช่าตั้งแต่ต้นปีไหมครับ

ยุคล : ใช่ครับ

สนธิญาณ : แสดงว่ามีการเตรียมการมาตั้งแต่ต้นปี แล้วมีโอกาสไหมครับที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการที่มหาหินพูด ผมมาโยงเอาเองนะครับ แต่เห็นภาพไหมครับว่าจิ๊กซอว์แต่ละตัว อ๊อดมาติดต่อวรรณา ไม่ใช่วรรณามาติดต่ออ๊อดนะครับ เพื่อให้กลุ่มตุรกีกลุ่มนี้ แขกขาวกลุ่มนี้มาดำเนินการ กลุ่มนี้เข้ามาเช่าพื้นที่มาเตรียมการตั้งแต่ต้นปี มหาหินโดนจับตั้งแต่เดือนมีนาคม แล้วมีคนบอกมหาหินว่าเดี๋ยวจะมียูเอ็นเข้ามาจะมีระเบิดขึ้นเป็น 100 จุดทั่วทั้งประเทศ แสดงว่ามีการเตรียมการจริงปฏิบัติการจริง แต่จะเป็นคนกลุ่มเดียวกันหรือไม่อันนี้สนธิญาณไม่ทราบครับ แต่ฟังดูเหตุผลแล้วก็ดูสมเหตุสมผล ผมถึงเรียนว่าต้องเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องเดินเรื่องนี้ต่อไป แต่ผมคิดว่าวันนึงพยานหลักฐานต้องปรากฏชัดขึ้น ยกเว้นเรื่องเดียวอ๊อดจะตายไปแล้ว ยกเว้นจริงๆนะครับ คือถูกฆ่าปิดปาก

ยุคล : มีโอกาสไหมครับถามแบบบ้านๆ เลยว่า เราจะจับตัวผู้บงการหรือรู้ถึงที่มาที่ไปสักที

สนธิญาณ : ยากครับ จะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว ถ้าวันนี้มีข่าวอะไรก็ไม่น่าจะเกี่ยว และต้องดูข่าวนี้เหมือนกัน วันนี้มีอดีตนายตำรวจใหญ่ท่านหนึ่งไม่ไปศาล ชื่อพล.ต.ท.ชัชจ์ กุลดิลก

ยุคล : เกี่ยวยังไงครับ

สนธิญาณ : ไม่เกี่ยวครับ อย่ามาโยง ไม่ไปศาลแต่พล.ต.ท.ชัชจ์ก็เป็นคนหนึ่งที่มีการตั้งข้อสังเกตมาเสมอในเรื่องของการชุมนุมเมื่อปี 53 นึกออกไหมครับ นี่ฝ่ายมั่นคงเขาตั้งหลักมาโดยตลอด ไม่รู้การไม่ไปศาลด้วยเหตุผลกลใดต้องรอดู ไม่เกี่ยวเรื่องนี้นะครับ กลับมาที่อ๊อดเรื่องนี้หัวใจสำคัญ อีซานได้มาก็จะได้รู้บทบาทของอ๊อด จับอ๊อดได้ก็ต้องดูที่เขาแถลง กำชับว่าจับกุมมาได้แล้วและยืนยันว่าต้องจับมาให้ได้ จะดูว่าจับได้จริงหรือเปล่า ถ้าจับได้จริงนะครับงานนี้ เคลียร์ชัด

ยุคล : ไม่อีซานก็ต้องอ๊อด คนใดคนหนึ่ง

สนธิญาณ : เพราะวรรณาไม่กลับมาแล้ว

ยุคล : ถ้าวรรณากลับมาก็รู้เหมือนกัน

สนธิญาณ : ก็อาจจะรู้แต่ว่าอ๊อดตัดตอนไงครับ เพราะฉะนั้นนะครับก็ต้องเรียนนะครับว่าจะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ แต่ผมสรุปได้อย่างหนึ่งว่า บ๊ายบาย

ยุคล : บ๊ายบายอีกแล้วนะครับ

สนธิญาณ : ไม่ได้เยาะเย้ยหรือถากถางนะครับ ผมต้องการจะเรียนใครก็ตามแต่ที่อยู่ในขบวนการจัดตั้งขบวนการแบบมหาหินนะครับ และมีโอกาสได้ดูรายการนี้นะครับ อย่าไปเชื่อในสิ่งที่สายจัดตั้งหรือเครือข่ายของคุณบอกว่าก่อความรุนแรงขึ้น ประเทศเป็นแบบนี้แล้วจะเกิดเหตุ ต่างชาติเข้ามาแล้วจะเปลี่ยนการปกครองสู่ประชาธิปไตยในความฝันของคุณได้ ผมบอกได้ว่าอย่าไปเชื่อ ข้อแรกขบวนการปฏิบัติที่แข็งแรงกว่าคุณ เงินแทบจะไม่เข้ามาเกี่ยวข้องมีอุดมการณ์ล้วนๆ คือพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ไม่สำเร็จเพราะอะไรครับ เพราะความคิดไม่สอดคล้องกับสังคมไทย สองคุณไม่สอดคล้องกับสังคมไทยแบบเดียวกับพรรคคอมมิวนิสต์ของคุณย่ำแย่กว่าเพราะผู้นำต่างๆ ของคุณล้วนอยู่แต่บนผลประโยชน์บนเม็ดเงินของทุนสามานย์ และขัดแย้งเรื่องของผลประโยชน์ตบตีด่ากันในเฟซบุ๊กโอนเงินไม่โอนเงินอย่างนี้อย่างสม่ำเสมอ เรื่องนี้ความหวังที่ไปดูกับสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์กำลังเดินไป ประเทศไทยกำลังจะเป็นไปตามข่าวที่ไม่ปรากฏ ผมอยากให้ดูว่าหลังจากเป็นประธานจี77 แล้วนะครับ เป็นจริงตามที่ผมคาดคิดเอาไว้ไหมว่าไทยจะเข้าสมัครเข้าคณะรัฐมนตรีความมั่นคงฯ ถ้าเราได้นั่นก็แสดงว่านโยบายต่างประเทศที่ของพล.อ.ประยุทธ์ เดินมาถึงขีดที่น่าปรบมือ บอกแล้วคนๆ นี้ยังไม่ธรรมดาครับ

ยุคล : เหลืออีกสองสามวันรู้ครับ วันนี้ขอบคุณพี่ต้อยมากครับ ลาคุณผู้ชมเพียงเท่านี้พบกันใหม่วันจันทร์หน้า สวัสดีครับ

สนธิญาณ : สวัสดีครับ