PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

กสม.ฟันธง "กปปส."ใช้สิทธิชุมนุมเกินจำเป็น | เดลินิวส์


วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2558 เวลา 18:49 น. 

กสม.ฟันธง "กปปส."ใช้สิทธิชุมนุมเกินจำเป็น กสม.แถลงผลงานรอบ 6 ปี มีมรดกตกค้างส่งต่อชุดใหม่ 958 เรื่อง "หมอนิรันดร์"แนะอย่าใช้การทหารแก้การเมือง หวั่นปัญหาบานปลาย ชี้"กปปส."ใช้สิทธิชุมนุมเกินจำเป็น 

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) นางอมรา พงศาพิชญ์ ประธาน กสม. พร้อมกรรมการ กสม. ร่วมกันแถลง 6 ปี ผลการดำเนินงานของ กสม.ชุดที่ 2 โดยนางอมรา กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้เข้ามารับหน้าที่ เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2552 โดยรับคำร้องเดิมจากกรรมการชุดเก่า 1,563 คำร้อง ทำเสร็จสิ้น 1,555 คำร้องและระหว่างเข้ารับหน้าที่เมื่อ 25มิ.ย.52 - 30 ก.ย.58มีคำร้องยื่นเข้ามาจำนวน 4,143 ทำเสร็จ 3,185 คำร้องและจะส่งต่อให้กสม.ชุดใหม่ 958 คำร้อง ทั้งนี้ก็ตามการทำหน้าที่ที่ผ่านมาไม่ขอเปรียบเทียบผลงานระหว่างชุดที่1 กับชุดที่2 ว่าชุดไหนดีกว่ากัน 

อย่างไรก็ตามอยากเสนอให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาให้กสม.สามารถหยิบยกกฎหมายที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนขึ้นมาพิจารณาก่อนส่งฟ้องศาลรัฐธรรมนูญศาลปกครอง ศาลยุติธรรมให้ยกเลิกได้ แทนการรอให้มีคนมาร้องเรียน ขณะที่ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กสม. ในฐานะประธานอนุกรรมการสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง กล่าวว่า กสม.ได้เข้าไปตรวจสอบการชุมนุมทางการเมืองและการใช้ความรุนแรงทางการเมือง 2 ครั้ง คือเมื่อปี 2553 และปี 2556-2557 มีข้อสรุปว่าการชุมนุมทั้ง 2 ครั้งมีปัญหาเรื่องสิทธิการรับรู้ความจริงและการยอมรับความจริงร่วมกัน แม้จะมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านต่างประเทศเข้ามา แต่ยังไม่มีการถอดบทเรียนจากเหตุการณ์อย่างแท้จริง ต้องมีการจัดการการชุมนุมหรือความขัดแย้งอย่างเหมาะสม และไม่ควรใช้กฎหมายที่รุนแรงการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง หากแก้ปัญหาด้วยการทหาร ยิ่งทำให้ปัญหาขยายตัวเหมือน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงมีการเสนอเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อการชุมนุมอย่างเหมาะสมตามหลักกฎหมาย รวมทั้งต้องสรุปบทเรียนว่าการที่จะทำให้ประเทศไทยไม่ตกหลุมความขัดแย้ง จำเป็นต้องคิดถึงปัญหาต้นตอ เพราะประเทศไทยติดกับดักบ้านเมืองต้องการปฏิรูป ซึ่งมองไม่เห็นเค้าลางการการปฏิรูปประเทศไทยจะเกิดขึ้นจริง “ระยะ 1 ปีเศษที่ผ่านมามีปัญหาการละเมิดสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ภายใต้สถานการณ์รัฐประหารต้องยอมรับว่าภายใต้กฎอัยการศึกแม้จะยกเลิกไปแล้ว แต่สังคมไทยยังมีปัญหาด้านเสรีภาพในการแสดงความเห็น เช่น เสรีภาพของสื่อมวลชนและนักวิชาการ เป็นต้น แม้กระทั่งการที่ประชาชนอยากมีส่วนร่วมปัญหาต่างๆในพื้นที่ ก็ถูกสกัดกั้นถูกมองว่าทำลายความสงบสุขในความเป็นจริงเป็นสิทธิของพลเมือง”นพ.นิรันดร์ กล่าว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการรายงานผลงานของ กสม.ได้สรุปรายงานการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. เมื่อปี 2556-2557 ว่า แม้การชุมนุมของ กปปส.และกลุ่มต่อต้านรัฐบาลอื่นๆในภาพรวมจะเป็นการใช้เสรีภาพที่เป็นไปตามกรอบของรัฐธรรมนูญ แต่ยังปรากฏว่ามีการดำเนินกิจกรรมบางอย่างที่ส่งผลกระทบต่อการใช้สิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น อาทิ กิจกรรมที่มีวัตถุประสงค์เป็นการขัดขวางไม่ให้มีการเลือกตั้งการปิดล้อมสถานที่รับสมัคร ส.ส. รวมถึงการปฏิบัติการปิดกรุงเทพ ถือเป็นการใช้เสรีภาพในการชุมนุมในที่สาธารณะที่เกินความจำเป็นและกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น อีกทั้งมีการทำลายทรัพย์สิน และใช้สิ่งเทียมอาวุธ โดยแกนนำไม่สามารถควบคุมได้ และไม่มีการห้ามปราม ก็ถือได้ว่าเป็นการชุมนุมที่ไม่สงบและไม่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นความผิดเฉพาะราย 

ดังนั้น กสม.จึงมีข้อเสนอเชิงนโยบายไปยังรัฐบาล คือรัฐต้องดูแลการชุมนุมให้เป็นไปอย่างสงบ ป้องกันไม่ให้กระทบสิทธิเสรีภาพของประชาชนทุกฝ่าย และรัฐควรหลีกเลี่ยงการประกาศใช้กฎหมายพิเศษเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยเพราะไม่สามารถดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ รัฐจึงต้องมีมาตรการ กฎหมายที่เหมาะสม และรัฐโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง และติดตามผู้กระทำผิด ไม่ว่าเจ้าหน้าที่รัฐหรือผู้ชุมนุม หรือบุคคลอื่น มาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม อีกทั้งการสลายการชุมนุมของตำรวจที่ผ่านมา ยังไม่สอดคล้องกับหลักสากลในการสลายชุมนุม ขณะที่ผู้จัดการชุมนุมและผู้ร่วมชุมนุมจะต้องสร้างเจตจำนงร่วมในการชุมนุมภายใต้หลักการรัฐธรรมนูญ ชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ รวมถึงผู้ร่วมชุมนุมต้องใช้เสรีภาพเท่าที่ไม่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น.“

อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/politics/361301

ไม่มีความคิดเห็น: