PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

กรณีฝรั่งเศสส่งเครื่องบินรบเข้าไปทิ้งระเบิดถล่มเป้าหมายไอซิสในจังหวัด Raqqa ทางตอนเหนือของซีเรีย

พฤติกรรมที่น่าหวาดระแวง...จากกรณีถล่มปารีส และการบุกเอาคืนไอเอส.ที่ซีเรีย...หรือ จะเหมือนครั้ง ปฏิบัติการทำสงครามกับผู้ก่อการร้าย ของ"บุช"หลังวินาศกรรม911 
-------------
เป็นไปตามที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้เลย วันที่ 15 พ.ย.58 RT news พาดหัวข่าวว่า "เครืื่องบินขับไล่ของฝรั่งเศสทิ้งระเบิด 20 ลูกโจมตีไอซิสอย่างหนักในซีเรีย" (French jets drop 20 bombs in massive anti-ISIS raid in Syria)
รายงานข่าวบอกว่า ฝรั่งเศสได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ใส่ฐานที่มั่นของไอซิสในเมือง Raqqa ซึ่งไอซิสเรียกว่าเป็นเมืองหลวงของไอซิสในประเทศซีเรีย ได้โจมตีเป้าหมายจำนวนมากซึ่งรวมทั้งศูนย์บัญชาการและควบคุม แคมป์ฝึก คลังเก็บกระสุน อากาศยานของฝรั่งเศสจำนวน 12 ลำซึ่งรวมทั้งเครื่องบินขับไล่ 10 ลำด้วย ได้เข้าไปถล่มทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดในซีเรีย กระทรวงกลาโหมของฝรั่งเศสแถลง

การโจมตีครั้งนี้ได้รับการประสานงานกับทางสหรัฐฯ ซึ่งเครื่องบินรบของฝรั่งเศสออกบินจากจอร์แดนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ "เป้าหมายแรกที่ได้ถูกทำลายไปซึ่งพวกดาอิช (Daesh เป็นชื่อภาษาอาหรับของพวกไอซิส) ใช้เป็นฐานบัญชาการ ศูนย์รวบรวมสมาชิกเพิ่ม และคลังเก็บอาวุธและเครื่องกระสุน เป้าหมายที่สองเป็นแคมป์ฝึกของพวกผู้ก่อการร้าย ได้มีการทิ้งระเบิดทั้งสิ้นจำนวน 20 ลูกในปฏิบัติการโจมตีในครั้งนี้"

นาย Laurent Fabius รมว.ต่างประเทศของฝรั่งเศสอ้างว่า ตนมี "ความชอบธรรม" (legitimacy) ที่จะปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเมือง Raqqa ใส่กลุ่มก่อการร้ายไอซิส" กล่าวกับผู้สื่อข่าวในงานประชุม G20 ที่ประเทศตุรกี

การโจมตีทางอากาศในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจ "ทางการเมือง" (The air raid was a “political” decision…) รมว.ต่างประเทศของฝรั่งเศสกล่าว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าฝรั่งเศส "ยังอยู่และยังฮึกเหิม" ด้วย (France is “present and active”) หลังการโจมตีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า เครื่องบินรบของฝรั่งเศสได้มีภารกิจโจมตีทางอากาศจำนวน 30 เที่ยวใส่ตำแหน่งต่างๆของผู้ก่อการร้ายไอซิสในเมือง Raqqa ทางตอนเหนือของประเทศซีเรียเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ฝ่ายเฝ้าระวังสังเกตุการณ์รายงาน

นาย Peter Cook โฆษกเพนตากอนของสหรัฐฯกล่าวในแถลงการณ์ว่าพันธมิตรได้ตกลงใน "ขั้นตอนที่แข็งแกร่ง (/เป็นรูปธรรม) ซึ่งกองทัพของสหรัฐฯและฝรั่งเศสควรจะเพิ่มความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของพวกเราเพิ่มมากขึ้นในดำเนินการแคมเปญจ์อย่างต่อเนื่อง"

[กรรม! ก็เป็นไปตามที่มีนักวิเคราะห์หลายคนมองเอาไว้ว่างานนี้สหรัฐฯต้องการที่จะหาเสียงสนับสนุนอย่างชัดเจนในการหาโอกาสเข้าไปในซีเรียอย่างเป็นทางการให้ได้ และเพื่อลดข้อครหาอันเนื่องมาจากความล้มเหลวของสหรัฐฯและพันธมิตรในอดีต สหรัฐฯจึงต้องถอยออกมาอยู่หลังม่านชั่วคราว จากนั้นก็ให้ฝรั่งเศสที่เป็นเจ้าทุกข์ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการก่อการร้ายในกรุงปารีสออกหมัดแรงๆแทนสหรัฐฯ - ผู้แปล]
+ บทวิเคราะห์เสริม
---------------
ภาพที่ออกมาก็กลายเป็นว่ากองทัพและรัฐบาลของฝรั่งเศสกระทำการแก้แค้นพวกผู้ก่อการร้าย ซึ่งในสายตาของชาวฝรั่งเศสและหลายคนทั่วโลกก็มองว่าการกระทำของฝรั่งเศสมีความชอบธรรม หมายถึงชอบธรรมที่จะปราบปรามผู้ก่อการร้าย แต่วิธีการของฝรั่งเศสที่เข้าไปในซีเรียโดยไม่ผ่านการอนุญาตจากรัฐบาลซีเรียและยูเอ็นนั้นก็ยังเป็นคำถามอยู่เช่นกันกับที่รัสเซียเคยถามสหรัฐฯและพันธมิตรอยู่บ่อยๆ

อีกคำถามหนึ่งก็มีอยู่ว่า ทำไมต้องเป็นที่ "ซีเรีย" ก่อน? ทำไมถึงไม่เป็นที่ "อิรัค" หรือ "ลิเบีย" หรือประเทศอื่นๆที่มีไอซิสอยู่เช่นกัน? เพราะว่าตอนนี้ทางกองทัพอากาศของรัสเซียและกองทัพของซีเรียพร้อมทั้งพันธมิตรฝ่ายรัสเซียได้โจมตีและรุกไล่ปราบปรามพวกไอซิสได้เป็นจำนวนมาก และสามารถยึดพื้นที่จากพวกไอซิสคืนได้มากขึ้นเรื่อยๆ ที่จังหวัด Aleppo ก็เกือบจะยึดคืนมาได้หมดแล้ว Aleppo อยู่ไม่ไกลจากเมือง Raqqa เลย อยู่ห่างกันเพียงแค่ 203 กม. ใช้เวลาเดินทางทางรถยนต์ไม่ถึง 3 ชั่วโมง

หากทางกองทัพของรัฐบาลกลางของซีเรียสามารถยึดและเคลียร์พื้นที่ในจังหวัด Aleppo ได้เรียบร้อยทั้งหมด การที่จะรัสเซียและซีเรียจะขยายฐานทัพอากาศของตนเข้าไปประจำการที่สนาบินนานาชาติ Aleppo และในฐานทัพอากาศที่ Kwaires ก็จะเป็นการประหยัดทั้งค่าใช้จ่ายในการบินและย่นระยะทางจากสนามบินหลักที่ Latakia ได้ด้วย จุดนี้คือจุดที่สหรัฐฯและพันธมิตรกลัวเป็นอย่างมาก 

และที่สำคัญฝันหวานของตุรกีที่จะเข้ายึดหรือแผ่อิทธิพลของตนเองเข้าไปในพื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรียก็จะลิบหลี่ลงเรื่อยๆ

Jean-Yves Le Drian รมว.กลาโหมของฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ du Dimanche ของฝรั่งเศสว่า "พวกราจะต้องโจมตีทางที่จะเป็นไปได้ทั้งหมดของพวกไปซิส (all the possibilities of the ISIL) [สิ่งปลูกสร้างเกี่ยวกับน้ำมัน - Oil facilities] ใช้เพื่อสนับสนุนทางการเงินของ (ดินแดน) กึ่งรัฐนี้ (quazistate / quazi state) รถบรรทุกเป็นร้อยๆคันเข้าไปยังดินแดนแห่งนั้นทุกวัน พวกไอซิสซื้ออาวุธที่นำไปใช้ในแคมเปญจ์ทางทหาร มีที่อื่นๆที่คล้ายกันนี้อีก และพวกเราจะเดินหน้าโจมตีสถานที่เหล่านั้นต่อไป"

รายงานข่าวบอกว่า เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ฝรั่งเศสได้มีปฏิบัติการโจมตีสถานีปั๊มน้ำมันหลายแห่งที่ควบคุมโดยไอซิสในอาณาเขตของซีเรีย

คำถามก็มีอยู่ว่า ทำไมฝรั่งเศสและพันธมิตรต้องมุ่งทำลายระบบสาธารณูปโภค (บ่อน้ำมัน) ของซีเรียที่ถูกไอซิสยึดไปด้วย? การทำลายหรือตัดแหล่งรายได้ของไอซิสสามารถกระทำด้วยวิธีอื่นนอกจากทำลายบ่อน้ำมันได้หรือไม่? เช่นการตัดเส้นทางการเงิน ปิดหรืออายัดบัญชีธนาคารต่างๆที่มีการเชื่อมโยงกับการค้าน้ำมันเถื่อนจากไอซิส หรือห้ามไม่ให้มีรถบรรทุกน้ำมันผ่านเข้าไปยังประเทศตุรกีผ่านพรมแดนของทั้งสองประเทศ (ซีเรีย-ตุรกี)? คำตอบก็คือทำได้ แต่ไม่ทำ เพราะอะไรถึงไม่ทำ? ก็ต้องไปถามสหรัฐฯและตรุกีว่าทำไมถึงไม่แซงชั่นธนาคารหรือสถาบันการเงินเหล่านั้นที่มีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกิจผิดกฎหมายเหล่านั้นที่เกี่ยวกับพวกไอซิส?

ทางฝรั่งเศสอ้างว่าต้องการจะทำลายแหล่งที่มาทางการของไอซิส ถ้าพวกนั้นไม่มีน้ำมันขายแลกกับอาวุธ พวกนั้นก็จะไม่สามารถเข้มแข็งหรือขาดการสนับสนุนอีกต่อไป จริงหรือครับ? พื้นที่ส่วนใหญ่ในซีเรียที่อยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มต่างที่ต่อต้านรัฐบาลกลาง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มฝ่ายค้านหรือกลุ่มผู้ก่อการร้ายต่างๆ ล้วนมีบ่อน้ำมันเป็นจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ถือว่าเป็นรายได้หลักของรัฐบาลซีเรีย แต่พอถูกยึดไปก็กลายเป็นรายได้หลักของกลุ่มก่อการร้าย

พอกองทัพซีเรียใกล้จะยึดพื้นที่เหล่านั้นคืนมาได้ สหรัฐฯและฝรั่งเศสก็ส่งเครื่องบินรบของพวกตนเข้าไปทิ้งระเบิดทำลายบ่อน้ำมันเหล่านั้นซะงั้น เรื่องอะไรจะยอมให้ทรัพยากรเหล่านั้นกลับคืนไปอยู่ในมือของอัสซาดในสภาพปรกติ เพราะนั่นจะยิ่งเท่ากับทำให้อัสซาดและรัฐบาลกลางเข้มแข็งมากขึ้น ต้องรีบทำลายระบบสาธารณูปโภคเหล่านั้นให้ได้มากที่สุดก่อนที่กองทัพของซีเรียจะเข้าไปยึดคืนจากไอซิส กว่ารัฐบาลซีเรียจะฟื้นฟูระบบเหล่านั้นกลับคืนมาได้ก็คงต้องใช้เวลาอีกหลายปี ซึ่งนั่นคือหนึ่งในยุทธศาสตร์ทำให้ซีเรียอ่อนแอไปเรื่อยๆ

วันที่ 15 พ.ย.58 สำนักข่าว FNA ของอิหร่านพาดหัวข่าวว่า "เครื่งอบินขับไล่ของรัสเซียบอมบ์ที่มั่นทางทหารของผู้ก่อการร้ายไอซินในจังหวัด Raqqa" (Russian Fighter Jets Bomb ISIL Military Sites in Raqqa)

จริงๆแล้วเครื่องบินรบของรัสเซียและซีเรียได้ถล่มฐานที่มั่นต่างๆของพวกไอซิสในหลายจังหวัดด้วยกันในวันเดียวกันนี้ เช่นที่ Aleppo, Damascus, Deir Ezzur, Idlib, Homs, Sweida และ Lattakia รายงานข่าวบอกว่าเครื่องบินรบของรัสเซียเน้นถล่มเฉพาะฐานที่มั่นทางทหารของไอซิสเป็นหลัก ก็แสดงว่าในน่านฟ้าเหนือเมือง Raqqa ไม่ได้มีเฉพาะเครื่องบินรบของฝรั่งเศสเท่านั้น แต่มีของรัสเซียด้วย

ป.ล. เดิมทีโพสต์นี้ตั้งใจจะพูดเรื่อง "Ideological Clash" หรือ "the clash of civilizations" จากการโจมตีกรุงปารีสนะครับ แต่พอเกริ่นนำเรื่องฝรั่งเศสส่งเครื่องบินไปถล่มไอซิสใน Raqqa แล้วก็ยาวเลย งั้นขอยกเรื่อง the clash of civilizations ไปพูดในโพสต์ต่อไปนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น: