PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ทำความเข้าใจตะวันตก..จากกรณีโจมตีปารีส


"การโจมตีกรุงปารีส" เพื่อการศึกษาและเข้าใจถึงวิธีคิดตะวันตกจากอดีตจนปัจจุบันว่า "แตกต่างกันหรือไม่ และอย่างไร ?"และทำไมสงครามก่อการร้ายจึงเหี้ยมโหดนัก เราควรศึกษาไว้ เพื่อระวังไม่ให้เกิดในประเทศไทยเพราะต่างชาติไม่เคยปราณีใคร
วันนี้คงต้องเริ่มที่ คำคมของเชอร์ชิลที่ว่า "The farther backward you can look, the farther forward you are likely to see"เมื่อมองย้อนอดีตไปไกลๆแล้ว เราอาจจะเห็นภาพของอนาคตไกลขึ้นด้วย"
และ "When destiny commands, you must obey" "ชะตากรรมกำหนดไว้แล้วและ เราจะต้องยอมรับมัน" เสมิอนหนึ่งว่า เชอร์ชิลได้อ่านปรัชญาพระพุทธศาสนามาพอสมควร
ส่วนชาร์ลส์ ดารวิน นักธรรมชาติวิทยา ชาวอังกฤษกล่าวไว้ว่า "It is not the strongest of the species that survive, nor the most intelligent but the one most responsive to change" "หาใช่ใครที่ที่แข็งแกร่งที่สุดหรือฉลาดที่สุดจะอยู่รอดได้ แต่เป็นคนที่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงของภาวะแวดล้อม(ที่ดีกว่าหรือเลวกว่า)
1. ขั้นแรกเราคงต้องเข้าใจความหมายสั้นๆของ Jihad เสียก่อน คำนี้มาจากคำว่า Jahada หมายถึง ความมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตที่ดีกว่า ความอุตสาหะ ความเคร่งครัด ความพยายาม ความตั้งใจดี ความขยันมานะอดทน และการต่อสู้เพื่อปกป้องชาติ อาณาจักรและศาสนา
2. กำเนิด Jihad ที่กลายเป็นลัทธิต่อสู้กับต่างศาสนา โดยเฉพาะสงครามครูเสด เมื่อสันตปาปาอูร์บองที่ 2 ระแวงการขยายตัวของอิสลามและระดมอัศวินในยุโรปไปยึดนครเยรูซาเล็มคืนจากอิสลาม และสงครามครูเสดเริ่มต้นในปีค.ศ.1099 เมื่อคริสเตียนยึดคืนนครเยรูซาเล็มได้ แต่สร้างรอยแค้นฝังลึก เพราะนักรบครูเสด ฆ่าและทารุณผู้หญิงและเด็กตายไปจำนวนมาก เพื่อข่มขู่ไม่ให้ชาวอาหรับรบกับอัศวินฝรั่งยุโรป เทมเปลอร์
3. จึงเกิดลัทธิที่ว่า "การทำทารุณหรือฆ่ามุสลิมเพียง 1 คน ก็เหมือนฆ่ามุสลิมทั้งปวง"
4.อัศวินเทมเปลอร์ยุโรปเมื่อชนะสมรภูมิเยรูซาเล็ม ก็ได้สร้างเมือง เช่น อันติโอค-Atioch อิเดสซา-Edessa และทริโปลี-Tripoli เพื่อเป็นปราการ เมืองท่าลำเลียงทหารและอาวุธและต่อมาเพื่อการค้าขาย อันเป็นสัญญลักษณ์แห่งการยึดครอง เพื่อทำลายการดำรงชีวิตพื้นฐานของอิสลาม
5. จึงขอสรุปว่าประวัติการฆ่าและทารุณสร้างความแค้นที่ฝังลึกเป็นตำนานเล่าขานไม่รู้ลืมและการยึดครองเมืองต่างๆในปี 1099 ไม่ต่างกับปัจจุบันเลย มีความเหมือนกันชัดเจน
6. ชาติอิสลามแถบอัฟริกาเหนือและตะวันออกกลางคุ้นเคยกับวิธีการปกครองแบ่งดินแดนหรือฉีกประเทศอิสลามเหล่านั้นเป็นส่วนๆมาแล้วเช่น ข้อตกลงซีเคส-ปิโก (Sykes-Picot Agreement)ระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศสหลังจากชนะสงคราม WW-1 และทำลายอาณาจักรออตโตมันซึ่งมีการปกครองแบบกาหลิบลงได้ เป็นข้อตกลงที่ฉีกอาณาจักรออตโตมันเป็น 2 ส่วนระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศส ฝรั่งเศสได้ซีเรียและสนธิสัญญาบอลโพร์ (Balfour Declaration)ได้ให้สัญญากับชาวยิวอังกฤษ(Rothchild)ว่าจะยกอาณาจักรปาเลสไตน์ให้ชาวยิวทั้งหลาย เข้าอยู่ถาวรเป็นประเทศ และเชอร์ชิลก็ทำตามนั้นด้วย จนเป็นปัญหาไม่รู้จบในตะวันออกกลางที่อิสราเอลต้องเผชิญกับชาติอาหรับนับครั้งไม่ถ้วน
7. ความแค้นเฉพาะสงครามปลดแอกอัลจีเรียและซีเรียจากฝรั่งเศส โดยเฉพาะชาวอัลจีเรียรบเพื่อเอกราช 8 ปี(1954-1962)มีคนตายนับล้าน ทหารรับจ้าง French Foreign Legion ใช้ความโหดเหี้ยมเป็นยุทธวิธีรบ ด้วยการสังหารหมู่ ทำการทรมานและทรกรรมผู้ต่อต้านชาวอัลจีเรียอย่างโหดเหี้ยมทารุณ
8. มีนายพลฝรั่งเศสชื่อนายพล ฟรังซัว เดอ นิกีเยียร์ General Francois de Negriier ประกาศต่อหน้าทหารรับจ้างว่า "ทหารรับจ้างฝรั่งเศส เป็นทหารที่รับจ้างมามีหน้าที่ต้องตาย และข้าพเจ้ากำลังจะส่งพวกเจ้าไปในสมรภูมิที่เจ้าสามารถทำหน้าที่นี้ได้สมบูรณ์แบบ" ดังนั้นทหารรับจ้างจึงทำการรบด้วยหลักการทารุณและโหดเหี้ยม เพื่อตัวเองจะได้รอดตาย
9. จากการประมวลเรื่องราวผ่านเวลา ที่ชาติตะวันตกไม่เคยวางมือ ในการเอาประโยชน์จากประเทศเหล่านี้ เช่นซีเรียเป็นเมืองท่า เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของสหรัฐฯในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อปิดล้อมรัสเซียและครองเส้นทางเดินเรือในเมดิเตอร์เรเนียน และป้องกันไม่ให้รัสเซียใช้ประโยชน์จากซีเรีย ดังนั้นประวัติศาสตร์ที่หมุนเวียนไม่เปลี่ยนแปลง สามารถสร้างนักรบพลีชีพได้ จากการฝึกอบรมแบบล้างสมองด้วยหลัก Martyr ด้วยประวัติศาสตร์ที่เป็นจริง การฝึกแบบการรบเพื่อการพลีชีพแบบ Jihad จึงเกิดขึ้นในแผ่นดินระบอบกาหลิบ แห่ง อบู บาคฮ์ อัล บาคฮ์ดาดี ในซีเรีย

ไม่มีความคิดเห็น: