PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

"บิ๊กติ๊ก"ปลัดฯกลาโหม เผย ได้หนังสือลาออก ของ พลตรี เพื่อนรัก "พันเอกคชาชาต" แล้ว



"บิ๊กติ๊ก"ปลัดฯกลาโหม เผย ได้หนังสือลาออก ของ พลตรี เพื่อนรัก "พันเอกคชาชาต" แล้ว ขณะเจ้าตัว เงียบหาย ข่าวลือตรึม /ระบุ "พันเอกคชาชาต" ออกนอกประเทศ โดยไม่ขออนุญาต ผบ.เหล่าทัพ -รมว.กห.ต้องถูกสอบสวนผิดวินัย เผยรอผลสอบฯ ขาดราชการ จากกองทัพภาค3 เล็งปลดออก หากหายไปเกิน15 วัน ภายใน17พย./กก.สอบสวน ทัพ3 ยัน ออกนอกประเทศ ด่านแม่สอด 06.35 น.31ตค.
บิ๊กติ๊ก พลเอกปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ระบุว่า พันเอกคชาชาต บุญดี ฝ่ายเสนาธิการประจำกองทัพภาคที่ 3 ทำผิดวินัยของการขาดราชการ ตามระเบียบต้องมี การตั้งคณะกรรมการสอบวินัย เมื่อขาดราชการเกิน 7 วัน
อีกทั้ง ตามระเบียบข้าราชการทหาร หากจะเดินทางออกนอกประเทศ ต้องทำหนังสือขออนุญาต ถึงผู้บัญชาการเหล่าทัพ ต้นสังก้ด และรมว.กลาโหม เป็นการล่วงหน้า ด้วย
นอกจากนี้ พลเอกปรีชา ยังยอมรับว่า นายทหารยศพลตรี อีกคนที่ถูกพาดพิง และเป็นเพื่อนสนิท ของ พันเอกคชาชาต นั้น ได้ทำหนังสือลาออก และส่งมาถึงกระทรวงกลาโหมแล้ว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา แล้ว และอยู่ระหวางการพิจารณา ของกระทรวงกลาโหม
ทั้งนี้ มีรายงานว่า พลตรี คนดังกล่าว หายตัวไป ตั้งแต่ยื่นหนังสือลาออก ไม่มีใครติดต่อได้ จนเกิดข่าวลือหลายกระแส
พันเอกวินธัย สุวารี โฆษก ทบ. กล่าวว่า ตามระเบียบการขาดราชการ เกินกว่า 7 วัน จะต้องมีการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย และหากขาดราชการเกิน 15 หน่วยงานต้นสังกัดจะต้องพิจารณาเรื่องการปลดออกจากราชการทหาร
แต่ต้องดูว่ากองทัพภาคที่ 3 พิจารณาในประเด็นใดว่าเป็นการขาดราชการเพราะติดต่อไม่ได้หรือขาดราชการเพราะหนีคดีอาญา
ทั้งนี้ พลโทสมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาค 3 ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยพันเอกคชาชาต หลังขาดราชการเกิน 7 วัน เนื่องจากไม่ได้มาทำงาน ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และไม่ได้ทำหนังสือขอลาราชการหรือแจ้งหนังสือ ซึ่งถือว่าเป็นการขาดงาน ซึ่งหากขาดราชการนาน ติดต่อกันเป็นเวลา 15 วัน และหากถึงวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ โดยไม่มีการติดต่อกลับมาจะมีผลให้ต้องถูกปลดออกจากราชการ
โดยคณะกรรมการสอบสวน ของกองทัพภาคที่ 3 มี พลตรีคู่ชีพ เลิศหงิม รองแม่ทัพภาค 3 เป็นประธาน ได้ดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอน
โดยคณะกรรมการสอบสวนฯได้ไปตรวจสอบข้อมูลจากด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สอด จ.ตาก เพื่อขอยืนยัน ทั้งหลักฐานว่า พันเอกคชาชาต ได้เดินทางออกนอกประเทศ ไปจริง เมื่อเช้าวันที่ 31 ตุลาคม เวลา06.35 น.
จากนั้นคณะกรรมการได้นำข้อมูลทั้งหมดรวบรวมแล้วส่งเรื่องทั้งหมดให้กับกองทัพบกเพื่อพิจารณา
ทั้งนี้ตามขั้นตอนของระเบียบราชการทหาร หากกำลังพลต้องคดีอาญา ความผิดในกฏหมายมาตราที่ร้ายแรง จะต้องถูกเสนอชื่อให้ปลดออกจากราชการ และเสนอถอดยศด้วย
ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่การเสนอเรื่องขึ้นมาจากต้นสังกัด เพื่อให้กระทรวงกลาโหมเป็นผู้พิจารณา

ไม่มีความคิดเห็น: