PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2558

อ่าน......คำแถลงของ คณะกรรมการฯกลาโหม กรณี "ราชภักดิ์"

อ่าน......คำแถลงของ คณะกรรมการฯกลาโหม กรณี "ราชภักดิ์"
กลาโหม แถลง ไม่มีหน้าที่ชี้ ใครทุจริต เพราะอำนาจหน้าที่มีแค่นั้น ระบุ สอบ23บุคคล มีบางคนไม่อาจตามตัวได้ รวมทั้งเซียนพระ ผู้กว้างขวาง เผยเอกสารคู่สัญญาโรงหล่อ พบ มี"ค่าที่ปรึกษา"20ล้าน มาเป็นเงินบริจาค จากเซียนพระ แต่ ไม่อาจตามตัวคนมาชี้แจงได้/ แต่ สรุปผล และทำ"ข้อสังเกตุ"เสนอ รมว.กลาโหม 16 หน้า ติงไม่ทำตามระเบียบฯ เริ่อง การรับเงินบริจาค การจัดจ้าง เพราะเร่งรัดการดำเนินการ / พลเอกชัยชาญ"ยัน กก.ไม่ได้ช่วยเหลือ “พลเอกอุดมเดช” เพราะมี กก.ส่วนอื่นสอบต่อ ยันไม่เกี่ยว บิ๊กโด่ง จะแสดงสปิริตลาออก หรือไม่ ชี้ 2 นายทหารใกล้ชิด ที่หนีไป เพราะคดีอื่น ไม่เกี่ยวข้อง ราชภักดิ์ พร้อมให้ข้อมูลหน่วยงานที่รับผิดด้านกฎหมายไปตรวจสอบต่อ/แจงตัวเลข รายรับ-จ่าย อุทยานราชภักดิ์ ละเอียด เงินบริจาค802 ล้าน รวมงบกลาง เป็น866 ล้าน ใช้ไป816 ล้าน ส่วนมูลนิธิ มี106 ล้าน เงินในบัญชีออุทยานฯ ทบ.มี76 ล้าน
ระบุ เอกสารหลักฐานถูกต้อง /เรืองไกร" มาฟัง พอใจ กก.กห.แจงตัวเลข งบฯเคลียร์ แต่ห่วง การไม่ทำตามระเบียบ เพราะเร่งรีบ/ เข้าใจ ขอบเขตอำนาจ กก.กห. มีแค่นี้ รอผลสอบ ของ "พลเอกไพบูลย์"
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 30 ธันวาคม ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการดำเนินการโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ พร้อมด้วย พล.ต.พนมเทพ เวสารัชชนันท์ ผู้ช่วยเจ้ากรมพระธรรมนูญ
พล.ต.กิตติศักดิ์ บุญสุข ผู้ชำนาญการ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะคณะกรรมการฯ ร่วมแถลงข่าว
โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย และตัวแทนองค์กรต่อต้านคอรัปชั่น เข้าร่วมรับฟังการแถลงด้วย
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า ในกรอบอำนาจหน้าที่ได้มีการดำเนินการ โดย รมว.กลาโหม ได้แต่งตั้ง เพื่อให้สื่อได้เข้าใจ โดยมีตนเป็นประธาน และมีคณะกรรมการอีก 8 ท่าน และ มีเลขา และ คณะกรรมการ คณะกรรมการกล่าวว่าไม่มีอำนาจหน้าที่กฎหมายไปแสวงข้อเท็จจริง เพียงแสวงหาข้อเท็จจริงตามเอกสารครอบครอง ไม่เหมือนกับหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าตามกรอบกฎหมาย
"คณะกรรมการไม่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายใด ๆ ที่จะไปแสวงหาข้อเท็จจริงได้อย่างกว้างขาง เพียงแต่ดำเนินการตามคำสั่งของกลาโหม ในการแสวงหาข้อเท็จจริงจากบุคคล และเอกสารต่าง ๆ ที่อยู่ในความครอบครองของบุคคลในกลาโหมเท่านั้น "
"ไม่เหมือนกับหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบตามกฎหมาย ซึ่งอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการชุดนี้คือ การรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง จากส่วนราชการ หรือบุคคล ตลอดเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำ ตามคำสั่งของกลาโหม เพื่อสอบหาข้อเท็จจริงในโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์
พร้อมสรุปสำนวนความเห็น และรายงานผล จำนวน16 หน้า ให้ ะลเอกประวิตร รมว.กลาโหม ได้รับทราบ
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการต่างๆ คณะกรรมการพยายามอย่างถึงที่สุด ที่จะแสวงหาข้อเท็จจริงในประเด็นต่าง ๆ โดยได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงาน และบุคคล มาให้ข้อเท็จจริงทั้งส้ิน 23 คน พร้อมหลักฐานอีกจำนวนมาก
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวต่อว่า สำหรับการตรวจสอบในเรื่องเอกสาร เนื่องจากว่ามีเอกสารทั้งเรื่องการเงิน จำนวนมาก ซึ่งทางคณะกรรมการได้ตรวจสอบเอกสารตามบัญชีตามรายรับ และรายจ่าย ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 2558 ซึ่งเป็นวันตัดยอดสรุปรายเดือน และในเดือน ธ.ค.ก็จะสรุปในปลายเดือนนี้ พร้อมทั้งได้รับเอกจากผู้ที่เกี่ยวข้องจนถึงวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นวันที่คณะกรรมการสรุปสำนวนการสอบข้อเท็จจริง สำหรับภาพรวมของโครงการราชภักดิ์กำหนดไว้ 10 เดือน ตั้งแต่ พ.ย. ถึง ส.ค. ทั้งการสร้างหล่อพระบรมรูป 7 พระองค์ การสนามหญ้าภูมิทัศน์ และ ห้องพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์
สำหรับการใช้จ่ายงบประมาณ ในการก่อสร้างส่วนที่หนึ่ง ประกอบด้วยสองส่วน คือ งบกลาง จำนวนกว่า 63 ล้านบาท ใช้ในงานก่อสร้าง 5 งาน ซึ่งเป็นงานก่อสร้างรอบ ๆ พระบรมรูปฯ คือ งานติดตั้งหินอ่อน จำนวน 11.9 ล้านบาทเศษ งานปูพื้น 34.9 ล้านบาท ป้ายอุทยาน 5 ล้านบาทเศษ รปภ. 2 ล้านบาท และ การก่อสร้างรั้วโดยรวม 9 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดหา
ส่วนงบบริจาค ประกอบด้วยรายรับ จากภาครัฐ เอกชน และการจัดกิจการ ไบค์ แอนด์คอนเสริต์แทนคุณแผ่นดิน เข้ากองทุนสวัสดิการราชภักดิ จนถึง 30 พ.ย. รวมดอกเบี้ย เป็นเงิน 732 ล้านบาทเศษ และมีส่ิงขอต่าง ๆ ที่ได้รับการบริจาคสามารถตีเป็นค่าเงินได้ 69 ล้านบาทเศษ รวมรายรับจากการบริจาคแล้ว ทั้งหมด 802 ล้านบาทเศษ
สำหรับรายจ่าย ได้นำไปใช้ในการก่อสร้างตามโครงการ ตามแผน 27 งาน จำนวน 752 ล้านบาทเศษ เช่น การหล่อพระบรมรูปฯ พร้อมพานพุ่มคู่ จำนวน 318 ล้านบาทเศษ การปูหญ้า งานระบายน้ำ การปรับพื้นที่ รวมแล้วเป็นเงิน 752 ล้านบาทเศษ สรุปยอดเงินในวันที่ 30 พ.ย.2558 รายรับจาก งบกลาง และ งบบริจาค รวม 866 ล้านบาทเศษ และใช้ดำเนินการไปแล้ว และอยู่ในระหว่างการดำเนินการตามแผน จำนวน 816 ล้านบาทเศษ
ส่วนที่สองเป็นงบประมาณก่อสร้าง และปรับพื้นที่ รร.นายสิบทหารบก จำนวน 149 ล้านบาทเศษ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามแผนงานของ ทบ.ใน ปี 2558 เพื่อใช้ปรับปรุงสาธารณูปโภค และการปรับปรุงพื้นที่ รร.นายสิบทหารบก ใช้ในการก่อสร้างจำนวน 11 งาน งานปรับปรุงรั้ว ส่วนที่ 1 และ 2 จำนวน 28 ล้านบาทเศษ ระบบประปา 11 ล้านบาทเศษ ในส่วนที่สาม เป็นงบบริจาคที่เข้าไปในมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ จำนวน 106 ล้านบาทเศษ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการใช้จ่ายงบประมาณตรงนี้
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวอีกว่า สำหรับงบประมาณนั้น ทางคณะกรรมการได้เห็นว่า การใช้จ่ายงบกลาง และ งบประมาณของกองทัพบก ในการก่อสร้าง และปรับปรุงพื้นที่ รร.นายสิบทหารบก นั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พศ. 2535 และระเบียบคำสั่งของกองทัพบกที่เกี่ยวข้อง ส่วนงบบริจาค ในบัญชีชื่อกองทุน สวัสดิการอุทยานราชภักดิ์นั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติตามระเบียบคณะกรรมการสวัสดิการกองทัพบก ว่าด้วยอุทยานราชภักดิ์ พศ. 2558 และระเบียบการบริหารอุทยานราชภักดิ์ ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง พศ. 2558
"จากการพิจารณาตรวจสอบพิจารณาได้ว่า การใช้จ่ายงบประมาณ เป็นการดำเนินการตามระเบียบที่ได้กล่าวเอาไว้ ซึ่งทราบว่าคณะนี้ทาง สตง. อยู่ระหว่าง การตรวจสอบ งบประมาณตามโครงการนี้อยู่ "
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวต่อว่า การจัดกิจกรรมราชภักดิ์ไบร์แอนคอนเสิร์ท แทนคุณแผ่นดิน เพื่อหารายได้สมทบทุนการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ และส่งเสริมให้ประชาชนดูแลสุขภาพด้วยการปั่นจักรยานออกกำลัง โดยมี 5 กิจกรรม คือ
1 จำหน่ายบัตรเข้านร่วมแข่งขันปั่น จยย. ชิงถ้วยพระราชทาน ราคา 1500 บาท
2.การจำหน่ายสิ่งของที่ระลึกมี 2 ราคา โดยเสื้อยืดราคา 600 บาท แต่หากมีเสื้อยืด บัตร และ หมวก ราคา 1500 บาท
3.การจำหน่ายบัตรเข้าร่วมในขบวนปั่น จยย. ซึ่งกำหนดให้ผู้เข้าร่วมบริจาค รายละ 1 ล้านบาท
4.การชมคอนเสริต และร่วมรับประทานอาหาร ซึ่งให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมบริจาคที่นั่งละ 1 ล้านบาท และ นอกจากนี้มีรายได้ในการจำหน่ายโต๊ะอาหารให้กับผู้ที่ร่วมงาน โต๊ะและ 3-5 หมื่นบาท ในส่วนการจัดคอนเสริต เอกชนจะออกค่าใช้จ่ายให้
5.การปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน กำหนดไว้ 72ต้น ๆ ละ 3 แสนบาท และมีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคอีก
"ขอย้ำว่ากิจกรรมดังกล่าวไม่ได้ซื้อต้นไม้มาปลูก ภาคเอกชนเป็นผู้สนับสนุนต้นไม้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และรับบริจาคเงินที่ผู้ประสงค์เข้าร่วมกิจกรรม และจะมีการนำชื่อไปติดไว้ที่หน้าต้นไม้ไว้เป็นเกียรติ ซึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าวมีรายได้รวมทั้งส้ิน 77 ล้านบาทเศษ หักค่าใช้จ่าย 1 ล้านบาทเศษ ซึ่งมีรายรับจ่ายชัดเจน ขณะนี้เหลือ 76 ล้านบาทเศษ และเงินจำนวนดังกล่าวได้นำเงินเข้าบัญชีกองทุนสวัสดิการอุทยานราชภักดิ์
"จากการตรวจสอบพบว่ามีการดำเนินการตามแผนงานที่ได้กำหนดไว้ทุกอย่าง"
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวถึง การหล่อพระบรมรูปฯ และ คกก.ได้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้มูล เป็นบุคคลภายนอก แต่มีความเกี่ยวพันกับบุคคลภายนอกที่ไม่ได้มาให้ข้อมูล และ บางท่านก็ไม่สามารถตามตัวมาให้ข้อมูลได้
" คณะกรรมการจึงเห็นว่า การจะให้รายละเอียดในเรื่องดังกล่าวในขณะที่ข้อมูลไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ อาจจะกระทบกับผู้นั้นให้เกิดความเสียหายไดเ ซึ่งในการสอบข้อเท็จจริง คกก.ได้ตั้งข้อสังเกตุไว้ในรายงานสอบข้อเท็จจริง จำนวน 16 หน้า ให้กับ รมว.กลาโหม การดำเนินการต่อไป เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมาย ที่จะต้องดำเนินการต่อไปในประเด็นนี้ "
“คกก.ได้พยายามอย่างถึงที่สุดที่จะแสวงหาข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานต่าง ๆ ในทุกจดทุกประเด็น เท่าที่จะทำได้ เพราะทราบว่าเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของสังคม แต่ด้วยข้อจำกัด และในอำนาจหน้าที่ของ คกก. ส่วนที่นอกเหนือจากอำนาจหน้าที่ของ คกก. ถ้าหากหน่วยงานภายนอกของกลาโหม ที่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องนี้พบว่า มีการดำเนินการใดไม่ถูกต้อง ก็เป็นหน้าที่ของหน่วยงานนั้น สามารถดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ได้กำหนดเอาไว้”
เมื่อถามว่า ข้อสังเกตุที่ไปถึง คกก. เรื่องโรงหล่อนั้น พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า จากที่ตรวจสอบ บางท่านก็ไม่ให้ข้อมูล บางท่านก็ตามตัวไม่ได้ ประเด็นนี้ อยู่นอกเหนืออำนาจของ คกก. แต่ให้ข้อสังเกตุว่าให้หน่วยงานที่มีอำนาจดำเนินการ
เมื่อถามว่า สรุปแล้วการตรวจสอบทุกอย่างโปร่งใส พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า ทุกประเด็นในการสอบข้อเท็จจริงที่นำเรียน รมว.กลาโหม จะมีข้อสังเกตุในแต่ละประเด็นขึ้นไป ทั้งการหล่อพระบรมฯ
เมื่อถามว่า พูดชัด ๆ ว่า การตรวจสอบกลาโหม แสดงว่าไม่พบทุจริต ส่วนเรื่องของโรงหล่อ กับเซียนพระ เป็นเรื่องนอกอำนาจหน้าที่ กก.กห.พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า คกก. ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ รมว.กลาโหม ในเรื่องงบประมาณ โดยแต่ละเรื่องมีข้อสังเกตุอยู่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะต้องไปตรวจสอบจะบอกว่าแผนงานโครงการได้ดำเนินการตามหรือไม่ ส่วนผู้กว้างขวาง คนนั่นเราไม่วามารถตามตัวมาให้ข้อมูลได้
เมื่อถามว่า ข้อสังเกตุที่ส่งไปยัง รมว.กลาโหม มีอะไรบ้าง พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า ในเรื่องงบประมาณ ก็พูดถึงระเบียบต่าง ๆ ที่ใช้ โดยมีการตั้งข้อสังเกตุในเรื่อง กิจกรรมไบค์ แอนด์คอนเสริต์ มีรายรับจ่าย ที่ชัดเจนตามแผนการประชาสัมพันธ์ กิจกรรมเรื่องของการดำเนินการวิธีจัดหา
ข้อสังเกตุมีในการจัดหาจำกัด ส่วนประเด็น การหล่อฯ ก็เป็นไปตามที่ได้เรียนให้ทราบ
เมื่อถามว่า สังคมยังสงสัย และพุ่งเป้าไปที่ตัวของ พล.อ.อุดมเดช ถามว่าตัวบุคคลไมไ่ด้นำมาพิจารณา แสดงว่า พิจารณาในเรื่องงบประมาณ ดังนั้น พล.อ.อุดมเดช บริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า เราไม่สามารถชี้ได้ว่าตรงไหนผิดถูก เพียงแต่ดูประเด็นอะไรที่ตั้งข้อสังเกตุให้หน่วยงานที่่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
เมื่อถามว่า พล.อ.อุดมเดช ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แม้ว่าสังคมจะตั้งข้อสงสัย พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า ในประเด็นเรื่องนี้ ตัวบุคคล โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการหล่อพระบรมฯ ก็ได้มีข้อสังเกตุ และได้ข้อกำหนดในชุดนี้มีการสอบข้อเท็จจริง ไมไ่ด้วินิจฉัยได้ว่าอันไหนถูกผิด เพราะมีอำนาจขอบเขตในการสอบข้อมูลในส่วนของกลาโหม ดังนั้นประเด็นที่สอบไม่สามารถชี้ถูกผิดได้อย่างไร เพียงให้ข้อสังเกตุก็ให้อยู่ในอำนาจของหน่วยงานที่มีอำนาจทางกฎหมายดำเนินการต่อไป
เมื่อถามว่า พล.อ.อุดมเดช และ คนใกล้ตัว ไม่มีการทุจริต แต่ทำไมคนใกล้ตัว ลาออก หนีออกต่างประเทศ ที่สังคมอยากทราบ พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า ตนขอความร่วมมือมาสอบข้อเท็จจริง แต่ก็ไม่ได้มา ไม่สามารถตามตัวได้ ดังนั้นส่ิงนั้นมีเหตุผลอย่างไรที่จะสรุปได้
"แต่คนที่ตามไม่ได้ หรือคนที่หนีไป นี้ นั้น เป็นความผิดคดีอื่น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่อง ราชภักดิ์นี้ ซึ่งเป็นคดีตามหมายศาลทหารกรุงเทพทหารออกหมายจับ"
เมื่อถามว่า พล.อ.อุดมเดช ไม่ต้องลาออกเพื่อแสดงสปิริต พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า ไม่สามารถตอบได้
เมื่อนายมานะ นิมิตรมงตล เลขาองค์กรต่อต้านคอรัปชั่น ที่เข้าร่วมรับฟังได้ลุกขึ้นถามว่า เรื่องนี้จะเปิดเผยรายชื่อคู่สัญญาณได้หรือไม่ พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า พร้อมเปิดเผยรายชื่อคู่สัญญา
เมื่อถามว่า การขออนุมัติงบประมาณกลางไปตรวจสอบ พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า อันนี้ก็เป็นข้อสังเกตุไป
เมื่อถามว่า การหักหัวคิด และ โรงหล่อ ผลการตรวจสอบได้ผลอย่างไร พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า เรื่องนี้ การเชิญบุคคลคนหนึ่งมาให้ข้อเท็จจริง ไม่ได้มาให้ข้อเท็จจริง และบุคคลที่เกี่ยวข้องก็ไม่สามารถตามตัวมาได้ ก็ไม่สามารถวินิจฉัยได้ ก็เสนอขึ้นไป อยู่ในอำนาจของหน่วยงานที่จะต้องดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้จะทำให้ดีที่สุดให้เคลียร์ในทุกประเด็น อย่างเช่นงบประมาณน่าจะชี้แจงได้ตามการดำเนินการ
เมื่อถามว่า ผลสอบเหมือนเป็นการซื้อเวลาให้กับ พล.อ.อุดมเดช นั้น พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า อำนาจของเจ้าหน้าที่ให้ รมว.กลาโหม และให้อำนาจหน้าที่ตรวจสอลไปดำเนินการ และไม่ได้เป็นการช่วย พลเอกอุดมเดช เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ช่วยกันไม่ได้ เพราะยังมีกก.ของส่วนราชการอื่น ตรวจสอบอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงข่าว คณะกรรมการฯ ได้มอบ เอกสารการแถลงข่าว ตัวเลขต่างๆ เป็น power point ให้สื่อ พร้อม เอกสารคู่สัญญา กับโรงหล่อ ต่างๆ ทั้งตัว้ลข ค่าใช้จ่าย และเงินบริจาค โดยพบว่า ในท้ายตาราง มีระบุ "ค่าที่ปรึกษา"20
ล้านบาท มา อยู่ในส่วนของเงินบริจาค โดย เซียนพระ คนดังกล่าวด้วย ซึ่งคาดว่า หมายถึง ค่าดำเนินการ หรือค่าหัวคืว ที่ โรงหล่อ จ่ายให้กับ เซียนพระ ซึ่งถือเป็นเรื่องของเอกชนกับเอกชน โดยที่ กก.กห. ก็ไม่อาจตามตัว เซียนพระ คนนี้ มาให้ข้อมูลได้
ด้าน นายเรืองไกร ลือกิจวัฒนะ ที่เข้ามาฟัง การแถลงด้วย กล่าวว่า พอใจผลการชี้แจงของกก.กห. ที่แจงเรื่องตัวเลข เงิน ต่างๆ ละเอียด ดีกว่า กก. ของ ทบ. แต่ที่ยังเห็นว่า เป็นปัญหาคือ เรื่อง การเร่งรีบดำเนินการ จนอาจไม่ได้ทำตามระเบียบต่างๆ และ ในส่วนของโรงหล่อ กับ เซียนพระ ก็เป็นเรื่องของ ส่วนราชการอื่นที่จะตรวจสอบต่อ คิดว่า กก.กห.ก็ได้พยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แต่เพราะ อำนาจหน้าที่ ตามกม. มีแค่นี้ ก็ต่องรอผลของ ส่วนอิ่น และของ พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม

ไม่มีความคิดเห็น: