PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559

รัสเซียเสริมเขี้ยวเล็บให้กับระบบป้องกันภัยด้วยสุดยอดเรดาร์รุ่นใหม่ประสิทธิภาพสูง

รัสเซียเสริมเขี้ยวเล็บให้กับระบบป้องกันภัยด้วยสุดยอดเรดาร์รุ่นใหม่ประสิทธิภาพสูง
-----------
หันมาดูเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางทหารของฝั่งรัสเซียกันบ้างนะครับ วันที่ 26 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "การแจ้งเตือนล่วงหน้าก็คือการติอาวุธป้องกันไว้ก่อน: รัสเซียเสริมศักยภาพด้านการป้องกันขีปนาวุธให้กับตนเอง" (Forewarned is Forearmed: Russia Boosts Its Missile Defense Capabilities)
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์ Rossiyskaya Gazeta ของรัสเซียรายงานว่า หัวเรี่ยวหัวแรงของระบบป้องกันภัยทั่วโลกตัวนี้เป็นรุ่นที่สามของสถานีเรดาร์ Voronezh-type
ระบบเรดาร์แบบ Voronezh-class นี้มีองค์ประกอบที่สำคัญอยู่ 3 อย่างซึ่งรวมทั้งเรดาร์แบบ Voronezh M, Voronezh-DM (using VHF and UHF), และ Voronezh-VP ที่มีศักยภาพสูง สันนิษฐานว่าน่าจะเป็น EHF (extremely high frequency) ซึ่งมีรัศมีในการตรวจจับวัตถุระหว่าง 4,500 - 6,000 กิโลเมตร และมีศักยภาพในการตรวจจับวัตถุที่ความสูงถึง 4,000 กิโลเมตร
[ว้าววว! แค่เรดาร์ของ S-400 เกลือบจะครอบคุมพื้นที่ทั้งหมดของซีเรียได้อยู่แล้ว เจอเจ้าตัวนี้เข้าไป แหล่มเลย ในวิกิพีเดียบอกว่า เรดาร์ Voronezh-DM (77Ya6-DM) ซึ่งเป็นคลื่นความถี่แบบ UHF (Ultra high frequency) ออกแบบโดยบริษัท NPK NIIDAR ของรัสเซีย มีรัศมีไกลถึง 10,000 กม.และสามารถตรวจจับวัตถุในเวลาเดียวกันได้ถึง 500 เป้าหมาย รัศมีแนวราบอยู่ที่ 6,000 กม. และแนวตั้งอยู่ที่ 8,000 กม. สามารถตัวจับวัตถุที่มีขนาดเท่ากับลูกฟุตบอลในระยะไกลที่ 8,000 กม.ได้สบาย ใช้คลื่นความถี่สองแบบคือทั้งแบบ VHF (Very high frequency) และ UHF ข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆเกี่ยวกับรัศมีของเรดาร์รุ่นนี้ไม่ค่อยตรงกัน ดูเหมือนว่าในวิกิจะค่อนข้างเวอร์ไปสักนิด แต่โดยทั่วไปแล้วน่าจะอยู่ที่ 4,500 - 7,200 กม. รัศมีความสูงราว 6,600 กม. แค่นี้ก็เหลือกินเหลือใช้แล้ว - ผู้แปล]
นอกจากนี้แล้ว ระบบเรดาร์ Voronezh-class สร้างด้วยโมดูลแบบผลิตในโรงงาน และดังนั้นจึงสามารถที่จะทำการติดตั้งได้อย่างรวดเร็วประมาณหนึ่งปีครึ่งเท่านั้น เมื่อเทียบกับสถานีเรดาร์อื่นๆที่มีศักยภาพที่เท่ากันซึ่งต้องใช้เวลาราว 5-9 ปีถึงจะติดตั้งสำเร็จ
[ถ้าได้เจ้านี้ไปติดตั้งในซีเรียซัก 3 ชุด (เนื่องจากแต่ละตัวไม่สามารถมีรัศมีครอบคุมพื้นที่แบบ 360 องศา) เชื่อมเข้ากับระบบ S-400 และระบบป้องกันภัยทางอากาศอื่นๆ รับรองว่าจะไม่มีประเทศไหนกล้าส่งเครื่องบินเข้าไปในซีเรียโดยไม่ได้รับอนุญาตจากฝ่ายรัฐบาลซีเรียอีกต่อไป - ผู้แปล]
เทคโนโลยีของเรดาร์รุ่นนี้เป็นมรดกตกทอดที่รัสเซียได้มาจากอดีตสหภาพโซเวียต และนำมาพัฒนาต่อให้ล้ำสมัยกว่าเดิม รายงานข่าวบอกว่าในขณะเดียวกันกองทัพของรัสเซียก็ได้ติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธชายฝั่ง K-300P Bastion ที่คาบสมุทร Kola (ทางตะวันตกเฉียงหนือของรัสเซีย ใกล้พรมแดนประเทศฟินแลนด์) หนังสือพิมพ์ Izvestiya รายงานว่าอาวุธดังกล่าวครอบคุมชายฝั่งของรัสเซียในพื้นที่ประมาณ 1,500 กม.และสามารถเปลี่ยนทะเลบาเรนท์ให้เป็น "เขตมรณะ" (dead zone) สำหรับเรือรบของนาโต้ได้เลย
กองพัน K-300P ประกอบด้วยเครื่องยิงขีปนาวุธเคลื่อนที่จำนวน 12 ชุด ติดตั้งด้วยขีปนาวุธ P-800 Oniks สำหรับทำลายเรือรบซึ่งมีพิสัยทำการอยู่ที่ 300 กิโลเมตร
หนังสือพิมพ์ของรัสเซียยังกล่าวอีกว่า หลังจากที่กองทัพรัสเซียประจำการเครื่องยิงขีปนาวุธรุ่นนี้ในแหลมไคร์เมียแล้ว ก็สามารถที่จะทำลายเป้าหมายของข้าศึกได้ทั้งในทะเลดำและทะเลบาเรนท์ด้วย แต่ก.กลาโหมของรัสเซียยังไม่ได้ระบุว่าต่อไปจะรัสเซียจะติดตั้งระบบอาวุธดังกล่าวไว้ที่ไหนบ้าง

ไม่มีความคิดเห็น: