PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2559

ชัดแล้ว! นายกฯ มีอำนาจเสนอชื่อตั้ง 'สังฆราช'



สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงคำวินิจฉัยกรณีอำนาจในการเสนอชื่อนามสมเด็จพระราชาคณะ ที่สมควรได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชแล้ว ระบุเป็นอำนาจของนายกฯ เป็นผู้เสนอให้ ส่วน มส.มีหน้าที่ให้ความเห็นชอบไปตามขั้นตอน...
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 มี.ค. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม และสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม กรณีเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะ ที่สมควรได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช ตามมติมหาเถรสมาคม เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2559 ไปยังนายกรัฐมนตรี โดยไม่เป็นไปตามขั้นตอน ตามบทบัญญัติของกฎหมาย มาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535
โดยระบุว่า การแต่งตั้งพระสังฆราชเป็นอำนาจของนายกฯ ที่จะต้องเป็นผู้เสนอนามพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุด โดยสมณศักดิ์ โดยมหาเถรสมาคมมีอำนาจหน้าที่ให้ความเห็นชอบ ตามที่นายกฯ เสนอนามมา เมื่อมหาเถรสมาคมให้ความเห็นชอบแล้ว นายกฯ จึงเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุด เสนอขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายต่อไป ซึ่งจากการที่มหาเถรสมาคม มีการเสนอชื่อ "สมเด็จสมช่วง" เมื่อ 5 ก.พ. นั้น ถือว่าเป็นการกระทำผิดขั้นตอนของกฎหมาย เข้าข่ายไม่ถูกต้อง
ที่ถูกคือสำนักพุทธฯ ต้องเสนอเรื่องไปรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะเสนอให้นายกฯ พิจารณา หลังจากนายกฯ พิจารณาแล้ว ก็จะนำรายชื่อที่นายกฯ พิจารณา ไปให้มหาเถรสมาคม เพื่อพิจารณาว่ามหาเถรสมาคมจะเห็นด้วยกับขั้นตอนที่นายกฯ เสนอไปหรือไม่ ทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน มั่นใจว่าสิ่งที่พิจารณา ได้ทำอย่างถูกต้องแล้ว เพราะเราได้ให้ผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญพิจารณาอย่างรอบคอบ และเชื่อว่าหลังจากนี้ จะมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากพอสมควร
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการแถลงในครั้งนี้ ว่าทราบข้อวินิจฉัยของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว แต่ที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีใครท้วงติงว่าการเสนอชื่อถูกต้อง หรือผิดขั้นตอนตรงไหน และย้ำว่า ที่ผ่านมารัฐบาลเคารพมติของมหาเถรสมาคมมาตลอด
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวการขึ้นป้ายสนับสนุนการแต่งตั้ง สมเด็จช่วง ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช ตามวัดหลายแห่งนั้น ล่าสุดที่วัดแก้วฟ้า อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ก็มีการขึ้นป้ายสนับสนุนสมเด็จช่วงขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชอีก 1 แห่ง เป็นแผ่นป้ายไวนิลสีขาว ขนาดความกว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร มีข้อความ “ขอสนับสนุนมติมหาเถรสมาคม ให้ เจ้าพระคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญญมหาเถระ) เป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก องค์ที่ 20” ติดไว้ตรงบริเวณทางเข้าวัด ซึ่งทีมข่าวพยายามขอสอบถามข้อมูลจากพระในวัด แต่ไม่มีใครยอมให้สัมภาษณ์ และปฏิเสธไม่ทราบข้อมูล.

ไม่มีความคิดเห็น: