PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2559

คสช.กำลังรุกหรือถอยร่น

คสช.กำลังรุกหรือถอยร่น


CC 408
พีเพิล ยูนิตี้ – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาสนับสนุนแนวคิดให้มี ส.ว.สรรหาในช่วงระยะเปลี่ยนผ่าน 5 ปี ซึ่งถูกจุดพลุขึ้นมาโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม
ซึ่งท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ ต่อเรื่องนี้ ก็คือการสำทับว่า คสช. “เอาแน่นอน”
ที่จริง พลันที่ พล.อ.ประวิตร ออกมาเปิดเผยแนวคิดนี้ ก็แทบไม่มีอะไรต้องสงสัยแล้วว่า เรื่องนี้เป็นแนวคิดและความประสงค์ของ คสช. เพียงแต่หลายฝ่ายอาจรอฟังจากปากหัวหน้า คสช.อีกที ซึ่งตอนนี้ก็ชัดเจนแล้ว
สรุปก็คือ งานนี้ พล.อ.ประวิตร เป็นคนเปิดเกมหรือออกโรง โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ คอยสนับสนุน แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับมันหมายความว่า เมื่อระดับ “พี่ใหญ่” เป็นคนออกมาเปิดเกมเอง และ พล.อ.ประยุทธ์ ออกมารับลูก แสดงว่าเรื่องนี้มันต้องสำคัญมากและมีความหมายมากต่อ คสช. และงานนี้ต้องเป็นไปตามความประสงค์ของ คสช.สถานเดียว
สำคัญมากและมีความหมายมากต่อ คสช.แบบไหน อย่างไร ก็แล้วแต่ฝ่ายต่างๆจะมอง หากเป็นฝ่ายตรงข้าม คสช.และนักการเมืองมอง ก็ต้องมองว่าเป็นการสืบทอดอำนาจของ คสช. และเป็นการลดบทบาทความสำคัญของ ส.ส.หรือนักการเมือง
ขณะที่ฝ่ายผู้เสนอ ก็ถือว่าเรื่องนี้มีความสำคัญมากต่อช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านประเทศ ที่จะต้องมี ส.ว.เป็นพี่เลี้ยง และคอยถ่วงดุลนักการเมือง และล่าสุด พล.อ.ประวิตร ออกมาบอกอีกว่า คสช.ก็สามารถเข้าไปเป็น ส.ว.สรรหาได้ “ต้องช่วยไปทำ ไม่เช่นนั้นจะบอกว่าเสียของ” พล.อ.ประวิตร ให้เหตุผลที่ คสช.ต้องเข้าไปเป็น ส.ว.สรรหา
พล.อ.ประวิตร เปิดเผยถึง “ที่ยืนใหม่” ของ คสช.อย่างไม่ปิดบังอำพราง ไม่มีอะไรต้องเม้มไว้อีกแล้ว แม้จะรู้ว่าการแบไต๋เช่นนี้ย่อมหนีไม่พ้นถูกมองมากขึ้นว่า คสช.เตรียมสืบทอดอำนาจ
แต่นาทีนี้ พล.อ.ประวิตร ดูเหมือนจะไม่สนแล้ว เพราะไม่ว่าจะประเด็นไหนในร่างรัฐธรรมนูญ ก็ถูกมองว่าสืบทอดอำนาจทั้งนั้น
“สืบทอดก็สืบทอด ขอให้สามารถเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่อนาคตใหม่ได้ ไม่ใช่กลับไปเป็นแบบเดิม” พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ อาจคิดแบบนี้แล้วก็ได้ในนาทีนี้
ทว่า มันมีประเด็นหลายประเด็นที่ต้องพิจารณาอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
หนึ่ง มันเร็วไปที่จะรีบแบไต๋ว่า คสช.จะเข้าไปเป็น ส.ว.สรรหา ทั้งที่แค่เรื่องจุดพลุ ส.ว.สรรหาก็ลุกเป็นไฟอยู่แล้ว พล.อ.ประวิตร รีบร้อนเดินหน้าไปหน่อย หรือไม่ก็ไม่ทันคิด จึงพูดไปอย่างนั้น
แต่เอาเถอะ เมื่อพูดไปแล้วก็ปล่อยให้รู้แล้วรู้แรดไปเลย เรื่องผลตามมาค่อยว่ากันใหม่
สอง การเสนอเปลี่ยนแปลงที่มาของ ส.ว.มาเป็นสรรหา (ทั้งหมด) แสดงให้เห็นว่า คสช.ไม่ไว้วางใจและไม่มั่นใจในร่างรัฐธรรมนูญที่คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญร่างไว้ ว่าจะทำให้ประเทศเปลี่ยนผ่านไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้ และจะสกัดคนไม่ดีไม่ให้เข้ามามีอำนาจในบ้านเมืองได้ แม้ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะเปิดทางให้คนนอกเป็นนายกฯได้ และกำหนดวิธีการให้ที่มาของ ส.ส.มาจากสองทาง ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนอย่างเดียวไว้แล้วก็ตาม แต่สภาผู้แทนราษฎรก็ยังเป็นสภาของนักการเมืองและพรรคการเมือง ซึ่งพรรคการเมืองใหญ่จะกุมเสียงในสภาผู้แทนราษฎรไว้เช่นเดิม ซึ่งนั่นหมายความต่อไปว่า โอกาสที่คนนอกจะเป็นนายกฯก็ไม่มีอะไรแน่นอน แม้จะเปิดช่องไว้แล้ว
ดังนั้น คสช.จึงยังไม่วางใจในจุดนี้ว่ารัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรหลังการเลือกตั้งจะเป็นรัฐบาลและสภาที่ดี
พูดตรงๆก็คือ คสช.ยังไม่ไว้วางใจนักการเมือง
ขณะที่ที่มาของ ส.ว.ที่คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่า มาจากสังคมเลือกกันเองจำนวน 200 คน ก็ไม่สามารถมีหลักประกันได้ว่า สังคมเลือกกันเองจริงๆหรือไม่ หรือมีนักการเมืองและพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น ส.ว.ก็หนีไม่พ้นที่จะต้องมีคนของนักการเมืองและพรรคการเมืองแอบแฝงเข้ามา
การยึดครองทั้งสองสภาโดยนักการเมืองก็จะเกิดขึ้นอีก
จึงเป็นที่มาให้ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ ออกโรงมาเสนอให้ที่มาของ ส.ว.มาจากการสรรหาทั้งหมด แทนที่จะไปเสี่ยงให้นักการเมืองเล็ดลอดเข้ามา
กันไว้ดีกว่าแก้ และยังเป็นการแบ่งแยกถ่วงดุลกันระหว่างสภาของนักการเมืองกับสภาของ คสช. ให้เกิดดุลยภาพ ไม่ให้สภาใดมีอำนาจมากกว่ากัน
มองในแง่ดี มันก็ต้องมองแบบนี้ เว้นแต่มองในแง่ร้าย ก็มองได้อย่างเดียวคือ สืบทอดอำนาจ
สาม การเสนอให้ ส.ว.มาจากการสรรหาทั้งหมด เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านมีผลสัมฤทธิ์ และสิ่งที่ คสช.ทำลงไปไม่เสียของ ด้านหนึ่งแม้จะถือเป็นความพยายามอย่างที่สุดของ คสช.ที่จะไม่ยอมให้มีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นหลังมีรัฐธรรมนูญและมีการเลือกตั้งแล้ว ทว่า อีกด้านหนึ่งกลับแสดงให้เห็นว่า คสช.ถดถอยหรือถอยร่นมาเป็นระยะ และสถานการณ์ในอนาคตไม่น่าไว้วางใจมากขึ้นสำหรับ คสช.
ถอยร่นและไม่น่าไว้วางใจอย่างไร
ประการหนึ่ง ต้องหันมาใช้บริการ ส.ว. เป็นฐานทัพ จากที่ก่อนหน้านี้คิดไปไกลถึง “โปลิตบูโร”
ประการสอง นายกฯคนนอก และที่มา ส.ส.แบบแปลกแหวกแนว ก็ไม่อาจมั่นใจได้ ซึ่งนั่นหมายความว่า ผลการเลือกตั้งอาจเข้าอีหรอบเดิมๆ
ประการที่สาม คงไม่ต้องบอกว่า หากมีการแก้ไขให้ที่มาของ ส.ว.มาจากการสรรหา ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติยากขึ้นกว่าเดิมแค่ไหน
คสช.ก็รู้ แต่ไม่มีทางเลือก เพราะสถานการณ์ไม่น่าวางใจ และมีความจำเป็นต่อบ้านเมือง
“เป็นไงเป็นกัน ไม่ผ่านก็ไม่ผ่าน (สิวะ)” พล.อ.ประวิตร พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้พูด พีเพิล ยูนิตี้พูดเอง เพื่อให้เห็นภาพชัดๆ

ข่าวเจาะ // คสช.กำลังรุกหรือถอยร่น
พีเพิล ยูนิตี้
6 มีนาคม 2559
ที่มา : http://www.peopleunitynews.com/web02/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0-%E0%B8%84%E0%B8%AA%E0%B8%8A-%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A3/

ไม่มีความคิดเห็น: