PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559

"ครม.ส่วนหน้า" นัดแรก แบ่งงาน 13 ผู้แทนพิเศษรัฐบาล

"ครม.ส่วนหน้า" นัดแรก แบ่งงาน 13 ผู้แทนพิเศษรัฐบาล รับทราบ งบฯใต้ของ 14 กระทรวง 50 หน่วยงาน รวมกว่า 12,500 ล้าน เร่งรัดงาน ตาม แผน ปี58-60 ของ คปต.
พลอากาศตรี รังสรรค์ เยาวรัตน์. รองโฆษก กห. กล่าวถึง ผลการประชุมผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 1:2559 ในวันนี้ ที่กลาโหม ว่า มีผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ซึ่งได้รับแต่งตั้งตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2559รวม 13 ท่าน โดยมี พลเอก อุดมเดช สีตบุตร เป็นหัวหน้าผู้แทนพิเศษฯ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เพื่อหารือแนวทางการปฏิบัติงานร่วมกัน และการประสานการดำเนินงานร่วมกับทุกฝ่าย ภาคส่วนต่างๆ และทุกระดับ โดยเฉพาะในพื้นที่ จชต. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานการแก้ไขปัญหา จชต. ให้บรรลุผลตามนโยบายของรัฐบาลและ คสช.
​การประชุมครั้งแรกของผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในวันนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก สมช. ในฐานะสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สล.คปต.) จัดเตรียมวาระการประชุม
โดยมีการแจ้งให้ผู้แทนพิเศษฯ ได้รับทราบ สาระสำคัญของคำสั่ง หน.คสช. ที่ 57/2559 เน้นขอบเขตอำนาจหน้าที่ของผู้แทนพิเศษฯ และการดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าว
โดยการจัดตั้งสำนักงาน คปต.ส่วนหน้า
ซึ่งกำหนดที่ตั้งในพื้นที่ พล.ร.15 ค่ายสุริโยทัย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี รวมทั้งการบรรยายสรุปภาพรวมการดำเนินงานของ คปต. ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะความก้าวหน้าการดำเนินงานตาม มติ คปต. และข้อสั่งการของประธาน คปต. ตลอดจนการสรุปแผนงาน โครงการ
ส่วนงบประมาณในการแก้ไขปัญหา จชต. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2550 ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง 14 กระทรวง รวม 50 หน่วยงาน มียอดงบประมาณที่ได้รับจัดสรร 12,500 ล้านบาทเศษ
​ในโอกาสนี้ พลเอก อุดมเดช หัวหน้าผู้แทนพิเศษฯ หารือการแบ่งมอบงานของผู้แทนพิเศษฯ ตามกรอบแผนปฏิบัติการ การแก้ไขปัญหาและพัฒนา จชต. พ.ศ.2558-2560 ซึ่งกำหนดกลุ่มภารกิจงานรวม 7 กลุ่ม เพื่อให้ผู้แทนพิเศษฯ ติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานรับผิดชอบกลุ่มภารกิจงาน รวมทั้งงานของกระทรวง กรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้แทนพิเศษฯ ทำหน้าที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานระดับกระทรวงทั้ง 20 กระทรวง ซึ่งจะส่งผลให้การดำเนินงานแก้ไขปัญหา จชต. ในระยะต่อไป มีเอกภาพ และประสิทธิภาพ สอดคล้องตามแนวนโยบายของนายกรัฐมนตรี และปรากฎผลเป็นรูปธรรมตามคำสั่ง คสช.
///

ไม่มีความคิดเห็น: