PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เพจต้านซิงเกิ้ลเกตเวย์โพสคนที่ตร.มาแถลงอาจไม่ใช่


พลเมืองต่อต้าน Single Gateway : Thailand Internet Firewall #opsinglegateway
โธ่ๆ ไอ้กำแหง จูเนียร์ โดนซะแล้้ว.....
(ไอ้กำแหง จูเนียร์มีเป็นร้อยๆๆๆ แต่นี่มันใคร่หว่า แล้ว "กำแหง"จะรู้ไหมเนี่ย! แต่ Hacker พกปืนนี้ "กำแหง"เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกในชีวิต)
แต่อย่างไรก็ตาม พวกเราทุกคนที่เข้ามาสู่สมรภูมินี้ ต่างต้องรู้ตัวว่า นี่คือสงครามไซเบอร์จริง ที่หากใครพลาดไปก็จบ ไม่มีใครทำด้วยความคึกอย่างเดียว แต่พวกเราทุกคนที่เข้าร่วมก็รู้ว่า นี่การปกป้องเสรีภาพสุดท้ายของประชาชน)
"....อย่าคิดว่า พวกเราจะหยุด เพราะมีพวกเราคนใด คนหนึ่งถูกจับไป ถึงจับพวกเราได้ แต่ก็หยุดความคิดของพวกเราไม่ได้...."
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. แถลงข่าวรับมอบตัว นายณัฐดนัย คงดี อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาแฮ็กข้อมูลเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการ และเข้าถึงระบบฐานข้อมูลการสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากเจ้าหน้าที่ทหารและสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตัวเอง
โดยพฤติการณ์ของผู้ต้องหานั้นจะใช้ความรู้ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ ทำการเข้าถึงระบบข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐก่อนจะทำการบันทึกภาพไว้ แล้วส่งต่อให้กับผู้ดูแลเพจเฟซบุ๊กชื่อพลเมืองต่อต้านซิงเกิ้ลเกตเวย์ เพื่อนำไปเผยแพร่ข้อมูลผ่านเพจดังกล่าว จากการสืบสวนสอบสวนยังพบว่านายณัฐดนัยนั้น เป็นสมาชิกของกลุ่มแฮ็กเกอร์ 3 กลุ่มหลักด้วยกันและยังเป็นสมาชิกคนเพจพลเมืองต่อต้าน ซิงเกิ้ลเกตเวย์อีกด้วย
พล.ต.อ.จักรทิพย์ เปิดเผยว่า หลังจากพบมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีทำการเจาะข้อมูลเว็บไซต์หน่วยงานราชการ ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลา 3 วัน ก็สามารถจับกุมนายณัฐดนัยได้ในที่สุด และจากการตรวจสอบบ้านพัก พบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้แฮ็กข้อมูล ฮาร์ดไดรฟ์ ปืน กัญชาอัดแท่ง และอุปกรณ์การเสพอีกจำนวนหนึ่ง
ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการรายอื่นต่อไป โดยเฉพาะผู้ที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มขบวนการดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นกลุ่มขบวนการใหญ่ มีทั้งอยู่ในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งหากพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงบุคคลใด ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด ส่วนรายละเอียดการสอบสวนนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้
“เจ้าหน้าที่ยังฝากเตือนผู้ที่คิดจะทำผิดเจาะข้อมูลเว็บไซต์ราชการด้วยว่า ให้หยุดความคิดดังกล่าวทันที เพราะทางเจ้าหน้าที่ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถสืบสวนสอบสวนไปยังผู้กระทำผิด และจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เช่นเดียวกันกับผู้ต้องรายดังกล่าวนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับนายณัฐดนัยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาไว้ทั้งสิ้น 4 ข้อหาด้วยกัน คือ 1.ความผิดฐานเป็นอั้งยี่ 2.ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 3.ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด
อ่านต้นฉบับที่นี่ :
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_159904

ไม่มีความคิดเห็น: