PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เชิงบันไดทำเนียบ : ‘วงศ์เทวัญ’ Come Back มนต์ขลังบารมี ‘ป๋าเปรม’ ในวัน ‘บูรพาพยัคฆ์’ ผลัดใบ

เป็นอีกห้วงสัปดาห์ประวัติศาสตร์ ภายหลัง ‘ป๋าเปรม’ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เสร็จสิ้นภารกิจผู้สำเร็จราชการแทนฯ และได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นประธานองคมนตรี เป็นอีกประวัติศาสตร์ของ ‘ป๋าเปรม’ ที่ได้ดำรงตำแหน่งนี้ 2 แผ่นดิน
 ตลอดระยะเวลา 50 วันที่ พล.อ.เปรม เป็นผู้สำเร็จราชแทนฯนั้น ไม่ได้ออกงานใดๆเป็นพิเศษ ทำงานอยู่ในบ้านสี่เสาเทเวศร์เท่านั้น เว้นแต่งานพระราชพิธีในพระบรมมหาราชวัง การขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานองคมนตรีอีกครั้ง ก็สะท้อนถึง ‘บารมี’ พล.อ.เปรม ที่ได้สร้างมาตลอด 40-50ปี ที่ผ่านมา ครั้งเป็น ผบ.ทบ.-นายกรัฐมนตรี จนถึงวันนี้
ด้วยบุคคลิกของ พล.อ.เปรม ที่เป็นคนนิ่ง ไม่ชอบตอบโต้คู่ตรงข้าม พูดน้อย แต่ทุกครั้งที่พูดย่อมแฝงไปด้วยคำตอบที่สำคัญ และการทำงานในตำแหน่งปธ.องคมนตรีมานาน ย่อมทำให้รู้งานและข้อปฏิบัติ ธรรมเนียมต่างๆเป็นอย่างดี แม้ก่อนหน้านี้ พล.อ.เปรม ทราบถึงการถูกโจมตีทางการเมือง ว่าเกี่ยวข้องกับเหตุรัฐประหาร 2549
แต่ด้วยบุคลิกที่ “นิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว” จึงทำให้ พล.อ.เปรม ยังคงเป็น “ผู้ใหญ่” ของบ้านเมืองเสมอมา และ ม็อตโต้ ‘ตอบแทนคุณแผ่นดิน’ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ พล.อ.เปรม ตระหนักถึงหน้าที่ ไม่ว่าจะสถานะใดก็ตาม
แต่ด้วยสถานะของ พล.อ.เปรม ในวันนี้ก็ทำให้กระแสข่าวที่มีการพูดถึงในสังคมสยบลง และเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า ‘บารมี’ บ้านสี่เสาเทเวศร์ ไม่เคยลดลง ไม่ว่าจะมีวิกฤติการเมืองโจมตี พล.อ.เปรม อย่างไร
‘บารมี’ ยิ่งมากขึ้นนับตั้งแต่ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท สายรบพิเศษ รุ่นน้อง ‘บิ๊กแอ๊ด’พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ลูกป๋าอีกคน ได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ซึ่ง ‘บิ๊กแอ๊ด’ เองก็ได้รับการแต่งตั้งเป็น องคมนตรี ต่ออีกด้วย
แต่ที่สร้างความสนใจมาก คือ การแต่งตั้ง 10 องคมนตรีใหม่ โดยมี ‘บิ๊กต๊อก’พล.อ.ไพบุลย์ คุ้มฉายาตท.15 อดีตรมว.ยุติธรรม ‘บิ๊กหนุ่ย’ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ตท.12 อดีตรมว.ศึกษาธิการ และ‘บิ๊กหมู’ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ตท.14 อดีตผบ.ทบ.
แสดงให้เห็นถึงการกลับมาของสายวงศ์เทวัญ ที่เป็นอดีตผบ.พล.1 รอ. และ เครือข่ายราบ11 (ร.11 รอ.) เพราะทั้ง ‘บิ๊กต๊อก-บิ๊กหนุ่ย’ ก็อยู่ในไลน์สายนี้ทั้งสิ้น โดย พล.อ.ไพบูลย์ เป็นอีกนายทหารคีย์แมนสำคัญของคสช. ครั้งก่อนรัฐประหาร2557 คอยทำงานให้ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่ครั้งเป็นผบ.ทบ. และมีบทบาทสูงในการจัดการคดี ม.112 ทั้งในและต่างประเทศ ในฐานะรมว.ยุติธรรม ซึ่ง พล.อ.ไพบูลย์ ก็ทำงานด้านการปกป้องสถาบันตั้งแต่เป็น ผบ.พล.1 รอ. มาแล้ว ถือเป็นเวลาหลายปีที่ทำงานด้านการติดตามกลุ่มคนหมิ่นสถาบัน
ด้าน พล.อ.ดาว์พงษ์ เป็นอีกนายทหารที่มีบทบาทนำตั้งแต่เหตุรัฐประหารปี2549 และเคยเป็นผู้ช่วยเลขานุการศูนย์อำนาจการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ช่วงเหตุการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มนปช.ปี2553 มาแล้ว ซึ่งมีนายทหารรุ่นน้องที่เติบโตมาด้วย คือ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คสช. และ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย เป็นทีมกฎหมายที่ทำคดีคนเสื้อแดงมาตั้งแต่รัฐประหารปี2549 สมัย พล.อ.ดาว์พงษ์ เป็น เสธ.ทบ. สมัย พล.อ.ประยุทธ์ เป็น ผบ.ทบ.มาแล้ว
เรื่อยมาถึง ‘บิ๊กแดง’ พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ สายวงศ์เทวัญ ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่1 ที่ได้เปรียบเพื่อน ตท.20 จ่อขึ้น 5 เสือทบ.ปี60 เป็นแคนดิเดทผบ.ทบ.ในอนาคต อีกทั้ง ‘บิ๊กโอ’ พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่1 สายวงศ์เทวัญ ที่ได้รับมอบหมายดูแลงานภาพรวมของกองอำนวยการร่วมฯที่สนามหลวง ทำให้กลับมาฉายแวว มีโอกาสชิงนั่ง แม่ทัพน้อยที่1 อีกครั้ง เพื่อขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่1 ในอนาคตได้เช่นกัน หลังก่อนหน้านี้คาดกันว่าจะได้ไปติดยศ ‘พลโท’ ที่ตำแหน่งรองเสธ.ทบ.
ในส่วนของ ‘บิ๊กหมู’พล.อ.ธีรชัย ถือเป็นนายทหารสายบูรพาพยัคฆ์ ที่ได้กลับมาอีกครั้ง หลังมีกระแสถูกทาบทามนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี แต่ก็เงียบหายไป บนเส้นทางที่รายล้อมด้วย ‘วงศ์เทวัญ’ ด้วยครั้งสมัยเป็นผบ.ทบ. ได้ทำการปกป้องสถาบันไม่ให้ใครมาแอบอ้างหาผลประโยชน์ได้ และมีบทบาทสำคัญในการรัฐประหาร2557 ในฐานะแม่ทัพภาคที่1 ที่คุมขุมกำลังปฏิวัติในเวลานั้นด้วย
ทั้งหมดนี้จึงสะท้อน ว่าเป็นการ COME BACK ของ ‘วงศ์เทวัญ’ และ บารมีที่ไม่เคยอับแสง มนต์ขลังบารมี ของ ‘บ้านสี่เสาฯ’ และเป็น 10 ปีของ ‘บูรพาพยัคฆ์’ ที่ถึงวันเวลาผลัดใบ
ที่ต้องติดตาม คือ การปรับครม.ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ จะเป็นการปรับใหญ่หรือเล็ก ทุกอย่างขึ้นกับนายกฯเท่านั้น เพราะยังคงมีกระแสว่าอาจมีรัฐมนตรีบางรายไปดำรงตำแหน่งองคมนตรีอีก เพราะยังว่างอยู่ 8 ที่นั่ง ตาม รธน. 2550 ที่ให้คณะองคมนตรีมีได้ไม่เกิน 19 คนรวมปธ.องคนมนตรี
จึงต้องติดตามกันต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น: