PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2560

พระราชกระแสรับสั่งให้แก้ รธน. ใหม่หมวดพระมหากษัตริย์-เข้าวาระ สนช. 13 ม.ค.

นายกฯ เผยมีพระราชกระแสรับสั่งให้ รบ. แก้หมวดพระมหากษัตริย์ใน รธน.ฉบับใหม่ ให้เป็นไปตามพระราชอำนาจ คาดทำเสร็จไม่เกิน 2-3 เดือน ก่อนทูลเกล้าฯถวายอีกครั้ง – สนช. บรรจุวาระแล้ว 13 ม.ค.นี้
PIC prayuthhh 10 1 60 1
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกระแสข่าวการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 เพื่อเปิดช่องให้แก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ปัจจุบันทูลเกล้าฯถวายแล้วว่า เมื่อวานนี้ได้หารือกับองคมนตรี ได้แจ้งว่า ภายหลังทูลเกล้าฯร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ องคมนตรีได้นำขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว มีพระราชกระแสรับสั่งลงมา 3-4 รายการ แก้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่จำเป็นต้องแก้ไขให้เป็นไปตามพระราชอำนาจพระองค์ท่าน สำนักราชเลขาธิการจึงทำเรื่องมาที่รัฐบาล รัฐบาลจึงรับสนองพระบรมราชโองการฯเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน เมื่อแก้เสร็จแล้ว จะแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อ โดยใช้เวลาไม่เกิน 2-3 เดือน ถึงจะทูลเกล้าฯอีกครั้ง ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพของประชาชน เป็นเรื่องของพระราชอำนาจของพระองค์ท่าน
ด้านทีมโฆษกรัฐบาล ระบุว่า ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวไม่ได้ใช้อำนาจมาตรา 44 แต่เป็นมติที่ประชุม ครม. และ คสช. ก่อนจะส่งให้ที่ประชุมสนช.พิจารณาต่อไป 
ขณะที่ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงผลการประชุวิป สนช. ว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีหนังสือถึงประธาน สนช. (นายพรเพชร วิชิตชลชัย) ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 โดยประธาน สนช. ได้นำเข้าปรึกษาในวิป สนช. เห็นว่า ขั้นตอนของ สนช.ในการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติม จำเป็นต้องใช้ความรวดเร็ว จึงบรรจุวาระการประชุม สนช. ในวันที่ 13 ม.ค. 2560 โดยกำหนดให้พิจารณา 3 วาระ และการพิจาณาให้แล้วเสร็จ 15 วันนับตั้งแต่วันนี้ ซึ่งในการพิจารณาจะมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตอบคำถาม
@ลั่นปฏิรูปสืบทอดอำนาจให้ รบ.ใหม่-รับคุยกับคนหนีโทษได้ แต่ต้องปรองดองคนใน ปท. ก่อน
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการปฏิรูป และปรองดองว่า การตั้งคณะกรรมการปฏิรูปขึ้นมาเพื่อให้รู้ว่าอะไรคือการปฏิรูป ความปรอดอง ยุทธศาสตร์ชาติ ต้องเอางานใส่กล่องให้ชัดเจน อะไรทำไม่ได้ ก็เร่งออกกฎหมายให้ได้ อันไหนทำไม่ได้ ก็ใช้มาตรา 44 ทำให้ได้ โดยในปี 2560 เป็นการปฏิรูประยะที่ 1 จากแผนปฏิรูป 20 ปี แต่ตนไม่อยู่ถึง 20 ปีหรอก อยู่ไม่ได้แน่ ถ้ารัฐบาลนี้ทำไม่ได้ จะวางเป็นแผนแม่บทไว้ให้ทวงรัฐบาลหน้า อะไรยังไม่ปฏิรูปก็ทำใหม่ อะไรทำแล้วก็ทำต่อ นี่เรียกว่าการสืบทอดอำนาจให้รัฐบาลใหม่ ไม่ได้สืบทอดอำนาจให้ใคร
“ปรองดอง ไม่ใช่คุยกับคนหนีโทษ หรือความผิดทางการเมือง คุยได้ แต่การปรองดองคือ คนไทยจะทะเลาะกันอีกหรือไม่ ทำไมที่ผ่านมาปฏิสัมพันธ์กันไม่ได้ คนในบ้านไม่คุยกัน คนข้างบ้านไม่คุยกัน นิยมกันคนละฝ่าย สนใจตรงนี้ด้วย อย่าสนใจว่าจะเอาคนติดคุกออก เอาคนเมืองนอกกลับมาหรือไม่ ดูก่อนว่าคนในประเทศเดือดร้อนหรือไม่ คนอยู่นอกประเทศเดือดร้อนไหม ใครเดือดร้อนกว่ากัน คิดให้เป็น ปฏิรูปทางความคิดด้วย อย่าหาเหตุแล้วทำอะไรไม่ได้เลย ปรองดองหลายเรื่อง จะให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาเสนออย่างไร ถ้าเสนอร่วมไม่ได้ จะให้นักข่าวดูว่าเขาเสนออะไร ให้ประชาชนตัดสินใจ อะไรทำได้ว่ามาตามกฏหมาย” พล.อ.ประยุทธ์
พล.อ.ประยุทธ์ กลาวอีกว่า สำหรับฝ่ายการเมืองที่ต้องการเคลื่อนไหว หรือประชุมพรรคการเมืองนั้น ต้องรอให้ผ่านพ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ และหลังพระราชพิธีพระบรมราชภิเษกพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่เสร็จสิ้นก่อน โดยจะมีรัฐบาลใหม่ช่วงปี 2561
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ มอบหมายให้ดูแลเรื่องปรองดอง ดังนั้นจะพยายามทำให้เกิดความปรองดองให้ได้ โดยกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และเหล่าทัพ เข้ามามีบทบาทร่วมกันในการทำให้เกิดความปรองดอง เบื้องต้นอาจจะเชิญผู้แทนพรรคการเมืองเข้ามาพูดคุยทีละพรรคการเมือง ส่วนกลุ่ม กปปส. และ นปช. ต้องพูดคุยสอบถามความต้องการด้วย ซึ่งต้องให้เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ประชุมหารือกันก่อน ทั้งนี้ยืนยันว่า จะไมมีนิรโทษกรรมให้กลุ่มการเมืองทุกสี อะไรทีเป็นกฎหมายไม่พูดถึง เพราะถือเป็นเรื่องการกระทำผิดกฎหมาย ทุกคนที่กระทำผิดรู้อยู่แล้ว
“รัฐบาลจะพยายามหาข้อยุติให้ได้มากที่สุดว่าการอยู่ร่วมกันอย่างสันติจะต้องทำอย่างไรบ้าง เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในอดีตต้องว่ากันอย่างไร แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องของกฎหมาย ต้องดำเนินการให้เสร็จก่อนจัดการเลือกตั้ง เพราะอยากให้อยู่กันให้ได้ อยากให้ทุกฝ่ายตกลงกันให้ได้ ทั้งหมดมันต้องมีกติกา การจะปรองดองก็ต้องมีกติกาที่ใช้ร่วมกัน ผมจะพยายามทำ แม้ไม่รู้จะทำได้แค่ไหน” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น: