วันนี้ (9 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 16.45 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปและปรองดองขึ้นในการขับเคลื่อน มี 4 คณะ ได้แก่ 1. คณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี 2. คณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศ 3. คณะกรรมการปรองดอง และ 4. คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ โดยจัดตั้งสำนักงานบริหารยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปและปรองดองขึ้นด้วย ว่า การดำเนินการเรื่องดังกล่าวจะเริ่มต้นด้วยการออกคำสั่งตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ที่จะมากำหนดโครงสร้าง ส่วนรายชื่อผู้ที่จะมาเป็นกรรมการแต่ละชุดนั้น คาดว่า จะมีการออกเป็นคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีต่อไป ขณะนี้ตนยังไม่ทราบว่าจะมีชื่อบุคคลจากภาคส่วนใดร่วมเป็นกรรมการบ้าง แต่คาดว่าแต่ละชุดจะมีกรรมการจำนวนไม่มาก เพื่อที่จะไม่ให้เสียเวลาในการหารือเรื่องต่างๆ มากเกินไป ซึ่งจะดำเนินการตั้งคณะกรรมการทั้งหมดได้ภายในเดือน ม.ค. นี้
นายวิษณุ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเคยระบุว่า ไม่ว่าจะตั้งคณะกรรมการทั้งหมดแล้วเสร็จเมื่อใดก็จะเรียกประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปและปรองดองที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รองนายกรัฐมนตรีทุกคนร่วมอยู่ในกรรมการ ภายในสัปดาห์นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดนายกรัฐมนตรีจึงหยิบยกเรื่องการผลักดันเรื่องการปฏิรูปและการปรองดองขึ้นมาเป็นเรื่องสำคัญในช่วงเวลานี้ นายวิษณุ กล่าวว่า ความจริงแล้วนายกรัฐมนตรีพูดมาตลอดว่าเมื่อเข้าสู่ปี 2560 แล้วจะเป็นการเข้าสู่โรดแมปขั้นต่อไป ซึ่งสิ่งที่เราเตรียมไว้เดิมเมื่อเข้าสู่ปี 2560 แล้วนั่นจะเป็นเรื่องที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เริ่มบังคับใช้ ที่เดิมคาดว่าจะเป็นช่วงเดือน พ.ย.59 และตามมาด้วยการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องออกมาในช่วงเวลา 1 ปี ที่เหลือเราก็ตั้งใจว่าจะใช้ช่วงเวลาดังกล่าวสำหรับดำเนินการสร้างความปรองดอง เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมารัฐบาลต้องทำงานหลายอย่าง ทั้งเรื่องการปฏิรูป การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ การดำเนินงานเพื่อการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ พร้อมกับการแก้ปัญหาต่างๆ ของประเทศ จึงตั้งใจว่าหลังจากเริ่มใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้วก็จะหยิบเรื่องการปรองดองมาดำเนินการ แต่ในเมื่อขณะนี้ล่วงเลยเวลาที่เราคาดการณ์ไว้มาประมาณ 1 เดือนเศษแล้ว จึงคิดว่าหยิบเรื่องการสร้างความปรองดองขึ้นมาทำเลย
เมื่อถามว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวนี้ ถือว่าเป็นการมารับช่วงต่องานจากสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า สปท. จะส่งงานเรื่องการปฏิรูปมาให้คณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศ ส่วนเรื่องงานที่เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติก็จะส่งมาที่คณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ส่วนเรื่องการสร้างความปรองดองนั้น ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมเคยทำไว้ บวกกับงานที่ สปท. จะเสนอมาให้รัฐบาล รวมถึงบรรดาข้อเสนอต่างๆ จากนักการเมืองและฝ่ายต่างๆ ทั้งหมดจะถูกส่งมาที่คณะกรรมการปรองดอง
เมื่อถามว่า คณะกรรมการทั้งหมดมีเวลาทำงานประมาณ 1 ปี คิดว่า จะสามารถทำงานเสร็จทันหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่รัฐบาลชุดปัจจุบันหมดวาระงานของคณะกรรมการเหล่านี้ยังไม่เสร็จสิ้นก็ต้องส่งต่อให้รัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งรับไปทำต่อ ซึ่งเขาจะทำตามหรือไม่ทำตามแนวทางเดิมก็ได้ แต่เราเห็นว่าอย่างน้อยในช่วงเวลานี้ก็ควรจะทำอะไรเป็นรูปเป็นร่าง เพื่อเป็นหน้าเป็นตาของรัฐบาล แต่คิดว่าการทำงานทั้งเรื่องการสร้างความปรองดอง ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูป คงไม่สามารถทำให้แล้วเสร็จพร้อมกันทั้งหมดก่อนที่จะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่
เมื่อถามว่า จะนำชื่อตัวแทนคู่ขัดแย้งของแต่ละฝ่ายมาร่วมเป็นกรรมการปรองดองด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อันที่จริงแล้วการสร้างความปรองดองทำได้หลายอย่าง ซึ่งบางเรื่องก็จำเป็นต้องมีตัวแทนจากคู่ขัดแย้ง แต่บางเรื่องไม่จำเป็นต้องมี เพราะหากมีตัวแทนคู่ขัดแย้งเข้ามาก็จะเข้ามานั่งขัดแย้งกันในกรรมการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น