PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เพิ่มดีกรีข้อตกลงร่วม

ถึงจะเริ่มมีเสียงเอะอะมะเทิ่ง รับห้วงบรรยากาศที่รัฐบาล คสช. ใช้ฤกษ์วาเลนไทน์ วันแห่งความรัก คิกออฟกระบวนการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง

แต่สุดท้ายก็น่าจะเป็นอย่างที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ในฐานะแม่งานใหญ่ คณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ใน ป.ย.ป.ว่าไว้

“ที่ผมทำเพื่อให้รู้ว่า อนาคตจะอยู่อย่างไร ร่วมมือให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้”

พร้อมทำมือเป็นสัญลักษณ์รูปหัวใจ “คนไทยหัวใจเดียวกัน”

นอกจากเป็นคิวใหญ่ของ “พี่ใหญ่” ปั้น “ปรองดอง” ยังเป็นเดิมพันโดยรวมของรัฐบาลอำนาจพิเศษที่นำโดย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.

หลังจากเป็นผู้ที่ประชาชนอยากมอบดอกไม้ให้มากที่สุดในวันแห่งความรัก ตามโพลระบุ

“บิ๊กตู่” คงรอ “ดอกไม้ช่อใหญ่” ที่จะตามมา

ดอกไม้ที่จะรอมอบให้ทั้ง “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” และผองท็อปบูตที่ร่วมงานใหญ่ครั้งนี้

ในการเล่นบทเข้มๆแก้โจทย์ขัดแย้ง เดินแผนสามัคคีปรองดอง

แล้วก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นท่ีดี ดีเดย์ที่คณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็น เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น เชิญตัวแทนพรรคการเมืองมาพูดคุย จัดคิวตามลำดับตัวอักษร ประเดิมบรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดี

แต่ละป้อมค่ายประกาศ พร้อมร่วมฟลอร์ “ปรองดอง” ฉบับทหาร

ถึงแม้จะมีที่ล่าช้ากับกระบวนการเชิญค่ายเพื่อไทย อีกขั้วอำนาจใหญ่ที่เกี่ยวโยงปมขัดแย้ง แต่ก็อย่างที่ “บิ๊กป้อม” ระบุ เป็นเพียงแค่ปัญหาทางเทคนิค

รวมทั้งกรณีพรรคคนไทย ที่มีนายอุเทน ชาติภิญโญ เป็นหัวหน้าพรรค ต้อง “ตกสำรวจ” ไม่ได้รับการเชิญพูดคุย แสดงความคิดเห็น โดยไม่แน่ใจว่า เพราะขั้นตอนการเชิญ หรือติดบัญชี “ต้องห้าม”

อาจเพราะวิพากษ์วิจารณ์แผนปรองดองกันตรงๆบ่อยครั้ง

อีกทางก็น่าเสียดายหากโดนกันอยู่นอกวง กับข้อเสนอแนะ มุมมองแตกต่างแต่เป็นประโยชน์
ที่น่าสนใจ ในห้วงที่ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันหลายฝ่ายยังไม่ “อิน” กับแผนปรองดองฉบับท็อปบูต รังสรรค์รอบนี้ ไม่ว่าจะเป็นชนักคดีใหญ่ ปมจำนำข้าวที่งวดเข้ามา

เครือข่ายขั้วเพื่อไทยคงไม่ “ใจตรงกัน” กับ “ท็อปบูต” นัก

ถ้าต้องปรองดองไป โดนทุบไป “จับมือทั้งน้ำตา” ฝ่ายเดียว

ไปจนกระทั่งการจับจ้องจากสังคม ในคดีเกี่ยวโยงผู้มีอำนาจ เริ่มมีการกดแชร์ กดไลค์ ในโซเชียลฯ ขุด
ข้อมูลด้านลบ ปมร้อนๆเกี่ยวกับลูกชายอดีตปลัดกระทรวงกลาโหม-หลานชายของผู้นำ

จนพูดได้ว่า “ชนักคดี” ปมร้อนเกี่ยวโยงทั้ง 2 ขั้วข้าง อาจเป็นอีกปัจจัยเสี่ยง

ฉุดแผน “ปรองดอง”

ที่น่าสนใจ หลังจากกระบวนการรับฟังในห้วงนี้ จากนั้นจะนำไปสู่การบูรณาการความคิดเห็น ข้อเสนอแนะของฝ่ายต่างๆ และอีกขั้นตอนที่ต้องจับตา คือกระบวนการ “จัดทำข้อตกลง”

คณะอนุกรรมการชุดนี้มีชื่อของ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. นั่งแท่นประธาน พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร รอง ผบ.ทบ. เป็นรองประธาน และ พล.อ.สสิน ทองภักดี เสธ.ทบ.เป็นเลขานุการ

บิ๊กๆกองทัพบกตบเท้าเสริมทีม “บิ๊กป้อม” ในจุดสำคัญ

คุมทีม “ทำข้อตกลง” เป็นเงื่อนไข “สัญญาประชาคม”

ก็น่าจะเป็นหลักประกันในระดับหนึ่งได้ว่า ข้อตกลง เงื่อนไขที่ “เคาะ” โดยจ่าฝูงกองทัพบก และบิ๊กๆกองทัพ ในฐานะ “ผู้ถือดุลสำคัญ” ในห้วงเปลี่ยนผ่าน

ระดับ “เสียงดัง-พลังแรง” คุมภารกิจ “ยื่นเงื่อนไข” อีกทางก็น่าจะมีเป้าหมาย เบรกแรงกระเพื่อม
ช่วยลดทอนดีกรีเฮี้ยวขั้วฝ่ายต่างๆในโหมดปรองดอง.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: