PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560

ข่าว2/3/60

บึ้มใต้

นายกฯ สั่งดูแลเข้มงวดภาคใต้ หลังยิงรถรับส่งนักเรียนไทยพุทธ จนเป็นเหตุให้เด็กเสียชีวิต

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงรถรับส่งนักเรียนไทยพุทธ จนเป็นเหตุให้เด็กเสียชีวิต ว่า ยัง

ไม่ได้รับรายงานดังกล่าว แต่ข้าราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานอย่างเต็มที่ในการวางกำลัง และเส้นทางในจังหวัดภาคใต้มีหลายเส้น แต่ไม่สามาถนำกำลังไปวางไว้ได้ทุกจุด จึงต้องมีกติกา

ซึ่งกันและกัน โดยทุกคนต้องร่วมกันดูแลและระมัดระวัง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุย หากมีการพูดคุยอยู่แสดงว่ายังคงมีทางออกอยู่บ้าง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนดพื้นที่ปลอดภัยและ

ทดลองศักยภาพว่าพื้นที่ใดปลอดภัยแล้วจึงจะพูดคุยในเรื่องอื่น ๆ ต่อไป รวมถึงพิจารณาเป้าหมาย โดยเฉพาะครู นักเรียนและวัด จะต้องปลอดภัย แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามลำดับกระบวนการ

แก้ไขความขัดแย้ง

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังย้ำอีกว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาภายในประเทศ อย่าเอาคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง และต้องเดินหน้ากระบวนบังคับใช้กฎหมายและการพัฒนาด้านต่าง ๆ รวมทั้งการศึกษาอย่าง

เร่งด่วน เพราะที่ผ่านมาการทำงานล่าช้า จนทำให้กระบวนการเรียนรู้และการศึกษาไม่เกิดขึ้น ดังนั้น จากนี้จะต้องหามาตราการป้องกันให้ได้ ขออย่าเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวไปเชื่อมโยงกัน

ไปหมด
/////////
ธรรมกาย

รัฐบาล ไม่ห่วงปมวัดพระธรรมกาย เชื่อต่างประเทศเข้าใจ มั่นใจมีข้อมูลชี้แจงได้ ขอประชาชนยึดกฎหมาย

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงมุมมองของต่างชาติต่อรัฐบาลไทยกรณีวัดพระธรรมกาย ว่า เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับศาสนา

ต่างประเทศ จึงให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งรัฐบาลได้พยายามชี้แจง ทำความเข้าใจกับนานาชาติแล้ว และเชื่อว่าจะสามารถเข้าใจอย่างชัดเจน โดยยืนยันเจ้าหน้าที่ไม่ใช้ความรุนแรงอย่างแน่นอน

และขอให้ทุกคนยึดตามหลักของกฎหมาย

ทั้งนี้ พล.ท.วีรชน กล่าวถึง กรณีที่ศิษย์วัดพระธรรมกายมีการยื่นเรื่องไปที่องค์กรพุทธศาสนาสากล หรือ องค์การสหประชาชาติ (UN) ว่า รัฐบาลไม่มีความกังวลเช่นกัน เนื่องจากทุกองค์กรต้องมี

การตรวจสอบข้อมูล ซึ่งรัฐบาลมีข้อมูลที่สามารถชี้แจงได้ และมีวิธีการดูแลสถานการณ์ที่ชัดเจน ไม่ได้ใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด
-----------
นายกฯ ลั่น แจงหมดแล้ว ปมคนตายในวัดพระธรรมกาย ขอลูกศิษย์หยุดต้าน คาด พระธัมมชโย ยังอยู่ในวัด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวถึงกรณีลูกศิษย์วัดพระธรรมกายเสียชีวิตด้วยโรคหอบหืด บริเวณหลังวัดพระธรรมกาย ว่า เจ้า

หน้าที่ได้ชี้แจงไปแล้ว ว่าผู้ตายเสียชีวิต ภายในห้องที่มีการปิดล็อกประตู และไม่จำเป็นต้องมีการปรับแผนการทำงานของเจ้าหน้าที่ หลังจากมีการอ้างว่าติดด่านตรวจตำรวจทหารตามมาตรา 44

จนทำให้เสียชีวิต

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่มีปฏิบัติการปล่อยข่าวลวงเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นหรือที่เรียก ไอโอ ว่า หากพูดความจริงก็ยอมรับ แต่หากไม่ใช่ความจริงก็ไม่รับ ดังนั้น ขอให้คิดถึงเจ้าหน้าที่ที่

ต้องเหนื่อยจากการทำงานด้วย ซึ่งขณะนี้จากการประเมินของเจ้าหน้าที่เชื่อว่า พระธัมมชโย ยังอยู่ภายในวัด เพราะหากไม่อยู่ คงปล่อยให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้น ขณะเดียวกัน อยากให้สื่อช่วยกัน

บอกให้หยุดต่อต้านเจ้าหน้าที่ ถ้าคิดว่าถูกและบริสุทธิ์ก็ออกมารับมาพิจารณาคดีและต่อสู้คดีทางกฎหมาย อย่าใช้วิกฤติศรัทธาของประชาชนมาเป็นเกราะป้องกันตนเอง ซึ่งส่วนตัวเบื่อกับเรื่องดัง

กล่าวแล้ว และขออย่าว่าตนไปรบกับพระ หรือทำลายพระพุทธศาสนา หากวิพากษ์วิจารณ์กันแบบนี้ทำให้ท้อใจเช่นกัน
/////////
ปยป.

"สุวิทย์" เผย ประชุมหลักสูตร ป.ย.ป. ระดมความคิดและข้อเสนอแนะ เพื่อพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคง

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวรายงานการประชุมหลักสูตร การบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ( ป.ย.ป.) ว่า การประชุมนี้ เป็นการระดมความ

คิดและข้อเสนอแนะ เพื่อขับเคลื่อนแก้ไขปัญหา อุปสรรคของการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล และพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน โดยมี 2 ประเด็นหลัก คือ การพัฒนาและเตรียมคน

สู่อนาคต และการพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เปิดงาน การประชุมหลักสูตร ป.ย.ป. และกล่าวบรรยายพิเศษ เรื่อง โครงสร้างและ

แนวทางการบริหาราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธ์ศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง แล้ว จากนั้น นายกวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย จะบรรยาย

พิเศษ เรื่อง ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และปฏิรูปประเทศตามหมวด 16 แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ..
---------
นายกฯ ย้ำ เดินหน้าปฏิรูปประเทศ ยันจำเป็นต้องใช้ ม.44 หากแก้ปัญหาไม่ได้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เป็นประธานในการเปิดหลักสูตรการบริหารราชการแผ่นดิน ตามกรอบการปฏิรูปประเทศ

ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง หรือ ป.ย.ป. พร้อมกล่าวว่า ส่วนตัวดีใจที่มาประชุมทำงานเพื่อประเทศ ซึ่งประเทศชาติ ต้องสำคัญกว่าอย่างอื่น โดยเฉพาะข้าราชการที่ประเทศ
ต้องมาก่อน แม้เกิดปัญหาต้องฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อคนอื่น และส่วนตัวจำเป็นต้องมายืนและพูดวันนี้ ไม่ใช่เพราะสถานการณ์เลวร้ายจนแก้ไม่ได้ หรือรัฐล้มเหลว ข้าราชการไม่ดี แต่มายืนตรงนี้เพราะ

เคยเป็นอดีตข้าราชการ ยอมไม่ได้หากประชาชนไม่ไว้ใจหรือให้ร้ายบิดเบือนตลอดเวลา จึงต้องมาพูดเพื่อให้สังคมเข้าใจ และเห็นว่าขณะนี้กำลังปฏิรูปตัวเองและปฏิรูปประเทศตลอดไปเป็นระยะ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลเดินหน้ามาตั้งแต่ปี 2557 หลายอย่างมีผลสัมฤทธิ์ บางอย่างอาจล่าช้า ติดขัด จึงต้องคิดว่าจะเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงอย่างไร จึงได้สั่งการต่าง ๆ แต่ขอให้คิดถึง

เหตุผลที่ต้องสั่ง เพราะหากไม่เห็นปัญหาตรงกันก็จะแก้ไขไม่สำเร็จ จึงต้องมาพูดคุยกันและแลกเปลี่ยนกันในหลักสูตรดังกล่าวและเชื่อว่าจะครอบคลุมทั้งหมด โดยจะคนทั้งประเทศจะต้องแก้ไข

ปัญหาร่วมกัน ไม่เช่นนั้นต้องใช้กฎหมาย หรือ มาตรา 44 หากทุกคนไม่ช่วยกันก็ไม่สามารถแก้ได้.
---------
นายกฯ ยัน กฎหมายไม่ได้กำกับประชาชน ชี้เพื่อความเท่าเทียม - เร่งสร้างสะพานให้รัฐบาลใหม่เดิน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวว่า รัฐบาลมีหน้าที่เป็นสะพานให้ประชาชนก้าวข้ามปัญหา อุปสรรค และขณะนี้รัฐบาลกำลัง

สร้างสะพานให้รัฐบาลใหม่เดิน แต่จะเดินหรือไม่ก็แล้วแต่ และหากเดินตกสะพานก็ช่วยไม่ได้ เพราะประชาชนเลือกมาเอง ไม่ใช่ส่วนตัวต่อสู้หรือแข่งขัน แต่รัฐบาลใหม่จะมีอำนาจในการบริหาร

ดังนั้น ข้าราชการจึงต้องสร้างกลไกที่เข้มแข็งไม่เช่นนั้นจะกลับไปที่เดิม ซึ่งจะต้องรับผิดชอบเอง เพราะเป็นผู้ปฏิบัติ ตอนนี้สะพานยังไม่เสร็จก็ให้ประชาชนเดินเหยียบข้ามไปก่อน แต่หากเสร็จ

แล้วจะต้องเดินนำประชาชนไปข้างหน้า ไม่ใช่มองแต่เรื่องเลื่อนยศ คิดแต่เรื่องตัวเองเพราะจะติดกับดักตัวเอง

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวยืนยันว่า กฎหมายที่ออกมาไม่ได้กำกับประชาชน แต่เพื่อความเท่าเทียม ไม่ว่าใครก็ต้องทำตาม และขอให้ลดความขัดแย้งและความคิดที่ไม่ตรงกันออกไปก่อน เพื่อให้

ประเทศเดินไปได้ ซึ่งขณะนี้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อยกว่าปี 2557 ไม่มีการประท้วงหรือใช้อาวุธสงคราม แต่จะยุติได้หรือไม่ จึงต้อง มี ป.ย.ป. วันนี้
---------------
นายกฯ ยัน ไม่ได้ทำให้ประเทศเสียหาย เร่งทำความเข้าใจประชาชน แก้ปัญหาลดเหลื่อมล้ำทางสังคม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวว่า วันนี้ไทยมีปัญหาอยู่ 3 ประการ คือ ปัญหาประชาธิปไตยที่มีมากว่า 80 ปี จึงต้องมีคณะ

กรรมการสร้างความสามัคคีปรองดองเข้ามาแก้ปัญหา ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม และการขาดหลักคิดที่ถูกต้อง หากแก้ปัญหา 3 ข้อนี้ได้ ประเทศไทยจะเจริญ ขณะเดียวกัน ยืนยันว่า ไม่ได้ทำ

ให้ประเทศเสียหาย แต่ทำเพียงแค่หยุดการบริหารประเทศแล้วมาซ่อมแซ่มในเวลานี้ให้เศรษฐกิจดีขึ้น ปัญหาปรุงกฎหมายให้ประชาชนปฏิบัติตามไม่ใช่ค้านทุกเรื่อง อย่างที่หลายคนมองว่า เส้นแบ่ง

สิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย เป็นเส้นเดียวกัน จึงต้องทำให้ประชาชนเข้าใจให้ได้ แม้บางครั้งจะถูกต่อต้านแต่ส่วนตัวต้องอดทนทำให้ปี 2560 เป็นปีสำคัญที่จะเดินหน้า
-----------------
"วิษณุ" เชื่อ ป.ย.ป. ทำภารกิจ 4 ด้าน ขับเคลื่อนทำงานได้รวดเร็ว ยันจำเป็นต้องใช้ ม.44 เพื่อความมีประสิทธิภาพ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวบรรยายพิเศษ เรื่อง ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และปฏิรูปประเทศตามหมวด 16 แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ... ตอนหนึ่งว่า โดยเชื่อว่าคณะ

กรรมการบริราชการแผ่นดินตาม กรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง หรือ ป.ย.ป. จะทำให้ภารกิจของรัฐบาลทั้ง 4 ด้าน ขับเคลื่อนการทำงานไปได้อย่าง

รวดเร็ว ซึ่งรัฐบาลชุดใหม่ที่เข้ามาก็จะต้องดำเนินงานตามแผนที่กำหนดไว้

ทั้งนี้ นายวิษณุ ยังกล่าวว่า ในการทำงานของรัฐบาลในขณะนี้ จะต้องเร่งการขับเคลื่อนงานในเรื่องที่มีความสำคัญและเรื่องเร่งด่วนก่อน ซึ่งหากเรื่องใดมีความล่าช้า ก็จำเป็นต้องออกคำสั่งตาม มาตรา

44 เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
------------------
"วิษณุ" ย้ำ รัฐบาลใหม่สามารถเปลี่ยนแปลงแผนยุทธศาสตร์ชาติได้ - เตรียมจัดทำ พ.ร.บ. วางแผนปฏิรูปประเทศ 7 ด้านหลังประกาศใช้

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประกาศใช้ก็จะมีการจัดทำ พ.ร.บ.วางแผนการปฏิรูปประเทศ 7 ด้าน และ พ.ร.บ.การวางแผนการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่ง

จะใช้เวลาการดำเนินการประมาณ 3 เดือน

ขณะเดียวกัน เปิดเผยว่า กำลังจะมีการส่งแผนยุทธ์ศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ให้แก่นายกรัฐมนตรี โดยย้ำว่า รัฐบาลใหม่ที่เข้ามา สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงแผนยุทธศาสตร์ชาติได้ แต่จะต้องผ่านความชอบ

จากรัฐสภา
---------------

-////////////
ปมทุจริต

ประธาน ป.ป.ช. เผยผลสำรวจความรุนแรงในการทุจริตงบรัฐในโครงการขนาดใหญ่ของไทยดีขึ้น

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันแบะปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามมการทุจริตโดย

ใช้กลไกทางการศึกษา ว่า ความรุนแรงของการทุจริตมีตัวชี้วัดทั้งจากในและนอกประเทศ หนึ่งในนั้นคือ ดัชนีชี้วัดการคอร์รัปชั่นบององค์กรต่างประเทศ ที่จะมีการประกาศคะแนนทุกปี และ

คะแนนในปีนี้ไทยได้ 35 คะแนน เป็นอันดับที่ 101 ของโลก ซึ่งก่อนหน้านี้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเชื่อว่าคะแนนของไทยจะดีกว่าคะแนนปี 2558 ที่ได้ 38 คะแนน แต่เนื่องจากในปีนี้มีการเก็บคะแนนเพิ่ม

เติมในส่วนของความหลากหลายของประชาธิไตย การเลือกตั้ง เสรีภาพการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเป็นครั้งแรก จึงส่งผลต่อผลการประเมินของไทย

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจพบว่า ความรุนแรงในการทุจริตงบประมาณของรัฐในโครงการขนาดใหญ่ของไทย ตั้งแต่ปี 2554 - 2559 ดีขึ้นตามลำดับ มีการทุจริตลดลง เหลือประมาณ 1 - 15% ของ

งบโครงการ ขณะที่การปราบปรามการทุจริตสามารถได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นเพราะรัฐบาลที่ซื่อสัตย์ การมีผู้นำที่มุ่งมั่น แต่สิ่งสำคัญของการต่อต้านการทุจริตคือมาตรการการป้องกัน ดัง

นั้น แผนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 จึงให้ความสำคัญกับการป้องกันควบคู่ไปกับการปลูกฝังจิตสำนึกให้กับคนในสังคม โดยเป้าหมายที่จะให้ไทยมีค่า cpi

มากกว่า 50 คะแนน ด้วยการร่วมมือจากทุกหน่วยงาน ซึ่งเจตนารมณ์ของกองทัพอากาศในการต่อต้านการทุจริตถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม
---------------
ประธาน ป.ป.ช. ปัดเปิดเผยรายชื่อผู้โยงสินบนโรลส์ - รอยซ์ ยันใช้เวลาไม่นาน เตรียมตั้ง คกก. ไต่สวนเร็ว ๆ นี้

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบการติดสินบนของบริษัท โรลส์ - รอยซ์ ว่า

จากการตรวจสอบข้อมูลเอกสารที่ได้รวบรวมมา ทำให้ขณะนี้คณะทำงานมีข้อมูลที่เพียงพอแล้ว คาดว่าจะสามารถเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ เพื่อตั้งคณะกรรมการไต่สวนได้เร็ว ๆ นี้

ซึ่งหากมีการตั้งคณะกรรมการไต่สวนแล้ว จะทำให้รู้ถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ชัดเจนขึ้น สามารถไต่สวนเพิ่มเติม และตั้งข้อกล่าวหาผู้ที่มีข้อมูลครบถ้วนก่อน แต่คงไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ใน

ขณะนี้ เพราะจะกระทบต่อสิทธิของบุคคลเหล่านั้น แต่ยืนยันว่าจะใช้เวลาไม่นาน เพราะส่วนตัวมีกำหนดการเดินทางไปต่างประเทศ

ทั้งนี้ ประธาน ป.ป.ช. ก็ไม่ระบุชัดเจนว่า เรื่องดังกล่าวจะเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในสัปดาห์หน้าหรือไม่

ไม่มีความคิดเห็น: