
เมื่อมีกระแสข่าวปรับ ครม.ครั้งใด มักมีชื่อติดโผอยู่ลำดับต้นๆที่จะถูกปรับออก คราวนี้ก็เช่นเดียวกัน มีชื่อจะหลุดจากเก้าอี้ รมต.ไปอยู่กระทรวงเกรดบี หรือหลุดวงโคจรอำนาจไปเลย
บุคคลคนนี้มีฉายา “บิ๊กนมชง” พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ คงปฏิเสธไม่ได้เป็นผู้ที่เรียกได้ว่าถูกฝ่ายการเมืองตามวิพากษ์วิจารณ์การบริหารงานในทางติดลบมาตลอด
เกือบ 2 ปีที่บริหารงาน จากวันนั้นถึงวันนี้ พล.อ.ฉัตรชัย ได้วางยุทธศาสตร์ปฏิรูปการเกษตรของประเทศไปถึงไหนและอย่างไร โดยได้เปิดใจไว้กับ ทีมข่าวการเมือง ว่า การทำงานสิ่งสำคัญจะต้องมีแผนงานนโยบายระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว โดยเฉพาะภายใต้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ปัญหาเฉพาะหน้าบริหารแก้ไขราคาพืชผลเกษตรตกต่ำก็ต้องทำ การวางฐานรากแก้ปัญหาระยะกลางและระยะยาวก็ต้องเดินหน้า
ตรงนี้มันเป็นจุดเด่น มีความแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับรัฐบาลที่ผ่านๆมา เห็นใจนักการเมืองเหมือนกัน เมื่อก้าวขึ้นเป็นรัฐมนตรีแล้วไม่รู้จะหลุดจากตำแหน่งเมื่อไหร่ บางทีแค่ 6 เดือนหรือ 1 ปีก็ถูกปรับออกจากตำแหน่ง ส่วนใหญ่จึงแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น โครงการรับจำนำข้าว มักใช้วิธีการอุดหนุนชาวนา
แต่รัฐบาลนี้ทำเท่าที่จำเป็น และนายกฯยืนยันชัดเจนให้วางยุทธศาสตร์ประเทศ 20 ปี หมายความว่า ทุกกระทรวงจะต้องมีแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ล้อกับยุทธศาสตร์ประเทศ โดยเราได้ปฏิรูปเกษตร เริ่มตั้งแต่ปรับเปลี่ยนวิธีการเกษตรให้เหมาะสมกับพื้นที่
เป็นที่มาของการจัดทำอะกรีแม็ป ซึ่งเป็นแผนที่เกษตรเพื่อบริหารจัดการเชิงรุก ใช้เป็นเครื่องมือบริหารจัดการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทุกพื้นที่ คำนึงถึงสมดุลของทรัพยากรการผลิต ความต้องการของตลาด ทำให้สามารถบริหารจัดการสินค้าเกษตรสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและคาดการณ์ในอนาคตได้ด้วย
พร้อมจัดทำโซนนิ่งการเกษตร ไม่ใช่เหมือนที่ผ่านมา ซึ่งไม่เคยมีการวางแผน พืชผลอะไรราคาดีก็ทำกันใหญ่ ไม่ใช่เป็นความผิดของเกษตรกร แต่ในเชิงนโยบายของรัฐไม่มีใครไปแนะนำทำให้ผลผลิตออกมาราคาตกต่ำ
สิ่งที่พูดมันไม่ได้เกิดขึ้นในวันนี้หรือพรุ่งนี้ เป็นแผนระยะยาว ตั้งแต่ผมเข้ามาปีแรก ได้กำหนดให้เป็นปีแห่งการลดต้นทุนและเพิ่มปริมาณการผลิต ปีต่อมากำหนดเป็นปีแห่งการยกระดับมาตรฐาน และจัดทำอะกรีแม็ป
ในปี 59 เริ่มลงมือเปิดให้เกษตรกรรวมกลุ่มให้เข้าสู่ระบบแปลงใหญ่ เพื่อลดทุน มีการร่วมกันผลิต เพิ่มประสิทธิภาพโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามา ปรากฏว่ามีแปลงใหญ่ที่ประสบผลสำเร็จ 480 แปลง เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นรวม 4 พันกว่าล้านบาท
อีกอันหนึ่งที่สำคัญมาก ที่ผ่านมาข้าราชการมักถูกสั่งให้ทำในสิ่งที่นักการเมืองต้องการ ผมเข้ามาปรับเปลี่ยนใหม่หมด เช่น จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เกษตรกรระดับอำเภอ มีเกษตรกรเป็นเจ้าของ รัฐให้การสนับสนุน ให้เป็นองค์กรความรู้ ศูนย์นี้เป็นเสาหลักให้เกษตรกรในพื้นที่มีความเข้มแข็ง ในปีนี้ศูนย์ดังกล่าวกระจายไปทุกตำบล
ศูนย์นี้จะเป็นตัวแก้ปัญหาเกือบทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นปริมาณการทำสินค้าเกษตรที่เหมาะสม การทำสินค้าเกษตรที่ถูกต้อง การลดต้นทุน การรวมกลุ่มกัน นำไปสู่การเป็นเกษตรแปลงใหญ่
และสิ่งที่ผม ข้าราชการและเกษตรกรภาคภูมิใจมาก คือ ได้นำศาสตร์พระราชามาสู่เกษตรกรอย่างแท้จริง
ภายใต้ “โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี”
เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน ตามรอยเท้าพ่อคือรัชกาลที่ 9 ภายใต้ร่มพระบารมีคือรัชกาลที่ 10 และ 1 ตัวสุดท้ายหมายถึงได้เริ่มต้นโครงการนี้เป็นปีแรกแห่งการครองราชย์รัชกาลที่ 10
จุดเด่นของโครงการคือการปฏิรูปภาคการเกษตรให้เกิดผลสำเร็จ โดยเปิดให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาและดำเนินการโครงการสร้างความเข้มแข็งระดับเศรษฐกิจฐานราก ใช้ศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) เป็นศูนย์การเรียนรู้ของชุมชน เป็นกลไกขับเคลื่อนการพัฒนาการเกษตรในพื้นที่ ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้ มีการคิดวิเคราะห์และนำไปปฏิบัติได้จริง
โครงการนี้กราบเรียนนายกฯ ท่านบอกให้เดินหน้าเร็วที่สุด เพราะหัวใจของนายกฯอยู่กับเกษตรกร ฉะนั้นในวันที่ 27 ก.ค.นี้จะคิกออฟ คาดว่าเกษตรกรที่จะได้รับผลประโยชนทั้งประเทศ 7.74 ล้านราย โดยเราดีไซน์ให้งบประมาณไปถึงมือเกษตรกรอย่างรวดเร็ว
เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนและกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก
ทีมข่าวการเมือง ถามว่า นโยบายที่เดินหน้าจะเห็นผลยังต้องใช้เวลา แต่ปัญหาเฉพาะหน้าราคาพืชผลเกษตรตกต่ำถูกหยิบยกมาโจมตีรัฐบาล จะมีผลกระทบต่อการกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีรอบสองของ พล.อ.ประยุทธ์อย่างไร และกระทบต่อการตั้งพรรคการเมืองที่มารองรับอำนาจของ คสช.อย่างไร
พล.อ.ฉัตรชัย ไม่ยอมตอบคำถามนี้
แต่บอกว่า ผมลงไปพื้นที่ต่างๆพบเกษตรกรทีไร เกษตรกรล้วนดีใจ แต่ผมรู้สึกเสียใจว่าที่ผ่านมาทำไมปล่อยให้เกษตรกรยากจนแบบนี้ เกษตรกรบอกว่าไม่เคยมีใครทำแบบนี้ และอยากให้รัฐบาลทำแบบนี้ต่อไป
ทำให้ผมรู้สึกมีกำลังใจว่าต้องเดินหน้าปฏิรูปการเกษตรต่อ เพื่อทำให้เกษตรกรมีความสุข ถ้าเราเชื่อมั่นว่าเดินมาถูกทางที่มาจากความตั้งใจ เราต้องอดทน และเดินหน้าเพื่อให้เกษตรกรได้พบกับสิ่งที่ดี
ฝ่ายการเมืองเดินหน้าเรียกร้องขอให้นายกฯปลด รมว.เกษตรฯ เพราะไม่สามารถแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำได้ พล.อ.ฉัตรชัย บอกว่า นักการเมืองต้องรักษาเสถียรภาพความเป็นผู้นำกลุ่ม อยากจะถามกลับไปบ้างว่าสมัยก่อนราคายางพาราเป็นอย่างไร
ขอย้ำว่าที่ผ่านมาเวลาที่ผมลงไปสัมผัสเกษตรกร เขาเริ่มมีความสุขและมีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะตามยุทธศาสตร์ที่กำหนดเอาไว้ ทั้งหมดเป็นการปฏิรูปการเกษตร แต่การเมืองจะคิดอย่างไรไม่รู้
ฉะนั้น ตราบใดที่นายกฯให้ผมทำหน้าที่นี้อยู่จะเดินหน้าต่อไป และทุกวันนี้นายกฯคงเข้าใจ
ทีมการเมือง ถามว่า ในฐานะที่เป็นเพื่อนกับนายกฯ ถูกตั้งข้อสังเกตว่าทำให้การปรับ ครม.แต่ละครั้งก็ยังอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่อ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.อ.ฉัตรชัย บอกว่า ผมรู้จักท่านนายกฯ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.12 เป็นเพื่อนกันมา 40 กว่าปี ผมรู้ดี ท่านนายกฯไม่ใช่แค่กับผม แต่กับทุกคน
เพื่อนคือเพื่อน งานคืองาน เวลาทำงานไม่มีเพื่อน เพื่อนเอาไว้เวลาพักผ่อนเท่านั้น
อยู่กับท่านมาตลอดผมรู้ดี ถ้าทำไม่ถูก ผมโดน ท่านก็ว่าแบบนี้ ไม่ต้องเกรงใจด้วย ผมก็เข้าใจ
นี่คือบทบาทหน้าที่ คิดว่านายกฯแยกได้ พวกเราทุกคนที่ทำงานกับท่าน วันนี้เราแยกได้
บางคนจะบอกว่าผมเป็นเพื่อนสนิท ท่านมีเพื่อนสนิทตั้งหลายคน ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว
รู้สึกอย่างไร หลังจากตั้งใจบริหารงานแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างให้แก่เกษตรกร กลับถูกฝ่ายการเมืองวิพากษ์วิจารณ์ว่าไร้ผลงาน จะต้องถูกปรับออกจากตำแหน่ง ผลสำรวจโพลบางสำนักก็ระบุว่าให้ปรับ รมว.เกษตรฯออกจากตำแหน่ง พล.อ.ฉัตรชัย บอกว่า ไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้
ตราบใดที่ยังทำหน้าที่อยู่จะเดินหน้าดูแลเกษตรกร เราท้อไม่ได้ ถ้าท้อเมื่อไหร่เกษตรกรจะแย่
ขอให้ไปถามเกษตรกรบ้างตามสัดส่วนตัวอย่างที่สุ่มสอบถามในตัวเมือง ดูว่าผลสำรวจจะออกมาอย่างไร เพราะเป้าหมายแรกที่เราเดินหน้า มีปลายทางอยากเห็นเกษตรกรมีความภาคภูมิใจในอาชีพ เป้าหมายที่สอง อยากเห็นเกษตรกรมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เป้าหมายที่สาม เกิดสังคมอบอุ่นขึ้นแก่เกษตรกร
ยุทธศาสตร์ที่วางเอาไว้และที่ลงมือทำไปแล้ว สุดท้ายจะเดินไปสู่เป้าหมายดังกล่าว
เป้าหมายจะบรรลุได้จะต้องทำงานเป็นทีม ที่ผ่านมาทีมเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ รมว.เกษตรฯ และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ มีภาพสะท้อนออกมาว่าไม่คุยกัน สั่งการไม่ได้ พล.อ.ฉัตรชัย บอกว่า นายกฯไม่ได้จัดให้ผมอยู่ในกลุ่มเศรษฐกิจ
ที่ผ่านมาท่านนายกฯให้ผมอยู่กับท่านสมคิด วันนี้ท่านสมคิดงานเยอะมาก นายกฯจึงกระจายงานให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ ในฐานะรองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ รับหน้าที่ดูแลกระทรวงเกษตรฯแทน
ผมกับท่านสมคิดคุยกันตามปกติ เลิกประชุม ครม.ก็นั่งรับประทานอาหารด้วยกัน
วันหลังจะเปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายรูปในห้องอาหาร จะได้เลิกพูดซะที
สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติเลย.
ทีมการเมือง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น