PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2560

No Fly Zone for Drone.

No Fly Zone for Drone.
ผบ.ทอ. สั่งจับ "มือ Drone" บินว่อน ดอนเมือง ยันผิดกม. กำหนดเขต ห้ามบิน และติดเครื่องมือ ยับยั้ง Drone ไม่ให้มาบินในเขตห้ามบินได้/ พร้อมดำเนินคดี ผู้ถ่ายคลิปสนามบินดอนเมือง
พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวถึง กรณีที่มีบุคคลโพสต์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์ว่าตรวจพบ Drone สีขาว ขณะบินออกจากสนามบินดอนเมือง ที่ระยะสูงประมาณ 3,000 ฟุต ซึ่งเป็นอันตรายต่อเครื่องบินอย่างมาก อาจสร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาล จนถึงทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงนำมาซึ่งการสูญเสียชีวิตของประชาชน นั้น
ผบ.ทอ. ขอชี้แจงว่า ตามมาตรา 24ของ พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ.2497 กระทรวงคมนาคม ได้ออกประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องหลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไขในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก พ.ศ.2558!การบินDrone ดังกล่าวไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนกฏหมายมีบทลงโทษตาม พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ.2497 มาตรา 79
โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยในฐานะหน่วยผู้รับผิดชอบตามกฎหมาย อยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำความผิด
แต่อย่างไรก็ตาม กองทัพอากาศก็มีความกังวล และห่วงใยความปลอดภัยด้านการบินบริเวณสนามบินต่างๆ โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อกำหนดมาตรการในการรักษาความปลอดภัยเรื่องดังกล่าวในบริเวณสนามบิน
ทั้งนี้กองทัพอากาศได้เตรียมยุทโธปกรณ์พิเศษเพื่อยับยั้ง มิให้Drone สามารถมาบินในเขตห้ามบินได้ และพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการแก้ปัญหาเกี่ยวกับDrone เพื่อให้เกิดความปลอดภัยด้านการบิน
นอกจากนั้นตาม พ.ร.บ.เดินอากาศฉบับใหม่ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของกฤษฎีกาได้กล่าวเรื่องนี้ไว้ชัดเจน การขึ้นทะเบียนและการอนุญาตให้บินเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ดังนั้นกระทรวงกลาโหมต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินการดังกล่าว เพื่อเป็นการรักษาความมั่นคงตลอดจนลดความเสี่ยงในการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ส่วนกรณีมีบุคคลนำคลิปซึ่งถ่ายบริเวณสนามบินของกองทัพอากาศเป็นภาพมุมสูงจากDrone ไปเผยแพร่ลงในสื่อสังคมออนไลน์นั้น ผบ.ทอ.กล่าวว่า ในฐานะที่กองทัพอากาศเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง คงยอมไม่ได้ที่จะให้มีการละเมิดกฎหมาย
"ถ้าตรวจพบไม่ว่าจะโดยตรง หรือโดยอ้อม จะต้องดำเนินการ เพื่อให้มีการจับกุมเกิดขึ้น ซึ่งอำนาจการจับกุมอยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดยฝ่ายกฎหมายของกองทัพอากาศได้ทำการตรวจสอบองค์ประกอบต่าง ๆ แล้ว พบว่าคลิปดังกล่าวเป็นการเผยแพร่ความลับทางราชการ มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองความลับในราชการ พ.ศ.2483 ซึ่งกองทัพอากาศได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น: