No Fly Zone for Drone.
ผบ.ทอ. สั่งจับ "มือ Drone" บินว่อน ดอนเมือง ยันผิดกม. กำหนดเขต ห้ามบิน และติดเครื่องมือ ยับยั้ง Drone ไม่ให้มาบินในเขตห้ามบินได้/ พร้อมดำเนินคดี ผู้ถ่ายคลิปสนามบินดอนเมือง
พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวถึง กรณีที่มีบุคคลโพสต์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์ว่าตรวจพบ Drone สีขาว ขณะบินออกจากสนามบินดอนเมือง ที่ระยะสูงประมาณ 3,000 ฟุต ซึ่งเป็นอันตรายต่อเครื่องบินอย่างมาก อาจสร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาล จนถึงทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงนำมาซึ่งการสูญเสียชีวิตของประชาชน นั้น
ผบ.ทอ. ขอชี้แจงว่า ตามมาตรา 24ของ พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ.2497 กระทรวงคมนาคม ได้ออกประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องหลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไขในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก พ.ศ.2558!การบินDrone ดังกล่าวไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนกฏหมายมีบทลงโทษตาม พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ.2497 มาตรา 79
โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยในฐานะหน่วยผู้รับผิดชอบตามกฎหมาย อยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำความผิด
แต่อย่างไรก็ตาม กองทัพอากาศก็มีความกังวล และห่วงใยความปลอดภัยด้านการบินบริเวณสนามบินต่างๆ โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อกำหนดมาตรการในการรักษาความปลอดภัยเรื่องดังกล่าวในบริเวณสนามบิน
ทั้งนี้กองทัพอากาศได้เตรียมยุทโธปกรณ์พิเศษเพื่อยับยั้ง มิให้Drone สามารถมาบินในเขตห้ามบินได้ และพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการแก้ปัญหาเกี่ยวกับDrone เพื่อให้เกิดความปลอดภัยด้านการบิน
นอกจากนั้นตาม พ.ร.บ.เดินอากาศฉบับใหม่ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของกฤษฎีกาได้กล่าวเรื่องนี้ไว้ชัดเจน การขึ้นทะเบียนและการอนุญาตให้บินเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ดังนั้นกระทรวงกลาโหมต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินการดังกล่าว เพื่อเป็นการรักษาความมั่นคงตลอดจนลดความเสี่ยงในการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ส่วนกรณีมีบุคคลนำคลิปซึ่งถ่ายบริเวณสนามบินของกองทัพอากาศเป็นภาพมุมสูงจากDrone ไปเผยแพร่ลงในสื่อสังคมออนไลน์นั้น ผบ.ทอ.กล่าวว่า ในฐานะที่กองทัพอากาศเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง คงยอมไม่ได้ที่จะให้มีการละเมิดกฎหมาย
"ถ้าตรวจพบไม่ว่าจะโดยตรง หรือโดยอ้อม จะต้องดำเนินการ เพื่อให้มีการจับกุมเกิดขึ้น ซึ่งอำนาจการจับกุมอยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดยฝ่ายกฎหมายของกองทัพอากาศได้ทำการตรวจสอบองค์ประกอบต่าง ๆ แล้ว พบว่าคลิปดังกล่าวเป็นการเผยแพร่ความลับทางราชการ มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองความลับในราชการ พ.ศ.2483 ซึ่งกองทัพอากาศได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น