PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2560

เลือกคนถูกงาน

เลือกคนถูกงาน


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จัดสรร ปันส่วนให้รองนายกฯทั้ง 5 คน ได้กำกับดูแลกระทรวง ต่างๆ ดังนี้คือ

1,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ ได้กำกับ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และกระทรวงแรงงาน รวมทั้งสิ้น 4 กระทรวง

2, พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง กำกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงพลังงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจฯ และกระทรวงยุติธรรม รวม 4 กระทรวง

3, ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กำกับกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ กระทรวงอุตสาหกรรม รวมเบ็ดเสร็จ 8 กระทรวง

4, พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ กำกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และกระทรวงสาธารณสุข รวม 2 กระทรวง
5, ดร.วิษณุ เครืองาม กำกับกระทรวงวัฒนธรรมแค่ 1 กระทรวง

“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า ดร.สมคิด ได้แผ่พังพานควบคุมกระทรวงหลักๆ มากที่สุดในบรรดารองนายกฯทั้ง 5 คน

แต่จะสรุปว่า “รองนายกฯสมคิด” ได้ควบคุมกระทรวงเศรษฐกิจครบวงจร ก็ไม่จริงซะทีเดียว

เพราะ ดร.สมคิด ไม่ได้กำกับกระทรวงพลังงาน และกระทรวงดิจิทัลฯ ซึ่งเป็นกระทรวงสายเศรษฐกิจเช่นกัน

แต่เอาเถอะ...การได้รวบหัวรวบหาง กระทรวงเศรษฐกิจสำคัญถึง 8 กระทรวง ถือว่ายิ่งใหญ่ยอดเยี่ยม ไร้เทียมทาน

ทำให้ ดร.สมคิด สามารถขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจอย่างสะดวกโยธิน

โดยไม่มีใครเหยียบตาปลา

แสดงว่า ดร.สมคิด ปรารถนาสิ่งใด นายกฯบิ๊กตู่ ยินดีประเคนให้ทุกอย่างที่ต้องการ

ด้วยความเชื่อมั่นว่า ดร.สมคิด จะ เป็นผู้กอบกู้ศรัทธาให้รัฐบาล คสช.

ด้วยความเชื่อมือว่า ดร.สมคิด จะเป็นผู้สร้างสะพานคอนกรีตให้ พล.อ.ประยุทธ์ ก้าวข้ามกระแสน้ำเชี่ยวไปนั่งเก้าอี้นายกฯเบิ้ลอีก 4 ปี

แต่...แต่ถ้า รองนายกฯสมคิด ไม่ สามารถปลุกเศรษฐกิจไทยให้กระเด้งขึ้นได้ภายในเวลาที่เหลืออีก 1 ปี
ดร.สมคิด ต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ จะโทษโน่นโทษนี่ไม่ได้อีกต่อไป

ดังนั้น การที่รองนายกฯ ดร.สมคิด ได้รับแบ่งกระทรวงให้กำกับดูแลมากกว่ารองนายกฯอีก 4 คน จึงเหมาะสมแล้วด้วยประการฉะนี้แล

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าผลต่อเนื่องจากการปรับ ครม.ประยุทธ์ 5 ยังมีประเด็นน่าสนใจที่ไม่ควรมองข้ามอีก 2 ประการ

ประการแรก การที่ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และหัวหน้า ครม.ส่วนหน้าดูแลแก้ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ ถูกปรับออกไป

พล.อ.ประยุทธ์ ได้แต่งตั้ง พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาฯ เป็นหัวหน้า ครม.ส่วนหน้า รับหน้าเสื่อแก้ปัญหาไฟใต้คนใหม่แทน

เนื่องจาก พล.อ.สุรเชษฐ์ เป็นรอง หน.ครม.ส่วนหน้า และเคยเป็น ผบ.หน่วย ฉก.ยะลา ย่อมเข้าถึงเข้าใจปัญหาชายแดนใต้เป็นอย่างดี

ถือว่า พล.อ.ประยุทธ์วางคนได้เหมาะสมกับภารกิจสำคัญ

ประการที่ 2, ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ที่เพิ่งถูกปรับออกจาก รมช.ศึกษาธิการได้รับแต่งตั้งใหม่เป็น “ผู้ช่วยรัฐมนตรี” ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

“แม่ลูกจันทร์” อ่านข่าวนี้แล้วอึ้งกิมกี่ไปเลย

เพราะ “ครม.ประยุทธ์ 1” ม.ล.ปนัดดา เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ เทียบเท่ากับรัฐมนตรีว่าการ
ครม.ประยุทธ์ 3, ม.ล.ปนัดดา โดนลดชั้นจาก รมต.ประจำสำนักนายกฯไปเป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงศึกษาธิการ

ครม.ประยุทธ์ 5 ม.ล.ปนัดดา โดนลดชั้นจากรัฐมนตรีช่วยฯ เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี

อมิตพุทธ...คนอื่นได้ปรับขึ้น แต่คนนี้ได้ปรับลง.

“แม่ลูกจันทร์”

ไม่มีความคิดเห็น: