PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2561

มั่นใจถึงได้ปล่อยของ

มั่นใจถึงได้ปล่อยของ


ปล่อยมุกเรียกเรตติ้งได้ตลอดเวลา กับช็อตล่าสุดที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หัวหน้า คสช.สั่งให้เจ้าหน้าที่ยกสแตนดี้หรือรูปถ่ายเท่าตัวจริงของ “ลุงตู่” มาตั้งตรงหน้าไมโครโฟนของกลุ่มนักข่าวทำเนียบรัฐบาล ก่อนพูดตลกหน้าตาย

“ใครสอบถามปัญหาการเมือง ความขัดแย้ง ถามกับไอ้คนนี้นะ”

เรียกเสียงฮาครืนทำเนียบรัฐบาล

เรื่องของเรื่อง มุกขำๆลีลาอำทีเล่นทีจริงแบบนี้แหละที่ทำให้ “ลุงตู่” ยังเต้นฟุตเวิร์ก ประคองต้นทุนหน้าตัก เป็นความน่ารักแบบธรรมชาติที่คนเกลียดไม่ค่อยลง

อย่างน้อยๆก็ผ่อนหนักเป็นเบา แก้เหลี่ยมที่รัฐบาล คสช.ตกเป็นรองฝ่ายต้านที่โหมถล่มอย่างหนักในโลกโซเชียลฯ ประเภทที่อัพข้อมูลด้านลบถล่มขุมอำนาจ คสช.แบบรายชั่วโมง ตามอุดตามแก้กันไม่ทัน

ขนาดเรื่องหมาๆยังทำให้ “นายกฯลุงตู่” เหนื่อยเหงื่อตก

และตามรูปการณ์แรงเสียดทานที่ยกระดับขึ้นทุกขณะ กับยุทธการโหมกระแส “ต้านนายกฯคนนอก” ที่มาตามนัด ตามฟอร์มของเกมชิงพื้นที่อำนาจ ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฤกษ์ประเดิมต้นปีจอ

ประกาศตัวแสดงตนเป็น “นักการเมือง” อย่างเต็มปากเต็มคำ

ทำให้นักเลือกตั้งอาชีพ โดยเฉพาะเจ้าถิ่นขาใหญ่ทั้งยี่ห้อประชาธิปัตย์ ค่ายเพื่อไทย สามัคคีบาทา

ล็อกเป้าถล่มผู้นำรัฏฐาธิปัตย์แบบไม่แหยงอำนาจพิเศษอีกต่อไป

แต่แน่นอน เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจประกาศ นั่นย่อมรู้อยู่แล้วว่าจะเจออะไร แสดงว่ามันเป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่ล็อกโปรแกรมไว้ เมื่อสถานการณ์เดินมาจุดหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของอำนาจพิเศษ

ต้องเดินตามหมากที่ล็อกไว้ในบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญในช่วงเปลี่ยนผ่านต่ออีก 5 ปี

วันเวลามาถึงจุดที่ต้องแสดงตัวแสดงตนให้คนรู้เลยว่า “นายกฯลุงตู่” จะต้องเดินต่อบนถนนอำนาจ ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ไม่ผิดเพี้ยน ไม่มีเหลี่ยมตระบัดสัตย์เพื่อชาติให้เสียคำพูดชายชาติทหาร

เสี่ยงกับการโดนต่อต้านในภายหลัง ซ้ำรอยทหารรุ่นพี่ยุคพฤษภาทมิฬ

และจริงๆสถานการณ์ก็ล้อไปกับฉากการเดินสายจัด ครม.สัญจรในต่างจังหวัด ลงพื้นที่ขายตรงผลงานรัฐบาลทหาร คสช.กับชาวบ้าน พร้อมๆกับการเปิดพื้นที่พูดจากับนักเลือกตั้งอาชีพ เปิดดีลกับนักการเมือง

ยุทธศาสตร์ปูทางรองรับเกมเบิ้ลของ “ลุงตู่” ชัดทั้งเบื้องหน้าและการล็อบบี้เบื้องหลัง

จัดวางกำลังไว้ค่อนข้างแน่นพอสมควรแล้ว

และแนวโน้มจุดสำคัญสุดคือความมั่นใจในสิ่งที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ นำประเทศมาถูกทิศถูกทาง สะท้อนจากสถานการณ์ตลาดหุ้นที่ดีดขึ้นร้อนแรงตั้งแต่ต้นปี

ตอกย้ำสัญญาณดีทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องมาจากปลายปีที่แล้ว แนวโน้มการส่งออกและตัวเลขจีดีพีที่สูงขึ้น การท่องเที่ยวที่เติบโตจนต้องขยายจากเมืองหลักออกไปเมืองรอง

เศรษฐกิจภาพรวมเริ่มแข็งแกร่งตามสภาวะเศรษฐกิจโลก

ขณะเดียวกันก็เป็นการเร่งแก้โจทย์ภายในเรื่องปัญหาปากท้อง โฟกัสจากการที่รัฐบาลเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากตั้งแต่การประชุม ครม.นัดแรกของปี

โดยนายสมคิดพร้อมกับนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อเสนอรายละเอียดมาตรการโครงการสวัสดิการแห่งรัฐระยะที่ 2 ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ที่กระทรวงการคลังจะเสนอเข้าครม.ในวันที่ 9 มกราคม และจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมีนาคมเป็นต้นไป

เป้าหมายคนจนรายได้ต่ำกว่าปีละ 30,000 บาท ต้องลดลงภายในปี 2561

แน่นอน เมื่อเศรษฐกิจพอไปวัดไปวาได้ บวกกับความมั่นคงที่เป็นจุดเด่นของทีมงาน คสช.ที่คุมสถานการณ์บ้านเมืองมา 3 ปี

ย่างเข้าปีที่ 4 ไม่มีม็อบป่วนเมืองมาปิดถนน ปิดสถานที่ราชการ ทำให้ชาวบ้านรู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

มันก็ทำให้ “ลุงตู่” มั่นใจกับเส้นทางคืนสู่เก้าอี้ผู้นำช่วงเปลี่ยนผ่าน

ถึงแม้จะสวนทางกับแรงต้านที่ “ปู่พิชัย รัตตกุล” อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จุดพลุให้ค่ายประชาธิปัตย์จับมือกับพรรคเพื่อไทยในการสกัดผู้นำท็อปบูต ขณะที่พรรคเพื่อไทยแบะท่า ชวนนักการ
เมืองอาชีพรวมหัวกันสกัด “นายกฯคนนอก”

แต่มันก็เป็นอะไรที่บอกกันตรงๆไม่ได้ ทุกฝ่ายก็รู้กันอยู่แก่ใจ

ในเมื่อโจทย์ตามเงื่อนไขสถานการณ์ ทหารไม่มีทางยอมให้ปฏิวัติเสียของซ้ำซาก เหนือไปกว่านั้น ฝ่ายคุมเกมประเทศไทยไม่มีทางไว้ใจ ปล่อยให้นักการเมืองอาชีพขึ้นคุมอำนาจในช่วงเปลี่ยนผ่าน

โดยคำตอบสุดท้ายที่ล็อกไว้ ถ้าถึงจุดหนึ่งนักการเมืองยังดึงดันกดดันทหารจนไม่มีทางออก

ก็อาจเจอฉากแอ่นแอ๊น ย้อนไปเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่แค่นั้น.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: