PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2561

บิ๊กตู่ ปัดรู้เห็นตั้งพรรค ยันไร้ทาบทาม ลั่นไม่ยุบคสช.-ไม่ลาออก ขู่ ใช้กม.ฟันคนสร้างแตกแยก

บิ๊กตู่ ปัดรู้เห็นตั้งพรรค ยันไร้ทาบทาม ลั่นไม่ยุบคสช.-ไม่ลาออก ขู่ ใช้กม.ฟันคนสร้างแตกแยก


“บิ๊กตู่” ปัดรู้เห็นตั้งพรรคพลังประชารัฐ เผยยังไม่มีการทาบทาม ลั่นไม่ยุบ คสช.-ไม่ลาออกไล่ไปดูรธน.มาตรา 265 โยนดูอดีตนายกฯหาเสียงได้ ไม่แปลกใจพรรคใหม่รุมจีบชี้เป็นเรื่องการเมือง เขิล บอกไม่มีเสน่ห์ ขู่ ใช้ กม.เล่นนักการเมือง-พรรคการเมืองสร้างความขัดแย้ง

เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 13 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีการจัดตังพรรคพลังประชารัฐว่า “ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรสักอย่างกับพรรคพลังประชารัฐ ก็ดูจากหนังสือพิมพ์ ” เมื่อถามว่า ถ้าจำเป็นต้องตัดสินใจ จะเลือกพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ และจะรับนั่งเก้าอี้ประธานที่ปรึกษาด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่รู้เหมือนกัน และวันนี้ก็ยังไม้เห็นมีใครเชิญตนไปนั่งเก้าอี้ประธานที่ปรึกษาพรรคเลย มีแต่พูดกันไป และตนจะตัดสินใจอย่างก็ก็ไม่ทราบเช่นกัน ขอเวลาทำงานในส่วนของตนไปก่อน การเมืองยังมีเวลาว่ากันต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มคนอยากเลือกตั้งเรียกร้องให้ยุบ คสช. เพื่อให้เป็นรัฐบาลรักษาการในช่วงเตรียมการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 265 เขียนไว้อย่างชัดเจนแล้ว ว่า คสช.ต้องทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ ก็ต้องเป็นไปตามนั้น “การที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้งเสนอให้ยุบ คสช. นั้นจึงเป็นไปไม่ได้ ถ้าสงสัยอะไรให้ไปดูคำตอบก่อนหน้านี้”

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคการเมืองใหม่ประกาศสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตอนนี้ก็สนับสนุนกันหมด เพราะเป็นเรื่องการเมืองที่เดินกันไป ซึ่งก็มี 2 พวก คือ พวกที่สนับสนุน กับพวกที่ไม่สนับสนุน ก็มี 2 ฝ่ายเสมอ คือฝ่ายหนึ่งต้องการปฏิรูป อีกฝ่ายไม่ต้องการปฏิรูป หรือฝ่ายหนึ่งต้องการให้ทุกอย่างกลับไปเหมือนเดิม ก็จะมีความวุ่นวายแบบเดิมๆ อีกฝ่ายไม่ต้องการให้เกิด สรุปก็ไม่ความพอดีสักอย่าง ก็เป็นตัวชี้ว่า อนาคตข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นมา ซึ่งมันก็ไม่แน่ อาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องติดตามความเคลื่อนไหวของแต่ละพรรคการเมือง ในขณะนี้การออกมาพูดจาของพรรคการเมือง และนักการเมืองต่างๆ ก็ต้องดูว่า เขาพูดอะไรมีวัตถุประสงค์อะไร ส่วนหน้าที่ของ คสช.จะต้องดูความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองเป็นหลัก เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองพรรคใด ถ้าเป็นต้นเหตุหรือสาเหตุ ที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย ความขัดแย้ง ความรุนแรง หรือความไม่สงบเกิดขึ้นก็ต้องไปพิจารณาตามกฎหมายว่าควรจะดำรงอยู่ต่อไปหรือไม่อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองหรือนักการเมืองก็ตาม

“วันนี้อย่าลืมว่า คสช.ยังมีอำนาจอยู่ตรงนี้ในการรักษาความสงบของบ้านเมือง ซึ่งทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้วแต่ก็ยังอยากจะฝ่าฝืนกันอีก” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าเสน่ห์ของตัวเองอยู่ตรงไหน ทำไมพรรคการเมืองใหม่จึงพร้อมทาบทามให้เป็นนายกฯคนนอก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “มันเกี่ยวกับเสน่ห์ตรงไหน เสน่ห์เป็นเรื่องของการจีบสาว ตอนนี้ผมไม่ได้จีบสาว ผมไม่มีเสน่ห์หรอก พูดจาก็เป็นแบบนี้ เสน่ห์คงไม่มีเท่าไหร่”

เมื่อถามว่ารู้สึกกดดันหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้รู้สึกกดดันเลย เพราะตนไม่ได้คิดอะไรมาก บอกแล้วว่าทั้งหมดอยู่ที่ประชาชนจะตัดสินใจ มีความต้องการจะให้ประเทศชาติเป็นอย่างไรต่อไป ต้องการปฏิรูปหรือไม่ เป็นเรื่องที่ประชาชนจะตัดสินในการเลือกตั้ง ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการกำหนดนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ส.ส.การลงพื้นที่เพื่อไปเลือกตั้ง ก็ต้องเสนอนโยบายออกมา ว่าแต่ละพรรคการเมือง เสนอนโยบายอะไรออกมาบ้าง โดยเฉพาะนโยบายทางการเมืองของแต่ละคน วันนี้พูดกันแต่เรื่องเลือกตั้ง กฎหมายเลือกตั้ง วนอยู่ตรงนี้เพียงเรื่องเดียว ในส่วนที่รัฐบาลเองก็พยายามพูดในเรื่องของการทำงาน เรื่องของอนาคต แต่ก็ถูกโจมตีในเรื่องทางการเมืองอย่างเดียว เป็นเช่นนี้ประเทศไทยก็ไปไหนไม่ได้ ทุกคนต้องมาช่วยกัน วิเคราะห์ว่าบ้านเมืองจะเดินไปอย่างไร เมื่อเข้าไปอยู่ในกระบวนการเลือกตั้ง เราควรจะวางตัวอย่างไร ต้องวางอนาคตให้ประชาชนเห็น

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนความเห็นที่เสนอให้ตนลาออกจากตำแหน่งหาจะตัดสินใจลงเล่นการเมืองนั้น ก็สงสัยว่าในสมัยก่อนเวลาที่นักการเมืองเป็นรัฐบาล เขาลาออกกันหรือไม่ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ มันเป็นคนละเรื่องกันทั้งหมด ขอร้องว่าอย่าไปทำให้เกิดการบิดเบือน อย่าทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันอีก เพราะไม่เช่นนั้นประชาชนก็จะรังเกียจ คสช.เกลียดตน “อยากให้ย้อนกลับไปดูในสมัยก่อน นายกรัฐมนตรีซึ่งก็เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ประกาศลงเลือกตั้งก็สามารถลงไปหาเสียงได้ ในขณะที่ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ด้วยซ้ำไป วันนี้ผมยังไม่ได้เป็นอะไรสักอย่าง แล้วผมก็ไม่ได้หาเสียงด้วย ยังทำงานอยู่อย่างหนัก เพื่อจะทำให้ประเทศชาติเกิดการเปลี่ยนแปลง”

เมื่อถามว่า ได้คุยกับ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีต ส.ส.พรรคความหวังใหม่หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทำไมต้องคุย เมื่อถามอีกว่า พ.อ.สุชาติเป็นเพื่อนกับนายกฯ ไม่ใช่หรือ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เพื่อนผมมีตั้ง 200 คน ไม่ได้คุยทุกคน คุยกับพี่อ้อ (พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาฯ นายกฯ)

ไม่มีความคิดเห็น: