PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ในห้วงแห่งความระส่ำ

ยังไม่มีปัจจัย “เลื่อน” เลือกตั้ง

ไม่ใช่แค่แกนนำ คสช.หัวขบวนอำนาจพิเศษต้องคอยยืนยัน ย้ำโรดแม็ปเลือกตั้ง

ที่ปักธงไว้วันที่ 24 ก.พ.2562 ล่าสุดเป็นคิวของนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ต้องช่วยสำทับโปรแกรม
หลังจากที่ตัวแทนพรรคเล็ก ในนามสหพรรคยื่นหนังสือถึง กกต.ขอให้เลื่อนเลือกตั้ง

อ่านท่าที “อำนาจพิเศษ” ก็พร้อมจะปล่อยมือ ขณะที่ “กรรมการ” เตรียมไปรอคุมเกมในสนาม ส่วนผู้เล่นทีมใหญ่เร่งวอร์มเครื่องจัดทัพก่อนออกสตาร์ตกันแล้ว จะมีก็เพียงพรรคเล็กพรรคน้อยคอยกระตุกคิว

สัญญาณเดิมยังไม่เปลี่ยนแปลง เว้นแต่เกิดเหตุฉุกเฉิน นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง

เอาเป็นว่า สแกนคลื่นความถี่ ณ ห้วงนี้ คงต้องจับตาไปที่ป้อมค่ายการเมือง ที่เริ่มได้บทสรุปชัด ใครจะอยู่สังกัดใด ตามเงื่อนไขกติกา ต้องสังกัดพรรคให้ครบ 90 วัน เส้นตาย 26 พ.ย.นี้ ต้องเข้าค่ายตีตราให้เสร็จ

ล่าสุด ค่ายเอสเอ็มอีอย่างชาติพัฒนา ที่ถึงคิวคนรุ่นต่อไป ถึงแม้หน้าอาจไม่ใหม่ทางการเมือง แต่แนวคิดแนวทางเข้ายุคสมัย “เทวัญ ลิปตพัลลภ” ขึ้นแท่นหัวหน้าพรรค “ดล เหตระกูล” นั่งเลขาธิการพรรค

ส่วน “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ฉีกตัวไปประคองน้องชายที่รับไม้ต่อ

พรรคชาติพัฒนามารอบนี้ ชูสโลแกนประจำค่าย ที่หยิบยืมวาทกรรมติดปาก “น้าชาติ” พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกฯผู้ล่วงลับ มาใช้เข้าจังหวะบ้านเมือง ตามสไตล์ของพรรค

“โนพรอบเบลม” ชาติพัฒนา ไม่มีปัญหากับใคร

พรรคการเมือง “สายกลาง” ยืดหยุ่นสูง สเปกตัวแปรชั้นดี

ที่แน่นอน งานนี้คำว่าโคราช กับพรรคชาติพัฒนาถูกท้าทายหนักเหมือนทุกครั้ง รอบนี้ถ้าสแกนรายชื่อ ต้องจับตา 2 รองหัวหน้าพรรค “พงษ์ศิริ กุสุมภ์” อดีต ส.ว.นครราชสีมา “ธงชัย ลืออดุลย์” อดีตพ่อเมืองโคราชชาติพัฒนาโชว์ไต๋เด็ดสู้โปรแกรมเดือด รักษาฐาน

แต่ที่ยังแกว่งอยู่ น่าจะเป็นเครือข่ายที่เคยร่วมงานในร่มเงานายใหญ่ ที่เหลือ 2 ค่ายหลัก เพื่อไทย–ไทยรักษาชาติ ที่ “2 เจ๊” ไล่เช็กชื่อยื้อแย่งชิงตัว ชนิดต่อสายตรงถึงลูกทีมรายคน จนกระอักกระอ่วนไปตามกัน

สถานการณ์ไม่สู้ดี จน “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตผู้นำ ต้องเคลื่อนฐานมาที่สิงคโปร์

เร่งเขย่าสูตร เบรกศึกเจ๊ๆก่อนพังพาบทั้งขบวน

ไม่รวมลูกทีมที่ทยอยแหกค่าย ล่าสุดมีร่องรอยไม่ปกติ

ป้อมค่าย จ.กำแพงเพชร กำลังถูกทลาย

โดยลอตนี้ “วราเทพ รัตนากร” อดีตรัฐมนตรีตั้งแต่รัฐบาลไทยรักไทย จ่อนำลูกทัพเมืองชากังราว ทั้ง พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์–อนันต์ ผลอำนวย–ไผ่ ลิกค์–ปริญญา ฤกษ์หร่าย

จ่อไปเปิดตัวกับพลังประชารัฐ

สะเทือนเลื่อนลั่น แรงสั่นไหวกระแทกขั้วนายใหญ่หลายแมกนิจูด

ยังไม่รวมร่องรอยแปลกๆจากเมืองเชียงใหม่ กับทายาท “เตริยาภิรมย์” ของ “นายบุญทรง เตริยาภิรมย์” อดีต รมว.พาณิชย์ อาจโยกตามไปด้วย

โดยโยงไปกับปมจำนำข้าวที่ “บุญทรง” ถูกจำคุก ในจังหวะอดีตผู้นำหญิงเผ่น–เบี้ยวแผน

“เจ็บ” และ “จุก” อาจถึงเวลาทางใครทางมัน “จัดคืน”

แต่ที่ฮือฮา ในส่วนของ “วราเทพ” ถือเป็นขุมกำลังเกรด “เอบวก” มืองานสมัยรัฐบาลไทยรักไทย ระดับ “สายตรง” จนกระทั่งยุคเพื่อไทย ได้ชื่อว่าขุนพลเอกอยู่ในซุ้ม “วังบัวบาน” ของ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์

เมื่อสายลมของการเปลี่ยนแปลงมาถึง หลังผ่านศึกเหนือเสือใต้ ร่วมทุกข์สุขมากับสังกัดเก่า ชนิดปักหลักอยู่แนวหน้า เผชิญกับความสุ่มเสี่ยง กระทั่งเรื่องการสูญสิ้นอิสรภาพมาแล้ว

คำว่า “บุญคุณ” อย่างไรก็คงทดแทนกันไม่มีวันจบ

ขณะที่ชีวิตจริง มีหลายปัจจัยทำให้ต้อง “ตัดสินใจ”

วาระร้อน “วราเทพ” และลูกทีมขยับย้ายค่าย กลายเป็นปัจจัยพลิกผันครั้งสำคัญ ที่ทำ “เพื่อไทย” ระส่ำ

“เจ้าแม่วังบัวบาน” ซวนเซหนัก “ทักษิณ” นั่งไม่ติด.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: