PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เสพติดประชานิยม ความล่มจมจะตามมา

คนที่ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ ย่อมไม่สามารถหายใจด้วยตัวเองได้ คนที่อาศัยขาของคนอื่นยืน ก็ย่อมไม่สามารถยืนด้วยขาของตนเองได้ ฉันใดก็ฉันนั้น คนที่มีชีวิตอยู่ด้วยการรอรับความช่วยเหลือจากผู้อื่นตลอดเวลา ก็ย่อมตกเป็นทาสของผู้ให้วันยังค่ำ


การที่รัฐบาลใดๆ ก็ตามมอมเมาประชาชนด้วยนโยบายประชานิยมสารพัดชนิด แล้วอ้างว่านโยบายนี้คือการช่วยเหลือประชาชนให้สามารถลืมตาอ้าปากและดำรงชีวิตต่อไปได้ คนที่รู้ทันแผนชั่วร้ายของรัฐบาลเช่นนี้ ต่างลงความเห็นตรงกันว่า นั่นคือคำแก้ตัวที่ไม่มีมูลความจริงแม้แต่น้อย แล้วก็ไม่เคยมีประเทศใดที่เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาได้ด้วยนโยบายประชานิยม

ประเทศไทยเคยมีรัฐบาลที่ใช้นโยบายประชานิยมมอมเมาประชาชนมาแล้ว และประเทศไทยก็เคยมีพรรคการเมืองไร้ปัญญาบางพรรคที่ประกาศว่านโยบายประชานิยมทำให้ประชาชนเป็นสุข ส่วนประชาชนบางกลุ่มก็หลงใหลได้ปลื้มไปกับนโยบายเบาปัญญาเช่นนี้ เพราะคิดว่านโยบายนี้คือการช่วยเหลือประชาชน แต่สำหรับประชาชนผู้มีความคิด จะรู้สึกขยะแขยงและรังเกียจนโยบายมอมเมาเช่นนี้ เพราะผู้มีสติปัญญาต่างรู้ดีว่านโยบายนี้คือการใช้เงินของประเทศเพื่อซื้อคะแนนนิยมทางการเมืองจากประชาชน และผู้มีปัญญาต่างเข้าใจตรงกันว่าการที่รัฐบาลเบาปัญญาใช้นโยบายเช่นนี้ ก็มีเป้าหมายเพียงเพื่อให้ได้ชัยชนะทางการเมืองเท่านั้น

การช่วยเหลือประชาชนผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยนโยบายที่ดีและเป็นประโยชน์อย่างแท้จริงของรัฐบาลผู้มองการณ์ไกล มิใช่การหว่านหรือแจกเงินให้กับประชาชน เพราะการกระทำที่เบาปัญญาเช่นนี้ไม่สามารถช่วยให้ประชาชนยืนบนลำแข้งของตัวเองได้ตลอดไป

รัฐบาลที่มีความหวังดีโดยแท้จริงกับประชาชนจะต้องกำหนดนโยบายที่นำไปสู่การสร้างงานและสร้างอาชีพที่ยั่งยืนมั่นคงให้กับประชาชน แล้วสอนให้ประชาชนตระหนักในคุณค่าและความสามารถของตนเอง ส่วนรัฐบาลมักง่ายจะกระทำในสิ่งตรงกันข้าม เพราะรัฐบาลมักง่ายหวังเพียงชัยชนะทางการเมือง และหวังให้ตนเองมีอำนาจการเมืองเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงปัญหาสาหัสของสังคมที่จะติดตามมาในอนาคต

การที่รัฐบาลหว่านเงินให้กับประชาชนก็ไม่ต่างไปจากการที่รัฐบาลยื่นยาเสพติดให้ประชาชน แน่นอนว่าประชาชนบางกลุ่มย่อมยินดีที่ตนเองได้รับเงินฟรีๆ จากรัฐบาล แต่สำหรับประชาชนที่มีความคิดและมีจิตสำนึกเพื่อส่วนรวมแล้ว เขาจะต้องถามกลับโดยทันทีว่าเงินที่รัฐบาลนำมาหว่านนั้นมาจากไหน แน่นอนว่าเงินที่ถูกหว่านนั้นย่อมไม่ได้มาจากกระเป๋าหรือจากกำปั่นเงินส่วนตัวของรัฐบาล แต่เงินนั้นมาจากเงินของแผ่นดิน ซึ่งก็คือเงินภาษีอากรของประชาชนทั้งประเทศ

ประชาชนผู้มีปัญญาย่อมรู้ดีว่ารัฐบาลที่มีความหวังดีและจริงใจต่อประชาชนโดยแท้จะต้องใช้เงินภาษีอากรของแผ่นดินเพื่อก่อให้เกิดผลประโยชน์อย่างยั่งยืนและสูงสุดต่อประเทศชาติ มิใช่ผลาญเงินของแผ่นดินด้วยการนำเงินไปซื้อคะแนนนิยมจากประชาชน

หากเราทุกคนไม่ต้องการให้ประเทศชาติของเราล่มสลาย ประชาชนผู้มีจิตสำนึกและหวังดีต่อแผ่นดินจะต้องคัดค้านรัฐบาลที่ใช้นโยบายประชานิยม และต้องตั้งคำถามว่า ทำไมรัฐบาลจึงไม่นำเงินตราของแผ่นดินไปใช้กับนโยบายที่สร้างความเจริญเติบโตอย่างถาวรให้ประเทศชาติ เหตุใดจึงนำเงินตราที่มีเพียงจำกัดของแผ่นดินไปใช้ซื้อคะแนนนิยมทางการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: