PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2561

4รมต.ไม่ออก

พปชร.ตั้ง 11 อรหันต์เฟ้นผู้สมัคร

วันเดียวกันเวลา 13.00 น. ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดประชุมใหญ่ครั้งที่ 2 เพื่อลงมติเลือกกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.จำนวน 11 คน มีนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พปชร. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรคการเมือง นายอิทธิพล คุณปลื้ม ผอ.พรรค นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค พร้อมกรรมการบริหาร และพร้อมสมาชิกกว่า 500 คนเข้าร่วมประชุม นายอุตตมเปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเลือกกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.จำนวน 11 คน แบ่งเป็นกรรมการบริหารพรรค 4 คน ได้แก่ นายสนธิรัตน์ นายณัฏฐพล นายอิทธิพลและนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ประเภทตัวแทนสมาชิก 7 คน ได้แก่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายวิรัช รัตนเศรษฐ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล นายสุชาติ ตันเจริญ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่าและนายสุพล ฟองงาม พร้อมเริ่มทำงานทันที เมื่อได้ข้อสรุปตัวว่าที่ผู้สมัครจะส่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณา ก่อนส่งให้ กกต.ภายในเดือน ม.ค.2562

ให้ กกต.กำหนดบัตรเลือกตั้ง

เมื่อถามถึงเสียงเรียกร้องให้กลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง แบบบัตรเดียวเบอร์เดียว นายอุตตมตอบว่า เราเคารพในกฎกติกาการเลือกตั้ง เชื่อว่า กกต.ต้องรับฟังความเห็นทุกฝ่าย เพื่อให้การเลือกตั้งเกิดความเป็นธรรม เป็นที่รับได้ เมื่อถามว่าหลายพรรคออกมาคัดค้านไม่เห็นด้วยกับการตัดโลโก้และชื่อพรรค ออกจากบัตรเลือกตั้ง นายอุตตมตอบว่า สำคัญที่สุดผลสรุปออกมาอย่างไรต้องเกิดความเป็นธรรมกับทุกพรรค ไม่ก่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ปล่อยให้ กกต.ตัดสินใจ และต้องชี้แจงเหตุผลที่ชัดเจน สำหรับพลังประชารัฐไม่ว่าหน้าตาบัตรเลือกตั้งออกมาอย่างไร ถ้าเป็นธรรมเราพร้อม คิดว่าการตัดโลโก้และชื่อพรรค ไม่ทำให้พลังประชารัฐไม่ได้เปรียบอย่างที่วิจารณ์กัน

ออกลูกพลิ้วไขก๊อกเมื่องานจบ

เมื่อถามว่า ไทม์ไลน์เลือกตั้งเริ่มชัดเจนแล้ว 4 รัฐมนตรีจะลาออกเมื่อใด นายอุตตมตอบว่า ให้รอดูเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม รัฐมนตรีทั้ง 4 คนล้วนมีภารกิจต้องทำเพื่อประเทศชาติ และตั้งใจจริงจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ให้งานต่างๆเสร็จสิ้นสมบูรณ์ อยากให้ดูว่าปัจจุบันนี้เราได้ทำอะไรที่หลุดออกไปจากกรอบหรือไม่ เราไม่ได้เอาเปรียบพรรคอื่น เมื่อถามย้ำว่าจะลาออกก่อนหรือหลังเปิดให้หาเสียง นายอุตตมตอบว่า เราต้องการทำงานให้สมบูรณ์ก่อน มิเช่นนั้นจะเกิดผลกระทบต่อประเทศ เราต้องการทำงานที่รับผิดชอบให้ถึงฝั่ง เมื่อถามถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์การจัดโต๊ะจีนระดมทุนเข้าพรรค 600 ล้านบาท นายอุตตมตอบว่า ฝ่ายกฎหมายของพรรคดูแลอยู่ ทำหนังสือถึง คสช. และ กกต. เพื่อขออนุญาตดำเนินการในส่วนนี้แล้ว ให้รอดู

ปรับแผนให้ 4 รมต.อยู่เป็นกันชน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังเกิดกระแสกดดันให้ 4 รัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ คือ นาย อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม หัวหน้าพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เลขาธิการพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โฆษกพรรค แสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่ง ล่าสุดผู้ใหญ่ในรัฐบาลปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ใหม่ ไม่ให้ 4 รัฐมนตรีลาออก เพราะไม่มีกฎหมายบังคับ และยังขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่จะเป็นประโยชน์กับพรรคได้ และเหตุผลสำคัญเพื่อเป็นกันชนและลดแรงเสียดทานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หาก 4 รัฐมนตรีลาออก และ พล.อ.ประยุทธ์ต้องมาอยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกฯของพรรค ต้องถูกกระแสเรียกร้องให้ลาออกหนักหน่วงแน่ อาจส่งผลต่อคะแนนนิยมในตัว พล.อ.ประยุทธ์และพรรคได้

“สุวิทย์” ฮึ่มฟัน ขรก.เกียร์ว่าง

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เตรียมลงพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ในวันที่ 12 ธ.ค. ก่อนการประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.หนองคาย เพื่อดูโครงการโรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรม ที่วิทยาลัยเทคนิคหนองบัวลำภูสร้างแรงบันดาลใจสู่สายอาชีพ “นักนวัตกร” ผลิตนวัตกรรมใช้ได้จริง ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยยุค 4.0 หลังจากนี้เตรียมเดินหน้าตั้งกระทรวงใหม่ให้เร็วที่สุด ให้ทันในรัฐบาลนี้ ส่วนข้าราชการกระทรวงฯที่กำลังเกียร์ว่างไม่ยอมทำงาน หรือมอบหมายงานให้แล้วไม่ทำ บางหน่วยงานใช้งบประมาณไม่หมด ไม่มีประสิทธิภาพ หรือทำหนังสือขอเปลี่ยนแปลงให้หน่วยงานอื่นทำแทน พอเห็นว่าใกล้เลือกตั้งแล้วกลับทำหนังสือมาของบประมาณกลับไปดูแลเอง ทั้งที่ผ่านมาไม่ยอมทำงาน อย่าคิดว่าตนไม่รู้หรือคิดว่าไม่มีเวลาบริหาร หรือต้องลาออกก่อน ขอบอกว่าข้าราชการเหล่านั้นกำลังคิดผิด เพราะตนไม่เพียงยังไม่ลาออกในระยะอันใกล้นี้ ยังมีแผนจัดการกับพวกข้าราชการที่ชอบเกียร์ว่างด้วย

เอาแน่ชง “ประยุทธ์” อยู่ในบัญชี

นายสุวิทย์กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นพรรคเราตั้งเป้าว่าจะชนะใจประชาชน เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ส่วนตัวยังคงยืนยันสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหนึ่งในรายชื่อนายกฯของพรรค เพราะเป็นคนกำหนดวิสัยทัศน์ไทยแลนด์ 4.0 นโยบายประชารัฐลดความเหลื่อมล้ำ การแก้ปัญหาให้บ้านเมืองต้องมีความต่อเนื่อง และ พล.อ.ประยุทธ์คือความต่อเนื่องต่อจากนี้ ส่วนการจะสื่อสารด้านนโยบายให้ประชาชนเข้าใจเป็นเรื่องที่ท้าทาย ต้องทำให้ประชาชนเข้าใจภูมิทัศน์ใหม่ทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูปประเทศต่อเนื่อง การสร้างความเข้มแข็งสู่ท้องถิ่น ลดความเหลื่อมล้ำภายใต้โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ใช่เรื่องประชานิยม แต่เป็นการสร้างสังคม 2 แบบคือ เติมให้กับคนที่ขาด และคนที่เกินต้องรู้จักปัน หลังปลดล็อกให้หาเสียงได้ พรรคจะนำนโยบายเน้น 4 คำคือ สร้าง-เสริม-ปรับ-เปลี่ยน สร้างหลักประกันสังคม เสริมความเข้มแข็งฐานราก ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เปลี่ยนการ บริหารราชการไปสู่รัฐที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง มาทำความเข้าใจกับประชาชน

โฆษกปัดนายกฯชงตัดโลโก้พรรค

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการบริหาร พปชร. กล่าวชี้แจงกรณีมีข่าว พล.อ.ประยุทธ์ เสนอตัดโลโก้และชื่อพรรคในบัตรเลือกตั้งว่า ยืนยันว่านายกฯไม่ได้ เป็นผู้เสนอ แต่มีตัวแทน 1-2 พรรคสอบถามกับ กกต. และเรื่องนี้ยังเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นของ กกต. นายกฯเพียงระบุจะเลือกใครต้องจำให้ได้ ไม่ได้ไปก้าวก่ายการทำงาน กกต. ยืนยันไม่ได้เอื้อพรรคใดทั้งสิ้น เพราะเมื่อเข้าคูหาประชาชนคงไตร่ตรองมาแล้ว เชื่อในวิจารณญาณและการตัดสินใจของประชาชน อย่าคิดแทนและดูถูกประชาชน ส่วนที่มีข้อเสนอให้แก้ไข พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ในมาตรา 48 ให้พรรคการเมืองกลับมาใช้เบอร์เดียวทุกเขตเลือกตั้งนั้น รัฐบาลไม่ก้าวก่ายปล่อยให้เป็นหน้าที่ กกต.



ไม่มีความคิดเห็น: