PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2562

‘บิ๊กตู่’อวยพร‘4 รมต.’ประสบความสำเร็จ ‘สนธิรัตน์’ยกมาตรฐานเหนือกว่าพวกวิจารณ์



29 ม.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวภายหลังเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ตนขอแจ้งข่าวอย่างเป็นทางการว่า 4 รัฐมนตรี ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีอย่างเป็นทางการแล้ว โดยให้มีผลในวันที่ 30 ม.ค. เป็นต้นไป ซึ่งเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน (29 ม.ค.) เราทั้ง 4 คน ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ ตามที่ตั้งใจไว้แล้ว เพื่อกราบลาในฐานะที่มีโอกาสได้ร่วมทำงานในคณะรัฐมนตรีมา
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ 29 ก.ย.61 ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกของผู้ร่วมก่อตั้งพรรค พปชร. วันนั้นถือเป็นการเริ่มนับหนึ่ง เราทั้ง 4 คน ปรากฏตัวเป็นครั้งแรก และตนเคยพูดว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเราจะออกไปทำงานการเมืองเต็มตัว ในวันนั้นที่พูดไว้เราเป็นรัฐมนตรี มีความรับผิดชอบต่องานในหน้าที่ ได้ปฏิบัติตัวตามหน้าที่ที่รับผิดชอบ และทำตามกฎเกณฑ์กติกาจนมาถึงวันนี้ ซึ่งเราได้คุยกันแล้วว่าน่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสมจึงลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อไปทำงานกับพรรค พปชร.เต็มตัว มุ่งสู่การเลือกตั้ง
นายอุตตม กล่าวว่า การที่เราปฏิบัติตัวตามนี้ อยากจะให้ถือว่าเป็นแนวความคิดของเรา สะท้อนเจตนารมณ์และความเชื่อของเราตั้งแต่ต้นว่าเราทำอย่างโปร่งใส ทำงานการเมืองอย่างมีเป้าหมาย ก้าวสู่การเมืองด้วยความมั่นใจ เป็นไปตามนั้น ไม่ได้เอาการเมืองนำ แต่ทำงานการเมืองโดยเอาประโยชน์ของประเทศชาติ ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีวันนี้ถึงเวลาแล้วที่ภารกิจเสร็จสิ้นไปได้พอสมควร เราถึงมาทำงานการเมือง
“การเข้าพบนายกฯวันนี้นั้น นายกฯก็รับทราบมาตั้งแต่ต้นว่าเราจะเดินแนวทางนี้ นายกฯได้อวยพรขอให้สิ่งที่เรามุ่งหวังจะทำงานการเมืองนั้นให้ประสบความสำเร็จและคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ส่วนตำแหน่งที่ว่างลงใครมาแทนแล้วแต่นายกฯจะพิจารณา” นายอุตตม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า งานในตำแหน่งรัฐมนตรีสิ่งที่รับผิดชอบเสร็จหมดแล้วใช่หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ในความเห็นของเราสิ่งที่เราตั้งใจจะทำเสร็จครบถ้วน หลังจากนี้อาจจะมีการชี้แจงต่อไปอีกบ้าง ส่วนภารกิจไปโรดโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่นกับคณะของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีนั้น พวกเรายกเลิกการเดินไปทางด้วยแล้ว 
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวว่า โดยธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมานั้น ไม่เคยมีรัฐมนตรีที่ลาออก หลังจากมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้ว แรงกดดันที่มีต่อพวกเราตลอด 3 เดือนมานี้ เรารับด้วยความอดทน เพราะเป้าหมายการเข้าสู่การเมืองของเรา คือเพื่อพี่น้องประชาชน ไม่ได้เอาการเมืองนำการทำงาน เราน้อมรับคำวิจารณ์ ทางการเมืองทั้งสิ้น โดยไม่ได้อยู่บนบนหลักการหรือเหตุผลที่เคยปฏิบัติมา แต่เมื่อเราอาสามาทำงานทางการเมือง เราก็ต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ทางการเมือง ที่ไม่เอาความได้เปรียบทางการเมืองมาใช้ ทั้งนี้ ที่ต้องรอเวลามาถึงทุกวันนี้ก็เพราะว่าภารกิจงานด้านเศรษฐกิจนั้น ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งสื่อมวลชนเองก็คงจะได้เห็นผลงานของพวกเรา ที่ทำงานหนักตลอด 3-4 เดือนที่ผ่านมา
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า มาตรฐานเหล่านี้เราตั้งใจทำให้เห็น เช่น เราจะไม่ทำงานการเมืองหรือไม่ให้สัมภาษณ์ทางการเมืองในช่วงเวลาราชการ นั่นเพราะเราไม่อยากเห็นประเทศไทยใช้วาทกรรมทางการเมือง เราอยากเห็นการเมืองทำเพื่อประโยชน์ประชาชน มีความรับผิดชอบ การลาออกในวันนี้นั้น ไม่เคยมีใครปฏิบัติมาก่อน นักการเมืองที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรา ไม่เคยลาออกหลังมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง สำหรับพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เราได้รวบรวมผู้ที่มีอุดมการณ์เหมือนกัน เพื่อหาทางออกของประเทศ การลาออกครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพราะการกดดันจากใครทั้งสิ้น แต่เป็นการตัดสินใจของพวกเราเอง ที่ต้องการทำงานการเมืองอย่างตรงไปตรงมา
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เมื่อมาทำงานการเมืองเต็มตัวแล้ว พวกเรามีความมั่นใจ แต่ไม่ได้มั่นใจในตัวของพวกเราทั้ง 4 คน เพราะเรามั่นใจว่าประเทศไทยต้องการการเปลี่ยนแปลง ซึ่งด้วยประสบการณ์ของพวกเราและพรรคพลังประชารัฐเรามั่นใจ ว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะเดินหน้าทำงานการเมืองอย่างเต็มตัว ส่วนจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน ขอให้รอดูผลการเลือกตั้งเป็นหลัก เพราะเราต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชนพรรคพลังประชารัฐ จะทำหน้าที่เต็มความสามารถ หากได้รับความไว้วางใจก็จะทำหน้าที่นั้นต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น: