PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

สดศรี" รำพึงชีวิต 7 ปี กกต. ปิดฉากไม่ Happy Ending แค่ไม่ติดคุก ไม่อยู่เรือนจำ ก็พอใจ

"สดศรี สัตยธรรม" เป็นกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์การเมือง

เป็นหญิงเดียวในหมู่สี่ชาย เธอเคยเป็นถึงผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ได้รับมอบหมายให้ทำคดีเลือกตั้งมากมาย ไม่เคยถูกเรียกว่า "ไอ้" หรือ "อี"

แต่พลันที่เธอสวมหัวโขน กกต. ต้องสู้รบปรบมือกับนักการเมือง กลับต้องเจอสารพัดถ้อยคำที่เสียดแทง ทิ่มแทงหัวใจ

"สดศรี" กำลังจะหมดวาระในอีก 13 วันข้างหน้า เธอบอกว่า 7 ปีในตำแหน่ง มีทั้งสุขที่สุด และทุกข์ที่สุด บางครั้งทุกข์จนอยากลาออก

ทุกคำพูด ทุกความรู้สึก เธออนุญาตให้ "ประชาชาติธุรกิจ" ถ่ายทอดผ่านบทสัมภาษณ์ในบรรทัดต่อไป

- ความรู้สึก 7 ปี ที่เป็น กกต.

ถ้าในความรู้สึก เหมือนกับอยู่มานานแล้ว (หัวเราะ) เหมือนเป็นผู้พิพากษา 35 ปี ความรู้สึกว่าทำไมมันเนิ่นนานมาก จริงๆ ภารกิจ กกต.7 ปี เป็นภารกิจที่หนักหนาเอาการ เพราะเกี่ยวกับความแตกแยกทางการเมือง สิ่งที่หนักใจ คือเราจะทำยังไงให้อยู่ตรงกลางได้ โดยไม่ต้องถูกครหาว่าเป็นฝั่งเสื้อสีนั้น สีนี้ กกต.พยายามจะทำงานตามกฎหมายทุกอย่าง เราทำหน้าที่คล้าย ๆ กึ่งตุลาการในการวินิจฉัยข้อร้องเรียน มันจึงมีฝ่ายที่เราให้ชนะ และต้องมีฝ่ายหนึ่งแพ้ ฉะนั้น ฝ่ายที่แพ้ย่อมไม่พอใจแน่นอน และจะนำ กกต.ไปสู่การเมือง คิดว่า กกต.จะเอาใจทั้งสองฝ่าย เป็นไปไม่ได้ การทำงานต้องยึดตัวบทกฎหมายให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และอธิบายให้ได้ ว่าทำไมเราถึงวินิจฉัยอย่างนั้น

- เป็นผู้หญิงคนแรกที่เป็น กกต. และเป็นผู้หญิงคนเดียวแวดล้อมด้วยผู้ชาย 4 คน รู้สึกว้าเหว่ไหม

ไม่ว้าเหว่ค่ะ ตัวเองทำงานท่ามกลางผู้ชายมานานแล้ว ตอนที่เป็นผู้พิพากษาในรุ่นเดียวกันเข้ามา 140 คน มีผู้หญิงเพียง 6 คนเท่านั้น มีความรู้สึกว่าเราก็คือผู้ชายคนหนึ่ง ไม่มีการแบ่งแยกเพศกัน

- นักการเมืองโจมตีท่านเหมือนโจมตีผู้ชาย รับได้ไหม
ต้องรับให้ได้ เขาอาจมองเราเป็นคนสาธารณะ วิจารณ์เราได้ เราไม่ใช่ผู้พิพากษา เมื่อเข้ามาเป็น กกต.แล้ว หัวโขนผู้พิพากษาต้องถอดออก เราจะถือสาว่า เอ๊ะ..มาว่าเรา ฉันเป็นผู้พิพากษานะ ฉันทำงานในพระปรมาภิไธยนะ คุณว่าศาล ก็เหมือนกับว่าพระเจ้าอยู่หัว คุณว่าไม่ได้ เพราะตอนนี้เราไม่มีภูมิคุ้มกันเหมือนอย่างศาล ดังนั้น การทำงานของ กกต.ต้องยึดมั่นในความถูกต้อง อดทนเสียงวิพากษ์วิจารณ์

- การเป็นผู้หญิง จึงทำให้ถูกฝ่ายการเมืองมองว่าเป็นจุดอ่อน
เพศผู้หญิงเป็นเพศที่เขามองจุดอ่อนทั้งนั้น สังคมไทยยังไม่ยอมรับความสามารถของผู้หญิง

- 7 ปีที่ผ่านมา พิสูจน์ตัวเองได้หรือยังว่ามีความสามารถ
สามารถพิสูจน์ตัวเองว่า งานหลายเรื่องที่เริ่มต้นปรับปรุง เช่น ฐานข้อมูลพรรคการเมือง ขณะนี้เราไม่ถูกฟ้อง แต่ก่อนมีเรื่องราวมากมายที่เจ้าหน้าที่ถูกดำเนินคดี แต่หลังจากเข้ามาปรับปรุง ทุกอย่างก็ยุติลง ซึ่ง 7 ปีที่ผ่านมา สามารถทำงานให้กับ กกต.ได้คุ้มกับเงินเดือน

- มีสิ่งไหนที่ทำให้ดีใจ หรือเสียใจที่สุด
ขณะนี้ยังไม่รู้สึกว่าอะไรถึงที่สุดสำหรับตัวเอง การทำงานของตัวก็คิดว่ายังไม่ถึงที่สุด ยังไม่ประสบความสำเร็จถึงที่สุด และไม่รู้สึกว่ามีความเสียหายถึงที่สุด มีความรู้สึกว่าเราทำหน้าที่ของเราดีที่สุดแล้วแค่นั้น เพราะการทำงานของ กกต.ทำเป็นคณะกรรมการ เราทำงานคนเดียวไม่ได้ หลายอย่างที่คิดอยากจะทำ แต่ทำไม่ได้ ถ้าทำงานคนเดียวได้ one woman show (หัวเราะ) คิดว่าน่าจะทำได้ดีมากกว่านี้ หลายครั้งยอมรับว่าอึดอัดใจในการทำงานร่วมกับคนอื่น แต่เมื่อใช้เสียงข้างมาก เราต้องยอมตามเสียงข้างมาก อันนี้คงเป็นจุดหนึ่ง ว่าทำไมหลายหน่วยงานไม่ค่อยเดิน 7 ปีเต็มยอมรับว่าไปไม่ถึงไหน พูดกันตรง ๆ อยากให้ กกต.ชุดหน้าเข้มแข็งกว่า กกต.ชุดนี้ คนที่จะทำงานการเมือง หรือกึ่งการเมืองได้ ต้องเข้มแข็งอดทน และจะต้อง...อย่าเป็นฝั่งใดฝ่ายหนึ่ง (เน้นเสียง) และต้องอธิบายให้ประชาชนทราบได้ ว่าทำไมคุณวินิจฉัยอย่างนี้ อย่าไปกลัว ความกลัว มันทำให้เกิดความเสื่อม สิ่งไหนกลัวมาก มันเสื่อมมาก อย่าไปกลัว ตายเป็นตาย มีแค่นั้น

- หมายถึงมี กกต.บางคนยังไม่เข้มแข็งพอ
ไม่ใช่มีบางคน มันต้องเข้มแข็งทั้งกลุ่ม เข้าใจไหม ตัวเองก็ยังไม่เข้มแข็งพอ ไม่ใช่จะไปโทษคนอื่น หมายถึงว่า เรากล้าไปตัดสินเปรี้ยงปร้างลงไปไหม กล้าไหม ถ้าท่านไม่กล้า และท่านยังอยู่ในลักษณะแบบนี้ แน่นอนที่สุด เขาก็จะย้อนถามว่า ทำไมถึงตัดสินอย่างนี้ กล้าอธิบายได้ไหม ว่าทำไมถึงวินิจฉัยอย่างนั้น (เอานิ้วจิ้มโต๊ะ) มันสำคัญตรงนี้ กฎหมายว่าอย่างนี้ ทำไมถึงตัดสินครึ่ง ๆ กลาง ๆ ทำไม...เชื่อว่า กกต.ชุดหน้า ท่านต้องพยายามตอบคำถาม ว่าทำไมได้

- แสดงว่า กกต.ชุดนี้กล้าตัดสิน แต่ไม่กล้าออกมาชี้แจง ทำให้ถูกโจมตีบ่อยครั้ง
ก็อาจเป็นส่วนหนึ่ง ต้องชี้แจงได้ เพราะอะไร 1+1 เป็น 2 ถ้า 1+1 เป็น 3 ท่านจะต้องอธิบายได้ว่า เลขอีก 1 มาจากไหน อย่าหนีอีก 1 ที่เข้ามาเพราะอะไร ต้องตอบคำถามนี้ให้ได้

- ที่ผ่านมา เหมือนท่านออกมาอธิบายคนเดียว จนทำให้ตกเป็นเป้า
(สวนทันที) เนื่องจากตัวเองเป็นคนชอบสู้ ตั้งแต่เป็นผู้พิพากษา เคยได้รับความไม่ถูกต้องแล้วสู้ สู้จนคนเขายอมรับว่าเป็นผู้หญิงคนเดียวที่กล้าสู้กับความไม่ถูกต้อง ไม่ใช่ยกยอตัวเองว่าฉันเป็นคนยุติธรรม แต่ถ้ากล่าวหาว่าเราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เราเฉยซะ แสดงว่าเรายอมรับ

การที่ตัวเองออกมาพูดแก้ข่าวอยู่ตลอดเวลา ทำให้บางคนคิดว่าอยากดัง อยากโชว์ออฟ แต่จริง ๆ ไม่ใช่ นี่คือนิสัยตั้งแต่เกิดมาเป็นตัวเป็นตน ถ้าไม่ถูกต้อง ต้องพูด ตอบคำถามได้ ว่าทำไม จะไม่หนีหน้าใคร ถ้าหนีหน้า ก็ยอมรับว่าสิ่งที่เราทำมันไม่ถูก ถ้าตอบไม่ได้ คุณก็ไม่ต้องอยู่องค์กรนี้ ต้องอยู่องค์กรนี้ไม่ได้

- แต่การชี้แจงของเรากลับเดินไปคนละทางกับ กกต.อีก 4 คน จนบางครั้งเหมือนถูกโดดเดี่ยว
ไม่โดดเดี่ยวนะ พอเราอธิบายแล้ว ฝั่งที่เราบอกว่าไม่ถูกต้อง เขาก็ยอมรับว่าไม่ถูกต้องจริง มาเป็นกลุ่มเรา แต่ถามว่า...เอ่อ..เพื่อนเราซึ่งทำงานอยู่ด้วยกันขัดแย้งกับเรา ท่านอายไหมล่ะว่าฝั่งที่ไม่ถูกต้องเขายอมรับว่าที่เราพูดน่ะจริง 7 ปีที่ผ่านมา ตัวเองไม่เคย blame (ตำหนิ) ใคร โอเคฉันมีความเห็นอย่างนี้ จะไม่มีว่าคุณไม่ถูกต้อง ก่อนที่จะบอกว่าคุณไม่ถูกต้อง ถามว่าสิ่งที่ถูกต้องจริง ๆ คืออะไร ต้องรู้ ต้องเข้าใจ ไม่ใช่เพื่อนว่าอย่าง ฉันไม่ชอบ ฉันจะต้องพูดอีกอย่าง ไม่ใช่อย่างนั้นเลย ไม่ใช่นิสัยของคนคนนี้

- เคยพูดเอาไว้ว่า พอพ้นวาระจะเขียนหนังสือชื่อ "ชีวิตบัดซบ กกต." วันนี้จะใช้ชื่อเดิมไหม
(หัวเราะ) ก็อาจจะใช้ทำนองนั้น แต่อาจสุภาพกว่านี้ คือคิดว่าชีวิตมนุษย์ที่ผ่านมามีอะไรเยอะแยะไปหมด มีทั้งบทเรียน มีทั้งสิ่งที่กระทบใจเรา สิ่งที่มีความสุข มีหมดทุกอย่าง อยากเขียนหนังสือนะ อยากให้รู้ว่า การเป็น กกต.ไม่ได้เป็นกันง่าย อย่าคิดว่าเป็น กกต.แล้วมีอำนาจ อำนาจเป็นของร้อนมาก ถือไว้ก็พอง มีความทุกข์ อย่าคิดว่าเป็น กกต.แล้วเป็นเรื่องดี นำมาซึ่งอำนาจ เงินทอง ไม่จริง สิ่งเหล่านี้มันเป็นเพียง..หน้าฉาก สิ่งที่เลื่อนลอย คิดกันเอง

จริง ๆ แล้ว การเป็น กกต.เป็นความทุกข์อย่างหนึ่ง ถ้าท่านอยากมีความสุข อยู่ในอาชีพเดิมดีที่สุด การเป็นผู้พิพากษา เป็นอาชีพที่เราได้รับการยกย่อง คำว่าอี นาง อี..อีสัตว์ (เสียงเข้ม) มันจะไม่มีในวงการของเรา เรามีแต่คำว่าใต้เท้า มีแต่ท่าน แต่ถ้าท่านหลุดมาจากศาลเมื่อไหร่ คุณก็ต้องยอมรับ ว่าคุณต้องโดนเขาด่า คุณทนได้ไหม ถ้าทนได้ มาเป็น กกต.ได้เลย

- วันนี้ กกต.กำลังปิดฉาก Happy Ending ยังคิดใช้ชื่อเรื่อง "ชีวิตบัดซบ กกต." อีกเหรอ
ชีวิตของการเป็น กกต.มันเป็นชีวิตที่มีทั้งทุกข์ทั้งสุขอยู่รวมกัน ถ้าทุกข์มันทุกข์มาก ทุกข์มากถึงขนาดอยากจะออก แต่ทนได้ และสามารถผ่านมาได้ คำว่า Happy Ending คงจะใช้กับ กกต.ชุดนี้ไม่ได้ เราไม่ได้ Happy Ending เท่าไหร่ เชื่อว่าทุกคนไม่มีความรู้สึกว่ามีความสุขเมื่อจบแล้ว คิดว่า 7 ปี เราหมดทุกข์แล้วนะ แค่นั้น

ถ้า Happy Ending ต้องไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย 7 ปี ทำงานสบายมาก (เสียงสูง) ทุกคนไม่มีใครว่าเรา การเมืองตกลงกันได้ มีรัฐบาลแห่งชาติ ไม่มีฝ่ายค้าน ทำงานสบาย ๆ ไปเรื่อย ๆ นี่คือ Happy Ending

- ไม่ได้จบสมหวังทุกฝ่าย แต่จบแบบเศร้า เคล้าน้ำตา เป็นละครดราม่า
(สวนทันที) ไม่..เรามีความรู้สึกว่า จบโดยที่เรายังไม่ต้องติดคุก ไม่ต้องมีคนมาประกันตัว หรืออยู่ในเรือนจำ เราก็พอใจ เพราะทุกครั้งที่ประชุมกัน ก็จะมีการพูดเรื่องนี้ว่า ผมไม่ตายคนเดียว ผมตายด้วยกัน แล้วตัวเองก็จะพูดอยู่เรื่อยว่า ดิฉันอยู่ขังแปดนะ คุณจะมาอยู่ขังแปดอย่างดิฉันไม่ได้หรอก ก็พูดเล่น ๆ กันอย่างนี้ นี่คือความทุกข์ในใจ (เอานิ้วจิ้มที่อก) เพราะเราผ่านการเป็นผู้พิพากษามาแล้ว เรารู้ว่าการถูกตัดสินว่าเป็นจำเลย มันเศร้ามาก จากเรานั่งบนบัลลังก์แล้วลงมาเป็นจำเลย มันเป็นความทุกข์ของคนที่จากผู้พิพากษามาเป็นตำแหน่งนี

- รู้สึกโล่งใจไหม ที่ยังไม่ถึงจุดนั้น
ความระแวงยังไม่หมด คดีความยังมีอยู่ (หัวเราะ) ยังไม่รู้ เพราะเราไม่รู้ว่าผู้พิพากษาจะคิดอย่างไร การตัดสินของศาล เราคาดเดาไม่ได้ว่าจะวินิจฉัยออกมาอย่างไรในกรณีที่ฟ้องเรา

- หลังจากพ้นวาระไป จะทำอะไรต่อ
ตอนนี้ยังไม่ได้คิด ความจริงอยากทำงานศาล แต่คงไม่คิดกลับไปเป็นผู้พิพากษา อาจเป็นงานอื่นในกระบวนการยุติธรรม จะถนัดกว่า มากกว่าจะกลับไปเป็นผู้พิพากษาอาวุโส ถึงกลับได้ ก็คิดว่าไม่กลับ

- กกต.ชุดหน้าจะเป็นไหม จะต้องเป็นผู้พิพากษา
ไม่จำเป็น แต่ต้องเป็นนักกฎหมาย ต้องรู้เรื่องกฎหมายเยอะมาก งาน กกต. 80 เปอร์เซ็นต์เป็นงานกฎหมาย ฉะนั้น ถ้ามีกฎหมายอยู่ในมือ แต่เป็นคนที่ไม่เชี่ยวชาญกฎหมายเลย จะลำบากมาก ท่านจะต้องเข้าใจว่ากฎหมายเลือกตั้งเป็นยังไง ถ้า กกต.ชุดหน้ามาจากครู อาจารย์ หรือเป็นหมอ ยากมากที่ท่านจะต้องมานั่งศึกษา ท่านต้องระวังว่าคนจะหลอกท่าน

Cr.ประชาชาติธุรกิ

ไม่มีความคิดเห็น: