PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556

"ปปช."ยันยุบสภาไม่มีผลยังมีอำนาจไต่สวนคดีถอดถอน 383 ส.ส.-ส.ว.แก้รธน.ที่มาส.ว

"ปปช."ลั่น"ยิ่งลักษณ์"ยุบสภาไม่มีผลต่อการทำหน้าที่ ยันยังมีอำนาจไต่สวนคดีถอดถอน 383 ส.ส.-ส.ว.แก้รธน.ที่มาส.ว.

ขอเรียนเพื่อความเข้าใจอันดีของสื่อมวลชนทั้งหลายว่าการยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่มีผลเพียงให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 106 (1) เท่านั้น หาได้กระบต่ออำนาจหน้าที่ของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่ประการใดไม่ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังคงมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดได้ตามนัยมาตรา 43 (1) และ (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2556 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2556 โดย กรณีการถอดถอนออกจากตำแหน่งเมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ไต่ส่วนข้อเท็จจริงแล้วเสร็จ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ต้องทำรายงานเสนอต่อวุฒิสภาเพื่อพิจารณาต่อไป เนื่องจากหากผู้ใดถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งจะมีผู้ให้ผู้นั้นถูกตัดสิทธิในการดำรงตำแหน่งในทางการเมืองหรือในการรับราชการเป็นเวลา 5 ปี มาตรา 272 มาตรา 273 และมาตรา 274 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและสำหรับการดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดังกล่าวนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังคงมีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงได้ต่อไปตามบทบัญญัติมาตรา 275 ของรัฐธรรมนูญฯ ประกอบมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2554

ปปช.รายงานความคืบหน้า กรณีหาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า การกระทำความผิดต่อตำแหน่งที่ราชการฯ และกรณีร้องขอให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 270 กรณีเสนอร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ. เกี่ยวกับที่มาของสมาชิกวุฒิสภาโดยมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้แถลงข่าวเรื่อง กรณีกล่าวหาผู้ดำรงตำแหน่งทงการเมืองว่ากระทำ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการฯ และกรณีร้องขอให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 270 โดยได้มีการกำหนดกรอบแนวทางและกรอบระยะเวลาในการไต่สวนเบื้องต้นแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2556 ประธานวุฒิสภาได้มีหนังสือ แจ้งว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์และคณะ ได้ยื่นคำร้องเพื่อให้วุฒิสภาถอดถอนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมากชิกวุฒิสภารวม 383 คน ออกจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ช.จะ

ได้นำเรื่องดังกล่าวรวมพิจารณากับเรื่องที่ อยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป

ส่วนการที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า ได้ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2556 เพื่อทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยแล้วนั้น จะมีผลกระทบต่อกระบวนการ

ไต่สวนถอนถอนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาดังกล่าวข้างต้นหรือไม่ ขอเรียนเพื่อความเข้าใจอันดีของสื่อมวลชนทั้งหลายว่าการยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่มีผลเพียงให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 106 (1) เท่านั้น หาได้กระบต่ออำนาจหน้าที่ของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่ประการใดไม่ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังคงมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดได้ตามนัยมาตรา 43 (1) และ (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2556 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2556 โดย กรณีการถอดถอนออกจากตำแหน่งเมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ไต่ส่วนข้อเท็จจริงแล้วเสร็จ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ต้องทำรายงานเสนอต่อวุฒิสภาเพื่อพิจารณาต่อไป เนื่องจากหากผู้ใดถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งจะมีให้ผู้นั้นถูกตัดสิทธิในการดำรงตำแหน่งในทางการเมืองหรือในการรับราชการเป็นเวลา 5 ปี มาตรา 272 มาตรา 273 และมาตรา 274 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและสำหรับการดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดังกล่าวนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังคงมีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงได้ต่อไปตามบทบัญญัติมาตรา 275 ของรัฐธรรมนูญฯ ประกอบมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2554

ทั้งนี้ ขณะนี้เรื่องดังกล่าวคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้เตรียมการแจ้งคำสั่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้แก่ผู้ถูกกล่าวหา และเชิญผู้กล่าวหามาให้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม รวมถึงจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น: