PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2556

จักรภพ เพ็ญแข: จดให้ดี-จดให้ครบ

December 3, 2013


ยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ที่ไม่ตอบโต้ม็อบด้วยมาตรการอันรุนแรงเกินกว่ามาตรฐานสากล เป็นความฉลาดอย่างเอกอุ และจะวางรากฐานที่มั่นคงให้กับระบอบประชาชนของเราสืบไป สำหรับชัยชนะอันถาวรในอนาคต ล่าสุดผู้บัญชาการตำรวจนครบาลแถลงว่า จะเปิดประตูกองบัญชาการฯ ให้ฝูงชนที่ต้องการเข้า “ยึด” ตามคำสั่งของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เมื่อคืนนี้ สามารถทำอะไรได้ทุกอย่างตามความต้องการ ซึ่งเป็นท่าทีที่อนุวัตรตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาลนั่นเอง ส่วนพวกเราที่ถูกสังหารอย่างเลวร้าย ถูกทำร้ายอย่างป่าเถื่อน และถูกละเมิดสิทธิต่างๆ มากมายจนดูเสมือนว่าฝ่ายประชาธิปไตยเป็นเพียงประชาชนชั้นสองนั้น ถือเป็นเรื่องที่ยอมความไม่ได้ แต่เราจะอดทนรอคอยโอกาสในอนาคตเพื่อในการนำคนเหล่านี้ขึ้นสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป เช่นเดียวกับการเอาผิดคนอย่างนายสุเทพฯ และผู้ร่วมก่อการทั้งยวง อย่างถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ขันติธรรมในสถานการณ์เช่นนี้คือ อย่าลดตัวลงไปเป็นสัตว์ป่าอย่างที่ฝ่ายตรงข้ามเขาเป็น แต่ต้องยิ่งดำรงความเป็นมนุษย์ที่ดี เพื่อให้ตัวเราเป็นหลักของชาติบ้านเมืองได้ต่อไป ในสายตาของคนทั่วประเทศและทั่วโลก และไม่ลืมเป็นอันขาดว่ายุทธศาสตร์ฝ่ายเขาคือ ลดเราลงไปเป็นสัตว์ ก่อความปั่นป่วนในเมือง เพื่อเอาหน่วยพิเศษที่เตรียมไว้แล้วก่อเหตุจุดชนวนเพิ่มเติมเพื่อให้สงครามกลางเมืองเกิดขึ้นให้จงได้ เมื่อเรารู้เช่นนี้แล้วยังจะเดินไปติดกับดักเขาอีกก็คงโง่เต็มทน

ประชาคมระหว่างประเทศขณะนี้เข้าใจและเห็นใจรัฐบาลมากขึ้นเยอะ เพราะเห็นด้วยตาเขาเองแล้วว่า ม็อบมีลักษณะยั่วยุและหาเรื่อง ฝ่ายรัฐบาลก็ถอยเต็มตัวมาตั้งแต่ครั้งร่างกฎหมายนิรโทษกรรม อย่างชนิดไม่คิดถึงศักดิ์ศรีอะไรใดๆ ของตัวเองเลย ถอยมาตลอด จนเกิดม็อบอันหยาบคายรุนแรงขึ้นกลางเมือง และถอยต่อเนื่องแม้กระทั่งสูญเสียสถานที่ราชการหลายแห่งเพื่อสังเวย “ชัยชนะ” ของม็อบ ขณะกำลังเขียนอยู่นี้ประเทศต่างๆ หลายประเทศโดยเฉพาะมหาอำนาจทั้งห้าในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ต่างก็รายงานกลับไปที่รัฐบาลของเขาว่า รัฐบาลตั้งข้อหากบฏกับนายสุเทพฯ แล้ว สิ่งที่เราอ่านได้จากรายงานเช่นนี้ก็คือ เขาเห็นด้วยกับข้อหาดังกล่าว ซึ่งแปลว่าเขาเห็นด้วยกับทัศนะที่สรุปว่านายสุเทพฯ และการกระทำเยี่ยงนี้ไม่ใช่พฤติกรรมประชาธิปไตย ส่วนถึงขั้นว่าจะเออออกับรัฐบาลที่จะเร่งเอาผิดกับคนเหล่านี้ เขาคงไม่ทำ เพราะจะเข้าข่ายแทรกแซงกิจการภายในของเราได้ง่ายๆ เรียกได้ว่าทุกฝ่ายทำหน้าที่ของตัวเองอย่างพอเหมาะพอสม

แต่ฝ่ายเรายังประมาทอะไรไม่ได้ทั้งนั้นครับ การออกแขกของนายสุเทพฯ ซึ่งหวังให้สอดรับกับการเข้าควบคุมสถานการณ์ของฝ่ายทหาร ถึงแม้จะยังไม่เกิด ทำให้บ้านตากอากาศบางแห่ง พลอยเงียบเสียงไปด้วยนั้น ไม่ได้แปลว่าเชื้อชั่วจะยอมตายแต่อย่างใด คนสำคัญอีกคนหนึ่งที่มีลูกศิษย์ลูกหามาก และกำลังกังวลใจว่าแผนทั้งหลายจะล่มลง ยังไม่ยอมรับอะไรทั้งนั้น และเชื่อว่ากำลังระดมสมองในหมู่พวกเขาเป็นการใหญ่อยู่ในชั่วโมงนี้ ความจริงอยากจะบอกเขาว่า หลักฐานว่าเขาไปเอากำลังจากเชียงใหม่ ตลอดจนเอาลูกศิษย์ที่ทำงานเป็นเข้ามารวมตัวเป็น “หน่วยทรหด” นั้น ฝ่ายรัฐบาลก็ได้รับมาแล้ว ถ้ามีโอกาสเปิดเผยให้กว้างขวาง ก็จะตัดอนาคตของใครบางคนที่หวังอะไรไว้เสียสูงส่ง แต่เรายังไม่ทำแบบนั้นในขณะนี้ เพราะหากบ้านเมืองขยับออกมาปากเหวที่พวกคุณเลื่อนเอาไปวางไว้ได้ เราก็จะพลอยดีใจไปด้วย พี่น้องประชาชนย่อมได้รับโอกาสที่ดีกว่าที่เราจะเผชิญหน้ากัน เงื่อนไขเดียวคือ โปรดเก็บอัตตาระดับเทวดาของตัวเองเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้หลุดไหลออกมานอกเสื้อผ้าและชายกระโปรง จนทำให้มีความเสี่ยงต่อสงครามกลางเมืองอีกเลย 

นี่ถือว่าเราเตือนกันอย่างผู้เจริญแล้วนะครับ ผมเองก็ไม่ใช่ญาติโยมร่วมโคตรตระกูลอะไรกับคุณ จากนี้ไปถ้ายังไม่ยอมใช้สติและปัญญา ใครจะตกนรกหมกไหม้ที่ไหนก็คงไม่เกี่ยวกับผมและฝ่ายประชาชนอีกต่อไป.

ไม่มีความคิดเห็น: