PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สิ่งที่คุณสุเทพควรปฏิรูปเป็นอย่างแรก คือพรรคประชาธิปัตย์


การปราศรัยของคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ต่อหน้า “ม็อบไม่มีชื่อ” (สื่อมวลชนเองก็ยังสับสนว่าจะเรียกม็อบที่นำโดยคุณสุเทพว่าอะไรดี สื่อต่างชาติที่ตามข่าวในไทยใช้คำสั้นๆ ว่า “the mob”) เป็นข้อเสนอเพื่อ “ปฏิรูปประเทศไทย” จำนวนทั้งหมด 6 ข้อ ดังนี้ (อ่านคำปราศรัยฉบับเต็มจาก เพจสุเทพ เทือกสุบรรณ)
  1. ปฏิรูประบบเลือกตั้ง “เราต้องร่วมกันคิด วางกติกาใหม่ ให้ซื้อเสียงไม่ได้ โกงไม่ได้ และต้องไม่ให้คนชั่วได้เข้ามานั่งในสภาได้ ไม่ให้มาแอบอ้างอำนาจปชช. หรือชื่อระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่ฟังเสียงเจ้าของอำนาจจริงๆ เลย เพราะฉะนั้น นี่คือคำตอบแรก สำหรับคนที่อยากรู้ว่า ถ้าขจัดระบออบทักษิณแล้วจะทำอะไร ทำการเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ให้ทุนสามานย์เข้ามาได้”
  2. ปฏิรูประบบทุจริต “เราต้องเปลี่ยนปท.ไทยไม่ให้มีทุจริตคอรัปชั่นจนชาติเสียหายอย่างปัจจุบันนี้ ไปตัวนี้มันทำชาติย่อยยับ เมื่อมันมีอำนาจ มันโกงได้ มันจึงกล้าลงทุนซื้อเสียงให้พวกมันมานั่งในสภา”
  3. ให้อำนาจประชาชนในการเมืองการปกครอง เช่น ปชช.ต้องถอดถอนนายกและรมต.ได้ ต้องให้ปชช.ถอดถอนสส.ได้, เราต้องมีกระบวนการรับรองอำนาจปชช. ถอดถอนในเวลาไม่ยืดยาว เห็นผลใน 5-6 เดือน ไม่ใช่รอเป็นปี, ต้องกระจายอำนาจปกครองไปยังท้องถิ่น เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่เอาผู้ว่า แต่งตั้งจากส่วนกลางอีกแล้ว
  4. ปฏิรูปโครงสร้างตำรวจ ต้องให้ตร.เป็นตร.ของปชช. ให้ปชช.เป็นคนให้ความดีความชอบตร. จะได้ไม่มีพวก ได้ดีเพราะพี่ให้ ถ้าตร.จะได้ดี เพราะปชช.เห็นคุณความดี กองบัญชาการตร.นครบาล ต้องอยู่ภายใต้ผู้ว่ากทม. ไม่ใช่ผบ.ตร. จังหวัดอื่นเช่นเดียวกัน
  5. ปฏิรูประบบข้าราชการ ข้าราชการอยู่ในระบบคุณธรรม ไม่ใช่ระบบอุปถัมภ์ต้องเป็นข้าราชการของปชช.
  6. แก้ปัญหาการศึกษา คมนาคม ฯลฯ รับบาลต้องเข้ามาแก้ปัญหาเป้าหมายหลักของชาติ ต้องแก้ปัญหาคนจนต้องเป็นวาระแห่งชาติ พอกันทีหากินกับนโยบายประชานิยม คมนาคม ต้องทำเพื่อผลประโยชน์ชาติ ไม่ใช่ทำเพื่อหาเสียง หรือเพื่อประโยชน์ตนและพวกพ้อง
SIU เห็นว่าข้อเสนอของคุณสุเทพหลายข้อมีความก้าวหน้า เช่น การกระจายอำนาจท้องถิ่น การให้เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดโดยตรง หลายข้อถึงแม้ว่าจะยังไม่มีรายละเอียดมากนักว่าจะนำไปปฏิบัติจริงได้เช่นไร แต่ก็เป็นข้อเสนอเชิงบวกที่หวังดีต่อประเทศ เช่น ข้าราชการไม่อยู่ในระบบอุปถัมป์ หรือ ตำรวจไม่มีระบบพรรคพวก
ข้อเสนอเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าสนับสนุน และถ้าหากว่าคุณสุเทพนำเสนอในช่วงที่มีการเลือกตั้ง ก็จะเป็นนโยบายหาเสียงที่ทรงพลังมาก
คำถามคือทำไมเราไม่เห็นพรรคประชาธิปัตย์ประกาศข้อเสนอเหล่านี้ ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 รวมถึงการเลือกตั้งครั้งอื่นๆ เช่น การเลือกตั้งผู้ว่า กทม.
และถ้าย้อนไปไกลกว่านั้นสักหน่อย ในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลระหว่าง พ.ศ. 2551-2554 ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ไม่ดำเนินนโยบายที่ดูก้าวหน้าและมีประโยชน์ต่อประเทศเหล่านี้?
คำตอบเป็นเพราะ พรรคประชาธิปัตย์เองก็เป็นส่วนหนึ่งของ “การเมืองระบบเก่า” ที่คุณสุเทพเห็นว่า “เป็นปัญหาและต้องปฏิรูปหรือไม่?”
คำถามต่อไปก็คือ ทำไมในข้อเสนอทั้ง 6 ข้อของคุณสุเทพ ถึงไม่มีข้อใดเลยที่จะเกี่ยวข้องกับการปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์เลย?
ภาพจากเพจสุเทพ เทือกสุบรรณ
ภาพจากเพจสุเทพ เทือกสุบรรณ
เป็นความจริงที่ยอมรับกันทั่วไปว่า พรรคประชาธิปัตย์มีปัญหาหลายประการ ที่สำคัญที่สุดคือพรรคปรับตัวตามกระแสโลกไม่ทัน ใช้แนวทางการบริหารจัดการแบบเก่าๆ หลายประการ จนทำให้พ่ายแพ้เลือกตั้งมาเกือบ 20 ปีติดต่อกัน และภายหลังยังมีปัญหาเรื่องการเอาหลังอิง “อำนาจนอกระบบ” จนเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาการเมืองในประเทศไทย
บุคคลากรของพรรคประชาธิปัตย์เอง ไม่ว่าจะเป็นคุณอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค หรือคุณพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรค ต่างก็ออกมาชี้ว่าพรรคประชาธิปัตย์มีปัญหา และเสนอให้ “ปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์” ให้กลับมาแข่งขันได้ แต่ข้อเสนอเหล่านี้ก็กลับไม่ถูกตอบสนองมากนักโดย “แกนนำพรรคประชาธิปัตย์” ชุดปัจจุบัน
ทั้งที่จริงๆ แล้ว การปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ เป็นจิ๊กซอส่วนสำคัญมากต่อการปฏิรูปประเทศไทย ตามความฝันและความหวังของคุณสุเทพด้วยซ้ำ
ในระบอบการเมืองแบบสองพรรคใหญ่ดังเช่นปัจจุบัน เป็นไปได้ยากที่จะมีพรรคทางเลือกที่สามขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้นพรรคการเมืองอันดับสองจำเป็นต้องเข้มแข็ง ปรับตัวตามความต้องการของประชาชน เพื่อเป็น “ตัวเลือก” ใน “ตลาดการเมือง” ที่ประชาชนจับจ่ายใช้สอย “คะแนนเสียง” ของตัวเอง เสมือนว่าเป็นการ “จ้าง” พรรคการเมืองมาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ
การที่พรรคประชาธิปัตย์อ่อนแอ ไม่สามารถเป็นตัวเลือกให้กับประชาชนได้ ก็ย่อมทำให้พรรคเพื่อไทยมีสภาพผูกขาดชัยชนะ (ซึ่งก็มาตามระบอบประชาธิปไตยทุกประการ) อยู่เรื่อยไป และในมุมกลับแล้วก็ทำให้ไม่เกิดการแข่งขัน พรรคเพื่อไทยเองก็ไม่ปรับตัว มีปัญหาหลายอย่างดังที่ปรากฏอยู่ในการบริหารราชการแผ่นดินตลอดสองปีกว่ามานี้
แต่พรรคเพื่อไทยจะปรับตัวไปทำไม ในเมื่ออยู่เฉยๆ ก็สามารถเอาชนะพรรคประชาธิปัตย์ได้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าอยู่แล้ว?
สภาพแบบนี้ไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศเลยแม้แต่น้อย เพราะตัวเลือกทั้งสองมีปัญหาในทางของตัวเอง ซึ่งก็จะส่งผลเสียต่อประเทศไทยในภาพรวม
ถ้าหากว่าพรรคประชาธิปัตย์สามารถกลับมาเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจได้อีกครั้ง พรรคเพื่อไทยเองก็ต้องปรับตัวให้มีผลงานดี ไม่มีสภาวะแบบที่คุณสุเทพปราศรัยเอาไว้ว่า
เป็นประชาธิปไตยแค่ชื่อ แค่เปลือกนอก แต่เนื้อแท้เป็นเผด็จการเสียงข้างมาก ที่แอบอ้างอำนาจปชช. แล้วเอาไปใช้อำเภอใจ ใช้สภาย่ำยีหลักการปกครองบ้านเมือง ปกครองแบบอธรรม ใช้พวกมากข่มเหงรังแก ข่มขืนใจปชช. บังคับออกกม.ชั่วร้ายตอนตี 4 ครึ่ง
ไม่มีหิริโอตัปปะ ละอาย ดันทุรัง ออกกม.ล้างผิดให้นาย ที่หนีคุก ไปเสวยสุขต่างประเทศ ทั้งๆที่ศาลพิพากษาแล้ว มันก็บอกคำพิพากษาเป็นโมฆะ ออกกม.ล้างผิดให้คนที่ฆ่าพล.อ.ร่มเกล้า ฆ่าปชช. เผาบ้านเมือง ทั้งหมดสู้เพื่อนายมันเท่านั้น
อีกทั้งยังพยายาม เขียนรธน.ใหม่ทั้งฉบับ พอศาลรธน.ท้วง มันก็มาแก้ในมาตราที่ช่วยให้มันรวบอำนาจ เพื่อรอมอบให้นายมัน
และปรากฎชัดว่า มันแก้รธน.ด้วยการโกง ทุกรูปแบบ เพื่อเอาชนะ ทำลายหลักความถูกต้อง ตั้งแต่ปลอมแปลงเอกสาร ที่ยื่นฉบับหนึ่งแต่ให้อีกฉบับมาพิจารณา ปิดปากเสียงข้างน้อย ไม่ให้อภิปราย แปรญัตติ นายชวนหลีกภัย ยังถูกตัดสิทธิ์เลย แล้วพวกมันก็ปิดปากสส.คนอื่นอีก มันรีบปิดอภิปรายไป
เวลาลงมติ มันกลัวไม่ชนะ มันโกงตอนลงมติ ให้ลงคะแนน เสียบบัตรแทนกัน ทำอย่างเดียวกับตอนโกงเลือกตั้ง ที่สุดก็ข่มขืนใจคนทั้งปท. ผลักดันรธน.ฉบับแก้ไขของมันผ่านสภาสำเร็จ แต่พอศาลรธน.วินิจฉัยว่า เนื้อหาจะทำให้เกิดการรวบอำนาจ ผิดเจตนารมณ์รธน.ที่ต้องมี 3 คานอำนาจ ศาลว่าทุกขั้นตอนผิดทั้งหมด
แทนที่มันจะน้อมรับ แต่กลับดาหน้ากันออกมา ว่าไม่ยอมรับอำนาจศาล ไม่ทำตาม และมันจะเล่นงานศาล
แบบที่คุณสุเทพปราศรัยเอาไว้ เพราะถ้าหากพรรคเพื่อไทยพลาดพลั้งไป กระแสจะตีกลับไปยังพรรคประชาธิปัตย์ เขี่ยพรรคเพื่อไทยพ้นจากการเป็นรัฐบาลในไม่ช้า
คุณสุเทพออกตัวไว้ว่าจะไม่มีบทบาทในการบริหารประเทศถ้าโมเดล “สภาประชาชน” ของคุณสุเทพเป็นจริงได้ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของการเคลื่อนไหว
แต่แท้จริงแล้ว คุณสุเทพ (รวมถึงคุณอภิสิทธิ์ คุณกรณ์ และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ท่านอื่นๆ) ควรจะเป็น “แกนหลักสำคัญ” ในการปฏิรูปประเทศไทยด้วยซ้ำ
เพียงแต่คุณสุเทพต้องกลับไปปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างไร ปรับปรุงพรรคให้กลับมาเข้มแข็ง ต่อสู้กับพรรคเพื่อไทยในเชิงการเมืองได้ แล้วเข้ามาเป็นรัฐบาลที่มั่นคง มีประสิทธิภาพ ใสสะอาด ดังที่คุณสุเทพวาดฝันเอาไว้ ก่อนจะมาดำเนินนโยบายปฏิรูปประเทศไทยทั้ง 6 ข้อข้างต้นอย่างจริงจัง
ความเจริญของประเทศตามระบอบประชาธิปไตยไม่มีทางลัด ระบอบประชาธิปไตยเปิดกว้างให้ผู้หวังดีต่อประเทศ เข้ามาเสนอนโยบายว่าประเทศไทยควรจะมุ่งไปในทิศทางใด
คุณสุเทพอาจใจร้อนไปสักหน่อยที่ต้องแพ้การเลือกตั้งให้กับสิ่งที่เรียกว่า “ระบอบทักษิณ” อยู่ร่ำไป แต่ถ้ามองถึงประโยชน์ระยะยาวของประเทศแล้ว คงไม่มีเส้นทางอื่นใดนอกจากการกลับมาโฟกัสที่การปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์
สักที
อ่านข้อเสนอเก่าของ SIU ในการปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์

ไม่มีความคิดเห็น: