PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558

ชูวิทย์:สังคมหวงห้าม

สังคมหวงห้าม
วันนี้มีผู้สื่อข่าวต่างประเทศหนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์มาสัมภาษณ์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผม เป็นฝรั่งอเมริกันที่อยู่เมืองไทยมาเกือบสิบปี หนึ่งในหัวข้อสนทนาถามถึงว่า "ทำไมกลุ่มชนชั้นนำ หรือ กลุ่มอีลิท (Elite) ถึงเกลียดทักษิณหรือตระกูลชินวัตรนัก?”
ทำให้ผมนึกถึงคำพูดของ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ที่เคยพูดไว้ว่าสังคมไทยเป็น "สังคมหวงห้าม" หรือ Prohibitive Society ฝังรากลึกมาแต่โบราณ ชนชั้นข้าราชการ นายทหาร นายพลเป็นใหญ่ ถึงขนาดมีคนพูดว่า "สิบพ่อค้า ไม่เท่า หนึ่งพระยาเลี้ยง" หมายความว่า พวกพ่อค้าที่ร่ำรวยขึ้นมาย่อมไม่เทียบเท่ากับบรรดาเจ้าขุนมูลนาย
ดังนั้น จะทำอะไรในสังคมไทยต้องรู้จัก "เจียมเนื้อเจียมตัว" หากทำอะไรเกินหน้าเกินตา ประสบความสำเร็จมากไป รวยเร็วเกินไป หรือก้าวล้ำเข้ามามีอำนาจมากเกินไป ก็จะทำให้ถูกคนอื่นหมั่นไส้ เพราะผิดกติกาของสังคมหวงห้าม
ตรงกันข้ามกับสังคมอเมริกันหรือตะวันตก ที่เป็น "สังคมปล่อยตามใจ" หรือ Permissive Society อันเป็นสังคมที่ใครจะทำอะไรก็ได้ ไม่มีใครห้าม ไม่ต้องไปเกรงใจใคร ไม่มีอะไรที่จะเกินหน้าเกินตา ยิ่งรวยยิ่งประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะยิ่งมีคนยกย่องนับถือมากขึ้น
จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เมื่ออุปทูตสหรัฐอเมริกามาวิพากย์วิจารณ์ประเทศไทย ย่อมมีคนต่อต้าน ไปหาว่าอเมริกาไม่รู้เรื่องรู้ราว อย่าเข้ามาแทรกแซงประเทศไทย ไม่เข้าใจสถานการณ์ไทยดีพอ
นี่แหละครับ สังคมหวงห้ามของแท้
“กูอยู่ของกูแบบนี้ กูทำของกูแบบนี้ พวกมึงอย่ามาเสือก"


ไม่มีความคิดเห็น: