PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

นายกฯอ้างเห็น นส.อัยการสูงสุดค้านยิ่งลักษณ์ไปตปท.

นายกรัฐมนตรียอมรับ อัยการสูงสุดส่งหนังสือให้ความเห็น ไม่ควรให้น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางไปต่างประเทศมาที่ตนจริง ด้านทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์เรียกร้อง ยุติการคุกคามสิทธิและเสรีภาพ หลังเหตุการณ์ค้นรถยนต์และเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามตลอดเวลา หากเป็นการดูแลวีไอพีจริงตามที่รองนายกรัฐมนตรีระบุ ควรประสานงานมาเพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. ไม่อนุญาตให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางไปต่างประเทศ โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องนี้ คสช.ไม่ได้สั่งการ แต่เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง โดยการจะไปหรือไม่ไปต่างประเทศนั้น ต้องไปดูว่าฝ่ายกฎหมายว่าอย่างไร โดยเรื่องนี้อัยการสูงสุด (อสส.) ได้ทำเรื่องเป็นลายลักษณ์อักษรมาถึง คสช. โดยมีความเห็นว่าไม่ควรให้อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งตนได้เห็นเอกสารดังกล่าวแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตามที่ อสส.ปฏิเสธว่าไม่ได้ส่งเอกสารดังกล่าวมาที่ คสช.นั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มีเอกสารดังกล่าวอยู่จริง เพียงแต่ไม่ได้เอามาเผยแพร่ให้สื่อมวลชนดูเท่านั้น โดยเอกสารนั้นให้ความเห็นว่าไม่ควรให้เดินทาง ซึ่งตนก็ได้อนุมัติตามที่ อสส.เสนอมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายวันชัย รุจนวงศ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ระบุว่า ไม่ทราบเรื่องเอกสารดังกล่าว แต่ตามหลักแล้วอัยการไม่มีอำนาจในการห้ามเดินทางไปต่างประเทศ เว้นแต่จะมีการยื่นฟ้องคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ต่อศาลฎีกาฯ แล้ว ก็จะเป็นอำนาจในการพิจารณาของศาล
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ทหารเข้าค้นรถส่วนตัวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยขอยืนยันอีกครั้งว่าเป็นการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับวีไอพีทุกคน ซึ่งการดูแลรักษาความปลอดภัยก็ไม่ได้เฉพาะเจาะจงน.ส.ยิ่งลักษณ์เพียงคนเดียว แต่เจ้าหน้าพร้อมดูแลและให้ความปลอดภัยกับทุกคน เนื่องจากเกรงว่าอาจมีมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์ได้
ด้านนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของนางสาวยิ่งลักษณ์ แถลงว่า ภายหลังที่ คสช. ไม่อนุญาตให้น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางไปต่างประเทศตามคำขอแล้ว และมีการตรวจค้นรถยนต์เกิดขึ้น หลังจากนั้น ไม่ว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์จะเดินทางไปที่ใดก็ตามในจังหวัดเชียงใหม่ ก็จะสังเกตเห็นว่า มีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจคอยติดตามตลอดทั้งวัน ซึ่งการกระทำในลักษณะดังกล่าว แม้จะไม่เป็นการควบคุมตัวโดยตรง แต่ก็ถือได้ว่าเป็นการควบคุมตัวโดยทางอ้อม อันเป็นการลิดรอนสิทธิความเป็นส่วนตัว และในขณะเดียวกันยังเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลด้วย อย่างไรก็ตาม หากจะมีการดูแลวีไอพีตามที่ฝ่ายความมั่นคงได้กล่าวอ้างนั้น ก็ขอให้ประสานงานโดยตรงเพื่อให้เกิดความสบายใจกันทั้งสองฝ่าย
นายนรวิชญ์ยังกล่าวอีกด้วยว่า สำหรับการฟ้องคดีที่ถูกกล่าวหาในโครงการรับจำนำข้าว สำนักงานอัยการสูงสุด ได้แถลงว่าจะใช้เวลาร่างฟ้องประมาณ ๑ เดือน หรือจะฟ้องคดีไม่เกินเดือนมีนาคม ๒๕๕๘ น.ส. ยิ่งลักษณ์จึงเข้าใจว่า ในช่วงระหว่างวันที่ ๑๐ – ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ สามารถที่จะใช้สิทธิในการเดินทางไปต่างประเทศได้ จึงได้ยื่นขออนุญาตเดินทางตามเงื่อนไขของ คสช. ประกอบกับสำนักงานอัยการสูงสุดเองก็แถลงชัดเจน แล้วว่า อัยการสูงสุดไม่มีอำนาจในการห้ามการเดินทาง เว้นแต่จะมีการยื่นฟ้องคดีต่อศาลแล้ว ซึ่งก็เป็นอำนาจของศาลฎีกา ดังนั้นในขณะนี้จึงยังไม่ถึงขั้นตอนตามกฎหมายที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะต้องเดินทางไปศาล และในทางปฏิบัติที่ผ่านมาในการยื่นฟ้องคดี ของอัยการสูงสุด ก็ไม่เคยมีการนำตัวจำเลยมาพร้อมกับการยื่นคำฟ้องแต่อย่างใด ซึ่งในเรื่องนี้ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ผู้ดูแลงานฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลและ คสช. ก็ได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่จำเป็นต้องมาในวันที่อัยการยื่นฟ้อง ซึ่งปรากฏเป็นข่าวโดยทั่วไปเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว
นายนรวิชญ์ กล่าวต่อว่าในฐานะทนายของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งทหาร และตำรวจ ยุติการคุกคามสิทธิและเสรีภาพของน.ส.ยิ่งลักษณ์ฯ ตามที่ได้รับการรับรองและคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ และควรปล่อยให้คดีเป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการของกฎหมายต่อไป


ไม่มีความคิดเห็น: