PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2558

ยึดสวนปาล์มสกุล “วิชัยดิษฐ์” รุกป่าสงวนแห่งชาติเขากระยาง พิษณุโลก

ยึดสวนปาล์มสกุล “วิชัยดิษฐ์” รุกป่าสงวนแห่งชาติเขากระยาง พิษณุโลก
Cr:ผู้จัดการ
พิษณุโลก - ยึดสวนปาล์มอายุ 9 ปี ของคนดังนามสกุล”วิชัยดิษฐ์” ผอ.สำนัก 4 กรมป่าไม้ลั่นออกหมายเรียกตาม ระบุอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง

(20 เม.ย.) นายมานพ สายอุ่นใจ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก ออกคำสั่งให้นายสำรวย ชุมบุญ หัวหน้าสายตรวจป่าไม้สายที่ 1 และนายพงษ์ศักดิ์ ประสมทรัพย์ หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ 14 (น้ำคลาด) สนธิกำลังป่าไม้พื้นที่ข้างเคียง ตรวจยึดสวนปาล์ม บริเวณบ้านโป่งดินดำ หมู่ 26 ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก หลังจากสืบทราบว่าบุกรุกทำสวนปาล์มขนาดใหญ่มานานและคนในพื้นที่ระบุว่าเป็นของนายทุน อดีตนักการเมืองตระกูลดัง

เจ้าหน้าที่ได้ไปจุดที่ได้รับแจ้ง พบเป็นแปลงสวนปาล์มน้ำมัน อายุประมาณ 9 ปี แต่ไม่พบผู้ใดแสดงตัวเป็นเจ้าของ เพียงแต่สอบถามผู้ใหญ่บ้านบ้านโป่งดินดำ ทราบว่าสวนปาล์มเป็นของนางสาวปารียา วิชัยดิษฐ์ หลานของนักการเมืองคนดังตระกูล”วิชัยดิษฐ์” จับพิกัดวัดได้เนื้อที่ 35 ไร่ และนำไปเทียบกับภาพถ่ายปี 2545 พบว่าเดิมเป็นป่า อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง จึงแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่สภ.นครไทย ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 54 ข้อหาแผ้วถาง และตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ มาตรา 14 ข้อหายึดถือครอบครองป่าสงวน โดยไม่ได้รับอนุญาต มูลค่าความเสียหายแก่รัฐ 2.4 ล้านบาท

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ระหว่างตรวจยึดไม่พบเจ้าของ แต่คนในพื้นที่ทราบดีว่าเป็นของนายทุนภาคใต้ ระบุว่าเป็นหลานของคนตระกูล”วิชัยดิษฐ์” เมื่อประมาณ 5 ปีก่อนซื้อสวนปาล์มต่อจากนายทุนคนหนึ่ง วันนี้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว โดยที่พื้นที่ข้างเคียงโดยรอบ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ตรวจยึดผืนป่ามาแล้ว
นายมานพ กล่าวว่า ผู้ใดกระทำความผิดก็ต้องถูกจับกุม ส่วนที่ระบุว่าคนนามสกุล”วิชัยดิษฐ์” หากผิดก็ต้องจับ เพราะมีการซัดทอด และกำลังขอให้ตำรวจสภ.นครไทย ออกหมายเรียก ซึ่งพื้นที่สวนปาล์มดังกล่าว นายทุนได้ซื้อต่อมาอีกทอดหนึ่ง และเป็นพื้นที่บุกรุกใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ฝั่งตรงข้ามถนนของพื้นที่คนตระกูลดัง ยังพบว่ามีไม้มะค่า และไม้กระยาเลยอื่นถูกโค่นทิ้งรวม 11 ท่อน ทราบว่าราษฎรพื้นที่ใกล้เคียงเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่ป่าไม้จึงดำเนินการตรวจยึดไม้ท่อน และพื้นที่ 5 ไร่เศษ เนื่องจากอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยางเช่นกัน พร้อมแจ้งความสภ.นครไทย หาผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 11และ 69 ข้อหาทำไม้ และมีไม้ยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง และตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติมาตรา 14 ข้อหาทำไม้ กระทำการใดๆเป็นอันเสื่อมเสียป่าสงวนแห่งชาติ


ไม่มีความคิดเห็น: