PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558

เปิดเส้นทางอุยกูร์...จากจีนผ่านไทยสู่ตุรกี

วันอังคาร ที่ 01 กันยายน 2558 เวลา 07:49 น-สำนักข่าวอิศรา

จากข้อมูลและความคืบหน้าของคดีจนถึงขณะนี้ พอจะมองเห็นภาพลางๆ แล้วว่า เหตุลอบวางระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร น่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการนำพาชาวอุยกูร์ข้ามชาติ จากต้นทางมณฑลซินเจียง ประเทศจีน สู่ปลายทางประเทศตุรกี โดยขบวนการนี้มีเครือข่ายเชื่อมโยงหลายประเทศ และน่าจะมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการปลอมหนังสือเดินทาง 
road
          ข้อมูลจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ที่ถูกเปิดเผยในงานสัมมนาเรื่อง "ตุรกี-อุยกูร์-จีน กับปัญหาผู้อพยพข้ามชาติและทางออกของไทย" ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม 2558 ระบุว่า ขบวนการนำพาอุยกูร์ใช้เส้นทางอย่างน้อย 4 เส้นทางที่มีประเทศไทยเกี่ยวข้องเป็น "ทางผ่าน" กล่าวคือ 
          1.ต้นทางจากมณฑลชินเจียง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ลงใต้สู่มณฑลยูนนาน ทางตอนใต้ของจีน มุ่งหน้าเข้าไทย ข้ามไปมาเลเซีย และบินไปตุรกี
          2.ต้นทางจากมณฑลชินเจียง ลงใต้สู่มณฑลยูนนาน เข้าลาวซึ่งมีพรมแดนบางส่วนติดกัน จากนั้นข้ามเข้าไทย แล้วต่อไปยังมาเลเซีย เพื่อขึ้นเครื่องไปยังตุรกี
          3.ต้นทางมณฑลซินเจียงของจีน ล่องใต้สู่มณฑลยูนนาน เข้าลาว ต่อไปยังกัมพูชา ข้ามเข้าไทย ข้ามแดนไปมาเลเซีย และบินไปตุรกี
          4.ต้นทางมณฑลชินเจียงของจีน เข้าลาว ผ่านกัมพูชา ไทย บินไปปากีสถาน และบินต่อไปยังตุรกี
          จากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมทำให้ทราบว่า สาเหตุที่ขบวนการนำพาชาวอุยกูร์เลือกใช้เส้นทางนี้ คือจากเหนือมุ่งลงใต้ เพราะมณฑลยูนนานมีชุมชนมุสลิมและชุมชนอุยกูร์ขนาดใหญ่ ส่วนประเทศลาว กัมพูชา และไทยมีมาตรการตรวจคนเข้าเมืองค่อนข้างหละหลวม โดยเฉพาะด่านตามแนวชายแดนที่ไม่ใช่สนามบิน มณฑลยูนนานกับไทย จึงกลายเป็นแหล่งพักพิงของชาวอุยกูร์ก่อนเดินทางต่อ
          สาเหตุที่ขบวนการนำพาต้องนำชาวอุยกูร์เดินทางข้ามหลายประเทศ ก่อนไปจบที่มาเลเซียหรือปากีสถาน เพื่อบินเข้าตุรกี เพราะทั้งมาเลเซียและปากีสถานเป็นประเทศมุสลิม มีเครือข่ายอุยกูร์ที่มีศักยภาพสูงรออยู่ บางส่วนระหว่างพักรอสามารถทำงานถูกกฎหมายได้ ผิดกับในไทย ลาว กัมพูชาที่เป็นเมืองพุทธ การที่ชาวอุยกูร์เข้าไปพำนักอยู่เป็นเวลานาน จะค่อนข้างแปลกแยก สังเกตได้ง่าย
          ส่วนสาเหตุที่ไม่เลือกเส้นทางจากมณฑลซินเจียงไปทางตะวันตก ผ่านประเทศในเอเชียกลาง คือ ประเทศที่ลงท้ายด้วย "สถาน" เช่น ทาจิกิสถาน คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ฯลฯ เพราะประเทศเหล่านั้นได้รับการอุดหนุนช่วยเหลือจากจีนด้านเศรษฐกิจ ทำให้จีนสามารถประสานให้บล็อคการเดินทางของชาวอุยกูร์ได้ และจะสังเกตว่าหลายประเทศเป็นประเทศมุสลิม แต่ไม่เคยแสดงท่าทีใดๆ ต่อจีนกับการกระทำในลักษณะละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือจำกัดการประกอบศาสนกิจของชาวอุยกูร์ เช่น การห้ามเจ้าหน้าที่รัฐและนักศึกษามุสลิมอุยกูร์ถือศีลอดช่วงเดือนรอมฎอน เป็นต้น
          และนั่นก็คือสาเหตุที่คนอุยกูร์จำนวนหนึ่งต้องการอพยพออกจากมณฑลซินเจียง เพราะถูกจำกัดการนับถือศาสนา จำกัดอัตลักษณ์ มีความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมกับชาวฮั่น จนมีขบวนการแบ่งแยกดินแดนเพื่อจัดตั้ง สาธารณรัฐเตอร์กีสถานตะวันออก
          ส่วนเส้นทางการเคลื่อนย้ายและแห่งพักพิงของชาวอุยกูร์ระหว่างเดินทางผ่านไทย จะเแทรกซึมข้ามแดนบริเวณจังหวัดชายแดนที่ติดกับลาวและกัมพูชา จากนั้นบางส่วนจะมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯทางรถยนต์ ส่วนใหญ่เป็นรถตู้
          การเคลื่อนย้ายในกรุงเทพฯ ใช้เครือข่ายรถตู้และแท็กซี่ มีแหล่งพักพิงในกรุงเทพฯ ย่านหนองจอก มีนบุรี รอเคลื่อนย้ายลงใต้ โดยแหล่งพักพิงหลักในภาคใต้ คือ จังหวัดสตูล กับสงขลา
          อุยกูร์ที่ถูกจับล็อตใหญ่กว่า 300 คนเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว และภายหลังถูกส่งไปยังตุรกีและจีน ก็ถูกจับในป่ายางพารารอยต่อ อำเภอหาดใหญ่ กับอำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เพื่อรอโอกาสข้ามไปมาเลเซีย!
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ชอบคุณ : ภาพประกอบจากพื้นหลังสกู๊ปพิเศษของสถานีโทรทัศน์ NOW26

ไม่มีความคิดเห็น: