PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558

ปูตินบอกว่าจะดัมพ์ดอลล่าร์ทิ้ง, ยูเครนประกาศยุติความร่วมมือทางกองทัพรัสเซีย





You wanna play a dangerous game? Umm… then let's do it! ปูตินบอกว่าจะดัมพ์ดอลล่าร์ทิ้ง, ยูเครนประกาศยุติความร่วมมือทางกองทัพรัสเซีย, รัสเซียบอก ดี… งั้นห้ามไม่ให้บริษัทของยูเครนเข้าประกอบกิจการในไคร์เมียแม้จะได้รับใบอนุญาตก่อนผนวกไคร์เมียเข้ากับรัสเซียแล้วก็ตาม มันส์พะยะครับ
------------
1.) โพสต์นี้จะเล่ารวบกัน 3 ข่าวนะครับ ข่าวแรก RT news พาดหัวข่าวว่า "Putin says dump dollar" (ปูตินกล่าวว่าจะเทดอลล่าร์ทิ้ง) อูยยยยส์ โปรอเมริกาจะทำใจได้หรือนี่ "เสรีภาพ ประชาธิปไตย ปูตินทำอย่างนี้ได้ไง?" ก็นี่แหละเสรีภาพและอธิปไตยของรัสเซียและประเทศอื่นๆที่ไม่ยอมก้มหัวให้จักรวรรดิเฮเกหละ
รายงานข่าวบอกว่า ปธน.วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำของรัสเซียได้ร่างกฎหมายขึ้นมาฉบับหนึ่ง ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อขจัด (eliminate) เงินดอลล่าร์ของสหรัฐฯ และเงินยูโรออกจากการค้าระหว่างประเทศในกลุ่ม CIS (เครือรัฐเอกราชที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต Commonwealth of Independent States) RT เขียนเอาไว้ว่านี่เป็นการสร้างตลาดการเงินเพียงแห่งเดียวระหว่าง รัสเซีย อาร์เมเนีย เบลารุส คาซัคสถาน คีร์กีสถาน ทาจีกิสถาน และประเทศอื่นๆจากอดีตสหภาพโซเวียต
แถลงการณ์จากกรุงเครมลินกล่าวว่า "[กฎหมาย] ฉบับนี้จะช่วยขยายการใช้สกุลเงินหลักของประเทศต่างๆในการชำระเงินเพื่อการค้าและการให้บริการด้านการเงินในต่างประเทศ และเป็นการสร้างปัจจัยพื้นฐานให้กับสภาพคล่องในตลาดสกุลเงินภายในประเทศได้มากขึ้น" (ว้าววว! แนวคิดของปูตินช่างแตกต่างจากแนวคิดและการดำเนินการของฝ่ายมหาอำนาจอย่างจักรวรรดิเฮเกที่ต้องการให้เงินดอลล่าร์ของตนเองเป็นสกุลเงินของของโลกกันคนละขั้วเลยอ่ะ นี่สิประชาธิปไตยที่แท้จริงทุกสกุลเงินมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ทำไมต้องยกอภิสิทธิ์ให้สกุลเงินเดียวอยู่เหนือสกุลเงินอื่นๆทั่วโลกด้วย นี่เศรษฐกิจการเงินระหว่างประเทศแนวใหม่สไตล์รัสเซียเลยนะนี่)
รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า กฎหมายฉบับนี้ยังจะช่วยอำนวนความสะดวกให้กับการค้าและช่วยให้บรรลุความมั่นคงในเศรษฐกิจมหภาคด้วย (แหล่ม) ภายใต้กรอบความร่วมมือของสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (EEU) ประเทศต่างๆได้ร่วมกันถกเถียงถึงความเป็นไปได้ของใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการค้าขายระหว่างกัน (switching to national currencies) ตามข้อตกลงระหว่างรัสเซีย เบลารุส อาร์เมเนีย และคาซัคสถานนั้น จะมีการถ่ายโอนพันธกรณีในการชำระเงินด้วยสกุลเงินแห่งขาติของประเทศต่างๆ ซึ่งจะต้องเกิดขึ้นในปี 2025-2030 (ที่จะถึงนี้)
ปัจจุบัน 50 เปอร์เซ็นต์ของการซื้อขายใน EEU ใช้เงินดอลล่าร์และเงินยูโร ซึ่งเป็นการเพิ่มการพึ่งพาอาศัยกันของสหภาพในกลุ่มประเทศเหล่านี้ให้ออกสกุลเงินเหล่านั้น นอกจาก CIS และ EEU แล้ว รัสเซียและจีนได้พยายามที่จะลดการครอบงำ (/อิทธิพล) ของเงินดอลล่าร์ลงเช่นกัน (ได้เวลาเชือดดอลล่าร์ทิ้งแล้ว ไม่ต้องรีบ สไตล์ปูตินก็คือค่อยๆเชือดทิ้งไปทีละนิดๆ ไม่ให้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมมาก)
2.) ข่าวที่สองวันที่ 31 ส.ค.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ยูเครนระงับข้อตกลงความร่วมมือด้านความมั่นคงกับรัสเซีย" (Ukraine Terminates Deal With Russia on Defense Industry Cooperation) (หุ่นเชิดของจักรวรรดิเฮเกก็เป็นอย่างนี้แล) รายงานข่าวบอกว่ากรุงเคียฟได้ยุติข้อตกลงในความร่วมมือด้านเทคนิควิทยาศาสตร์กับรัสเซีย ในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง ที่มีการลงนามร่วมกันตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 1993 (เมื่อวันก่อนยูเครนพึ่งจะขนเครื่องยนต์เฮลิค็อปเตอร์ของตนเองไปจัดแสดงในงานแอร์โชว์ MAKS-2015 ที่รัสเซียเองนะ วันนี้เก็บของกลับบ้านแล้วบอกว่าเลิก ไม่ร่วมมือกับรัสเซียอีกแล้ว พิลึกแท้!)
3.) ข่าวที่สาม เมื่อยูเครนกล้าที่จะเล่นเกมอันตรายทุบหม้อข้าวตัวเองแบบนี้ งั้นรัสเซียก็จัดให้ วันต่อมา (1 ก.ย.58) Sputnik พาดหัวข่าวว่า "บริษัทสัญชาติยูเครนถูกปฏิเสธไม่ได้เข้าถึงความมั่งคั่งในแผ่นดินย่อยของรัสเซียในทะเลดำ" (Ukrainian Companies Denied Access to Russia’s Subsoil Wealth in Black Sea) ซวยแล้วไหมหละยูเครน... หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ
รายงานข่าวจากฝั่งรัสเซียบอกว่า วันอังคารนี้รัฐบาลรัสเซียได้ออกแถลงการณ์ว่า "บริษัทต่างๆที่ยูเครนออกใบอนุญาตให้ก่อนที่จะมีการรวมแหลมไคร์เมียเข้ากับรัสเซีย จะไม่มีสิทธิ์เข้าถึงแหล่งทรัพยากรพลังงานใต้ทะเลดำและทะเลอาซอฟอีกต่อไป หากพบว่ามีกิจกรรมเช่นนั้นเกิดขึ้น จะถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของรัสเซีย" (ไม่รู้ว่ามีบริษัทต่างชาติกี่แห่งที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในทะเลดำและทะเล Azov จากรัฐบาลยูเครนและไคร์เมียก่อนหน้านี้ งานนี้คงจะมีใครถูกหวยรัปทานไปหลายรายแน่ๆ อยากรู้ไหมว่างานนี้ใครจะโดนหางเลขบ้าง? งั้นอ่านต่อนะครับ มันส์ คริๆ)
รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า ก่อนที่จะรวมไคร์เมียเข้ากับรัสเซียอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2014 นั้น บริษัท Chornomornaftogaz ซึ่งเป็นของรัฐของยูเครนมีแหล่งไฮโดรคาบอน (hydrocarbon) จำนวน 17 แห่ง รวมทั้งแหล่งแก๊สธรรมชาติอีก 11 แห่ง และแหล่ง gas condensate 4 แห่ง บ่อน้ำมันดิบ 2 แห่ง แท่นขุดเจาะนอกชายฝั่งอีก 13 แห่งทั้งในทะเลดำและทะเลอาซอฟ
ในบรรดาบริษัทต่างชาติหลายบริษัทที่สนใจในสินทรัพย์ hydrocarbon นอกชายฝั่งของไคร์เมียก็มีบริษัท ExxonMobil (ของสหรัฐฯ), Royal Dutch Shell (ของเนเธอแลนด์และอังกฤษ) และ Petrom (ของโรมาเนีย) รวมอยู่ด้วย
Chornomornaftohaz ของยูเครน มีผลประโยชน์ 100% ในการออกใบอนุญาตนอกชายฝั่งทั้ง 5 แห่งซึ่งประกอบด้วย Vostochno-Kazantipskoe ในทะเลอาซอฟ, และ Odesskoe, Bezymiannoe, Subbotina และ Palasa ในทะเลดำ
จบเห่เลยยูเครน... นี่ไม่ใช่การอายัด แต่เป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมที่จะยึดทรัพยากรณ์เหล่านั้นมาเป็นของรัสเซียเพราะว่าอาณาเขตเหล่านั้นได้ตกเป็นของรัสเซียไปแล้ว บริษัทต่างชาติที่สูญเสียผลประโยชน์ในครั้งนี้ก็ไปฟ้องร้องค่าเสียหายเอาจากรัฐบาลยูเครนหุ่นเชิดของจักรวรรดิเฮเกก็แล้วกัน มิน่าหละว่าทำไมสหรัฐฯ นาโต้และยูเครนถึงรีบจัดซ้อมรบขึ้นมาในทะเลดำ

ไม่มีความคิดเห็น: