PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558

"บิ๊กหมู"ผบทบ./เลขาฯคสช.นั่งควบ ผบ.กกล.รส.คุมกำลังดูแลความสงบ แทนแม่ทัพ1

Very Big Moo...
"บิ๊กหมู"ผบทบ./เลขาฯคสช.นั่งควบ ผบ.กกล.รส.คุมกำลังดูแลความสงบ แทนแม่ทัพ1 ลั่นจัดการพวกทำผิดกม.ทำบ้านเมืองสงบ สั่งปรับโครงสร้างการจัด เลขาฯคสช.ใหม่ มี 1.กลุ่มงานขับเคลื่อนการบริหารแผ่นดิน และ 2.กลุ่มงานขับเคลื่อนภารกิจการรักษาความสงบเรียบร้อย เน้นการทำงานร่วมกันทั้งทหาร – ตำรวจ – ฝ่ายปกครอง ใช้ศูนย์ดำรงธรรม เป็นหลักในการแก้ทุกปัญหา เตรียมจัดชุดลงพื้นที่ชี้แจงข้อมูลเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนเตรียมรับภัยแล้ง
ที่ กองบัญชาการกองทัพบก พลเอก ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธาน การประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก ทบ. เผยว่า ที่ประชุมได้มีการชี้แจงเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างการจัด คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่ง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี/หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้อนุมัติการปรับโครงสร้าง เพื่อให้การทำงานมีความเหมาะสม สอดคล้องและสามารถตอบสนองต่อความจำเป็นต่อสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โดยโครงสร้างใหม่นี้จะประกอบด้วย 2กลุ่มงานหลัก ได้แก่ กลุ่มงานขับเคลื่อนการบริหารแผ่นดิน และกลุ่มงานขับเคลื่อนภารกิจการรักษาความสงบเรียบร้อย
กลุ่มงานขับเคลื่อนภารกิจการรักษาความสงบเรียบร้อย จะมี พลเอกธีรชัย ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ เลขาธิการ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นผู้กำกับดูแล มีภารกิจในเรื่องการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ การปฏิรูปประเทศ การช่วยเหลือประชาชน และการสนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดิน

โดยแบ่งเป็น 5ส่วนงาน ได้แก่ ส่วนอำนวยการ, ส่วนงานการรักษาความสงบเรียบร้อย, ส่วนงานการบริหารราชการแผ่นดิน, ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย

สำหรับในส่วนของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยนั้น พลเอกธีรชัย ผู้บัญชาการทหารบก จะปฏิบัติหน้าที่เป็น ผู้บัญชาการกองกำลัง อีกฐานะหนึ่ง

พลเอกธีรชัย เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ย้ำให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ยังคงภารกิจในการดูแลสถานการณ์บ้านเมือง รักษาความปลอดภัย ตลอดจนการช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะการป้องปรามและขจัดสิ่งผิดกฎหมาย การจัดระเบียบสังคม ผู้มีอิทธิพล และให้ทำงานร่วมกับจังหวัด และเจ้าหน้าตำรวจ อย่างใกล้ชิด ภายใต้กรอบของกฎหมาย เพื่อสร้างสังคมไทยให้มีความปลอดภัยและประชาชนดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข

การประชุมในวันนี้ พลเอกธีรชัย เลขาธิการ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มอบแนวทางการทำงานที่จะใช้ความร่วมมือกันของทุกส่วนราชการ ทั้งตำรวจ ทหาร พลเรือน ในการขับเคลื่อนภารกิจต่างๆ เพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมที่เกื้อกูลต่อการเดินหน้าตามโรดแม็ปของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ และการบริหารราชการแผ่นดิน

โดยมีงานเร่งด่วนที่จะต้องรีบดำเนินการ คือ เร่งสร้างการรับรู้และสร้างความเข้าใจกับประชาชนใน
เรื่อง การร่างรัฐธรรมนูญ การรับมือกับปัญหาภัยแล้ง และนโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง
โดยให้มีการจัดคณะทำงานร่วมกันเพื่อลงพื้นที่เข้าชี้แจงและรับฟังความต้องการของประชาชน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด โดยการลงพื้นที่จะเป็นไปในลักษณะการนำข้อเท็จจริง และความคืบหน้าในเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินไปแจ้งให้ประชาชนได้ทราบ และนำไปสู่การร่วมมือและป้องกันไม่ให้มีผู้ใดนำข้อมูลไปบิดเบือนเพื่อให้ประชาชนเกิดความสับสน
ทั้งนี้คณะทำงานที่ลงพื้นที่พบปะประชาชนจะประกอบด้วย ฝ่ายจังหวัด ตำรวจ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย และส่วนราชการที่รับผิดชอบในเรื่องนั้นๆ
นอกจากนี้ให้ใช้ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ เป็นกลไกหลัก ในการขับเคลื่อนตามแนวทางขั้นต้น ควบคู่ไปกับการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ที่จะกระจายแผนงานและโครงการต่างๆ ไปให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำจังหวัด ดำเนินการในทุกพื้นที่ เพื่อให้เกิดความรัก ความสามัคคี และการมีส่วนร่วมของประชาชนกับภาครัฐ
เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้กำชับให้ทุกส่วนยึดแนวทางการชี้แจงข้อเท็จจริง และสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน เป็นเครื่องมือหลักในการแก้ไขทุกปัญหา เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลและข้าราชการ พร้อมที่จะดูแลประชาชนในทุกเรื่อง และพยายามให้ทุกปัญหาได้รับการคลี่คลายในระดับพื้นที่
นอกจากนี้ในเรื่องของภัยพิบัติและสาธารณภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งการบริหารสถานการณ์ภัยพิบัตินั้น ทางกระทรวงมหาดไทย โดย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นหน่วยรับผิดชอบหลักอยู่แล้ว และให้ทุกกองทัพภาค และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ให้การสนับสนุนอย่างเต็มความสามารถ มุ่งเน้นให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ให้สอดคล้องกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเป็นประจำในพื้นที่นั้นๆ ในขณะเดียวกันกองทัพบกพร้อมสนับสนุนเครื่องมือพิเศษจากหน่วยทหารช่างเข้าแก้ไขในทุกสถานการณ์

ไม่มีความคิดเห็น: