PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558

"บิ๊กตู่" ฉุน สื่อ ย้อนถามแตะต้องไม่ได้เลยหรือ เตรียมเรียกบางค่ายพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ ยันยังไม่เคยมีใครติดคุก ตำหนิBBC ไทย

"บิ๊กตู่" ฉุน สื่อ ย้อนถามแตะต้องไม่ได้เลยหรือ เตรียมเรียกบางค่ายพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ ยันยังไม่เคยมีใครติดคุก ตำหนิBBC ไทย กล่าวหา ขอจับมือ "Obama" เย้ย รูปถ่ายทางการ 4คน ก็มีออกมา ทำไมไม่พูดถึง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เป็นประธานการประชุม ครม. กล่าวถึงการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนว่า หลายเรื่องที่รัฐบาลทำล้วนแต่เป็นสิ่งใหม่ทั้งสิ้น แต่พวกเราไม่ค่อยรู้ รู้แต่เพียงว่านี่คือการละเมิดสิทธิมนุษยชน ละเมิดจรรยาบรรณสื่อ
"ผมถามว่า สื่อทั้งหมดมีใครถูกติดคุกบ้างไหม มีหรือยัง พูดให้ผมสิ มีที่ไหน มีการเชิญมาพบพูดคุย ทำไมเรียกคนมาคุยก็ไม่ได้หรือ สื่อนี่แตะไม่ได้เลยหรือ เชิญพบไม่ได้หรือ ถ้ามันเข้าใจผิดก็เชิญมาคุยกันเพื่อให้เกิดความเข้าใจ แล้วจากนั้นท่านจะไปเขียนอย่างไร ก็เป็นเรื่องของท่าน ผมก็ทำได้แค่นี้ อย่าให้เป็นเสรีชนประชาขนจนเกินไป จรรยาบรรณต้องมี ประเทศชาติมันเสียหาย
วันนี้สถานการณ์มันไม่ปกติ เพราะปัญหามันเกิดขึ้นต่างๆ เป็นอะไรบ้างท่านก็รู้ ว่าก่อนวันที่ 22 พ.ค. 57 เกิดอะไรขึ้น แล้ววันนี้พวกท่านยังเขียนข่าวแบบเดิมกันอยู่อย่างนี้ มันไม่ได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ในทางที่สร้างสรรค์ ผมก็รับทั้งหมดเพราะผมก็อ่านหนังสือพิมพ์ทุกวัน
แต่ก็ต้องเห็นใจผมบ้าง ว่าผมเป็นคน เป็นมนุษย์ มันก็มีอารมณ์บ้างเป็นบางเวลา ไม่ใช่พระนี่ เมื่อผมตั้งใจก็มีความคาดหวัง แต่มันก็บ่นอะไรไม่ได้อยู่แล้ว
ปัญหาของผมวันนี้คือเพียงขอความเข้าใจ สนับสนุนหรือไม่สนับสนุนก็ไม่เป็นไร แต่อย่าต่อต้านมากนัก หนังสือพิมพ์หลายฉบับ หลายคอลัมนิสต์ ผมไม่รู้เขาเขียนมาได้อย่างไร นอนตื่นขึ้นมาเขียนส่งสำนักพิมพ์แล้วก็นอนต่อหรือเปล่า วันรุ่งขึ้นก็ตื่นขึ้นมาใหม่แล้วเขียนใหม่ เขียนมาอย่างนี้จนแก่กันหมดแล้ว 60-70 ปีก็เขียนแบบเดิม หากินแบบนี้กันมาตลอด ไม่มีข้อมูล ไม่เคยฟังแล้วคนทั้งประเทศก็อ่าน แล้วก็ถูกมอมเมา

คนดีๆ ก็มีอยู่เยอะแยะ อย่างคนรุ่นใหม่ๆ แต่คนเก่าๆ ทำไมไม่เข้าใจ ที่ผมโมโหเมื่อวานนี้ (5 ต.ค.) มีหนังสือพิมพ์เครือข่ายหนึ่งซึ่งทุกคนก็รู้ นั่งอยู่ในที่นี้ด้วย เมื่อสมัยปี 2549 มาพบผมในฐานะ ผบ.ทบ. ด่าว่ารัฐบาลเก่าทั้งสิ้น โดยเฉพาะอดีตนายกรัฐมนตรี แต่วันนี้กลับมาด่าผมแทน ไปเชียร์ข้างโน้น มันด้วยอะไร ตอบหน่อยได้หรือไม่

ทั้งๆ ที่ผมยังไม่ทำอะไรผิดพลาดเลยสักอย่าง ไม่เคยทำผิดกฎหมาย ไม่เคยใช้กฎหมายในทางที่ผิด ใช้อำนาจในทางที่สร้างสรรค์ สร้างความสงบสุข แต่หลายคนก็ออกมาบอกว่าถูกผมละเมิดสิทธิมนุษยชน ก็ในเมื่อสถานการณ์วันนี้จะต้องแก้ไม่รู้กี่ร้อยปัญหา ถ้าปล่อยให้ทุกอย่างสับสนวุ่นวายไปหมด ทุกคนจะทำอะไรก็ได้

ผมก็เพียงแต่ห้าม เพียงแต่ขอร้อง เชิญมาพบปะพูดคุย แต่ท่านก็ยังที่จะเสนอข่าวออกไป ต่างชาติก็ไม่เข้าใจเรา ผมถามว่าแล้วประเทศชาติจะเป็นอย่างไรต่อไป ผมทำคนเดียวก็ไม่ไหว ผมไปประชุมยูเอ็นร้อยครั้งก็ไม่ได้ เพราะทุกคนเสพข่าวจากหนังสือพิมพ์และโซเชียลมีเดีย สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้เราถูกมองว่าประเทศไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง

ทั้งๆ ที่ความสงบสุขก็เกิดขึ้นหรือทุกคนต้องการแบบเดิม มีความวุ่นวายก็เอา จะทำอะไรก็ทำแล้วกัน ผมก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่อยากทำอะไรให้แล้ว แต่วันนี้ยังทำงานให้อยู่ ประชาชน เกษตรกรเดือดร้อนก็คอยออกมายุแหย่ในระดับล่างว่ารัฐบาลไม่ดูแล ขี้เหนียวไม่ยอมจ่ายเงิน ไม่ยอมอุดหนุนชาวไร่ ชาวนา ไม่ยอมดูว่าจริงๆ แล้วรัฐบาลทำอะไรไปบ้างแล้ว 8-9 มาตรการ ใช้เงินหมดไปแสนกว่าล้าน ทำไมไม่ดู จะเอามากกว่านี้อีกถึงเท่าไหร่ งบประมาณก็มีจำกัด"

เมื่อถามว่า นายกฯ จะมีการเตือนสื่อที่พูดถึงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "เตือนไปแล้ว เตือนหลายครั้งแล้ว เจอเขาเรียกมาคุยก็คุยแล้ว เขาก็คุยกับผมดี เจอกันหลายครั้งก็พูดว่าเข้าใจครับ ขอบคุณครับ ท่านนายกฯ ครับขอบคุณครับ"

เมื่อถามว่า จะเรียกตัวแทนBBC ไทยมาพูดคุยด้วยหรือไม่ จากกรณีที่วิพากษ์วิจารณ์การที่นายกฯ จับมือกับนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "จะคุยกับเขาทำไม พวกท่านก็ไปคุยให้ผมสิ และที่เขาพูดนั้น เป็นข้อเท็จจริงหรือที่เขาพูดออกมา แล้วพวกคุณก็เชื่อเขาหรือ"

เมื่อถามต่อว่า แต่เขาวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรีแอบถ่ายภาพดังกล่าวมาเผยแพร่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "วีรชน ทำไม มาถามผมสิ ไม่ต้องไปถามวีรชน ก็ผมยืนของผมอยู่ แล้วเขาเดินมา แล้วเขาจับมือผม ผมก็จับมือกับเขา แล้วผมจะไปขอเขาทำไม ผมก็มีหน้า มีตาของผมเหมือนกัน ผมก็ไปในฐานะผู้นำประเทศนะ แล้วเขาจะไม่จับมือผมเพราะอะไร หรืออยากจะไม่ให้เขาจับมือ จะได้เขียนกันได้ใหญ่โต แล้วเห็นหรือไม่รูปที่ถ่ายร่วมกันกับเขา 4 คน มีหรือเปล่า บีบีซี ชี้แจงหรือไม่ แล้วต่างประเทศเขาก็โพสต์ออกมาแล้วไม่ใช่หรือว่าทำไม่ถูกต้อง"
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สื่อเคยรู้หรือไม่ว่า รัฐบาลทำอะไรมาบ้างใช้งบประมาณไปทำอะไร ดีแต่ตีเรื่องนั้น เรื่องนี้มันก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ควรจะมองในภาพรวมบ้างว่ารัฐบาลทำอะไรไปบ้าง งบประมาณใช้กันอย่างไร ถ้าสื่อไม่เรียนรู้ตรงนี้ก็จะเขียนข่าวแบบนี้ เขียนข่าวเป็นท่อนๆ ท้ายที่สุดตนทำอะไรมาบ้างก็ไม่เกิดอะไรขึ้นมาเลย ประชาชนไม่เคยได้รับรู้ "ท่านต้องการให้ประชาชนโง่อยู่แบบนี้หรือ โง่คิดไม่เป็น วันนี้ผมทำให้เขาฉลาด ซึ่งความจริงเขาก็ฉลาดอยู่แล้ว แต่ถูกปิดตาด้วยความยากจน แล้วก็มีคนมาแสวงหาผลประโยชน์ คนไทย

ผมว่าไม่โง่ แต่ใครที่ไปหลอกลวงถือว่าไปดูถูก แต่ผมไม่เคยหลอกพวกเขา เพียงแต่ให้เวลากับผม ที่กำลังทำงานให้อยู่แล้วสามารถแสดงความคิดเห็นได้ว่าดีหรือไม่ดี มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปชี้แจง ซึ่งไม่มีรัฐบาลไหนทำแบบนี้การสั่งงานแบบทหารจะต้องสั่งแบบนี้ อีกเดี๋ยว คสช.ก็จะไปเดินด้วย เพื่อสำรวจข้อเท็จจริงด้านต่างๆ ที่ผ่านมามีข้อมูลสถิติแต่ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ มีเครื่องมือแต่ไม่เป็นประโยชน์ต่อการบริหาร"

ไม่มีความคิดเห็น: