PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558

สัมโมทนียกถา 'สภาขับเคลื่อน' เปลว สีเงิน

06102558 สัมโมทนียกถา 'สภาขับเคลื่อน' เปลว สีเงิน
บอกให้ "เข้าใจตรงกัน" ซักนิดก่อน........
รัฐธรรมนูญที่ "มีชัย ฤชุพันธุ์" กับอีก ๒๐ เซียนผู้น้อง จะร่วมกันร่าง นับตั้งแต่บ่ายโมงวันนี้ (๖ ต.ค.๕๘) เป็นต้นไป นั้น
ไม่ได้ร่างใหม่ยิบไป ทุกตัว-ทุกมาตรา หรอก!
เพียงแต่เอาของเก่า-ของใหม่มาดู แล้วช่วยกันเสริม-เติม-ตัด-ต่อ และ แต่ง
เสร็จแล้ว..."ปรุงรส" เสิร์ฟ!
อาจารย์มีชัยบอก ๖ เดือน เหลือเฟือ เผลอๆ ๔-๕ เดือน ก็เสร็จด้วยซ้ำ (ผมว่าเอง)
สรุปเป็นว่า ตามที่นายกฯ ประยุทธ์ประกาศไว้เป็นสัตยาบันโลกที่ยูเอ็น จะเลือกตั้งกลางปี ๒๕๖๐
ได้แน่.....
ได้ อะไรไม่รู้นะ!?
เพราะอีกเกือบ ๒ ปี ทุกอย่าง อนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตา พระท่านว่า "ให้อยู่กับปัจจุบัน"
ฉะนั้น อนาคตอีกยาวไกล อย่ารีบขายรถ-ซื้อเรือ!?
ย่างเข้าไตรมาส ๔ แล้ว ก็เหลือเดือน ตุลา-พฤศจิกา และธันวา ถ้าจะเปรียบ เหมือนนายกฯ ถือท้ายเรือตัดยอดคลื่นเข้าฝั่ง เห็นตลิ่งลิบๆ โน่นแล้ว
มิบังอาจเตือน แต่อยากให้สติ.......
ไม่ใช่เรื่องร่างรัฐธรรมนูญ เรื่องเลือกตั้ง แต่เป็นเรื่องลมเพ-ลมพัด "สนิม...เกิดแต่เนื้อในตน"
ที่ระวัง-รอบคอบอยู่แล้ว.......
จากนี้ จงเพิ่มระวัง เพิ่มรอบคอบ ในสิ่ง "ใกล้ตัว" อีกซักอย่างละนอต-สองนอต!
เรื่อง "ปรุงรส" ร่างรัฐธรรมนูญนั้น ดูรายชื่อ ๒๑+๑ ในความเป็น กรธ.แล้วผมเชื่อศิลปบริหารอาจารย์มีชัย ต่อการทำงานในความเป็นหมู่คณะคน "มากปัญญา"
ไม่มีอะไรน่าห่วง และความจริง ก็ไม่ต้องห่วงอะไรด้วยซ้ำ ถ้าตัด ๔ ประเด็น ทิ้งไป คือ
-ประเด็น ส.ส.-ส.ว.
-ประเด็น นายกฯ คนนอก
-ประเด็น ประชามติ
-ประเด็น "คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดอง"
เนี่ย....ถ้าร่างออกมา "ตอบโจทย์" ก็ไม่มีอะไรต้องห่วง แต่ถ้าไม่ตอบ โดยเฉพาะประเด็น "คณะกรรรมการยุทธศาสตร์ฯ" จะยังมีอยู่ หรือหายไปเลย
ตรงนี้แหละที่ หวง-ห่วง-ห้วง เป็นพิเศษ!?
แต่ถ้าใครถามผม "กรรมการยุทธศาสตร์" ต้องมีดี หรือไม่ต้องมีดี?
ใกล้สงกรานต์ ๒๕๕๙....ค่อยมาถาม!
เมื่อวาน (๕ ต.ค.) คลอดแฝด ทั้ง ๒๑ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และทั้ง ๒๐๐ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูป
มี สปช.ที่คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ปะปนกลับเข้ามาด้วยหรือไม่ ผมก็แก่แล้ว หู-ตาไม่ค่อยดี ดูกันเอง
แต่เท่าที่คลำชื่อ พูดกันตามตรง เกือบครึ่งต่อครึ่ง...อยากถามให้แน่ใจว่า
"น้ำหน้าอย่างคนบางคนที่ตั้งเนี่ยนะ ที่นายกฯ มั่นใจว่า พร้อมทำหน้าที่ขับเคลื่อนประเทศ ในความหมาย 'ปฏิรูป' สุจริต-จริงใจ ใสซื่อ ต่อบ้านเมือง?"
จะว่าอีกที การมีสภาขับเคลื่อนฯ ก็เหมือนคนสร้างบ้านใหม่ จริง-เท็จไงไม่รู้ แต่เป็นธรรมเนียม และเพื่อสบายใจทุกฝ่าย
ต้อง "ทำบุญกลางบ้าน".............
เลี้ยงพระ แล้ว เลี้ยงผี ไปด้วยกัน!
อย่าง พันตรีอาณันย์ วัชโรทัย อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
คนนี้ใช่มั้ย...ที่เย้วๆ เป็นหัวหอกให้เปิดบ่อนพนันเสรีในเมืองไทย?
นายดำรงค์ พิเดช นี่อีกคน ลูกขุนพลอยพยัก รณรงค์ให้ประเทศไทยเปิดบ่อนเสรีเหยงๆ ด้วยกัน
ตั้งให้เป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนฯ เจตนาจะให้นายสองคนนี่ เป็นหัวหอก ตั้งเรื่องบ่อนกาสิโน บรรจุไว้ในร่างรัฐธรรมนูญด้วย...รึไง?
หรืออย่าง "นายสุชน ชาลีเครือ"....
ใคร..ในประเทศไทย จำมนุษย์ตนนี้ไม่ได้บ้างว่า สมัยเป็นประธานวุฒิสภา ยุคทักษิณครองเมือง
มันขนาดไหน?
เข้ามาในฐานะ "ญาติผู้ใหญ่" จันทร์ส่องหล้า หรือในฐานะ "ตัวแทน" เพื่อไทย ตรงนี้....ไม่ทราบ
ทราบแต่ว่า ถ้า คสช.ต้องการคนมีคุณสมบัติพรรค์อย่างนี้ มาปฏิรูป-ขับเคลื่อนประเทศละก็
บอกแต่เนิ่นๆ ก็จะช่วยเอาที่ตักขยะ โกยไปให้สัก ๒-๓ รถบรรทุก!
มีอยู่คน ตั้งแต่ "อำนาจเปลี่ยนยุค" ก็ "หายหน้า-หายตา" ไปจากท้องตลาดเพิ่งโผล่คราวนี้ เหมือน "ขอมดำดิน" คือ
พล.ต.อ.ดร.ชิดชัย วรรณสถิตย์.......!
กงสุลกิตติมศักดิ์ ประเทศจอร์แดน ปัจจุบัน ผู้หวุดหวิดจะได้เป็นทั้ง ผบ.ตร. และนายกรัฐมนตรี
ด้วยดีกรี เงาสนิทชิดใกล้ทั้ง "นายหญิง-นายใหญ่" แห่งจันทร์ส่องหล้า ในยุคจักรวรรดินิยมอำนาจระบอบทักษิณครองประเทศ
และโปรดทราบ ท่านเป็น "พี่ชาย" นายแพทย์เชิดชัย ตันติศิรินทร์ แกนนำ นปช.อีสานตัวพ่อ มีซาบซ่าทั้งในสภาฯ-นอกสภาฯ
การเข้ามาขับเคลื่อนครั้งนี้ มาในฐานะเพื่อไทยส่งประกวด หรือ "ทีมประยุทธ์" คัดสรร ก็ไม่ทราบอีกเหมือนกัน
แต่ถ้าไม่พูดถึงความเป็นสายเลือดระบอบทักษิณ.....!
เอาเฉพาะความเป็น พล.ต.อ.ชิดชัย ท่านมีความรู้ถึงขั้นสามารถรับใช้ระบอบทักษิณ สูงในระดับรองนายกฯ ระดับรัฐมนตรีว่าการ หลายกระทรวง
ฉะนั้น ถ้าเปลี่ยนจากรับใช้ระบอบทักษิณ เอาคุณสมบัติเหล่านั้นมารับใช้สังคมบ้านเมือง
ท่านมีความเหมาะสมยิ่งนัก!
ความจริง ถ้าย้อนไปตอน "บิ๊กบัง" ทำรัฐประหาร ยึดอำนาจทักษิณกลางอากาศ ๑๙ กันยา ๔๙
ในสถานการณ์แปรเปลี่ยนประเทศ.........
ก็เพราะ "การตัดสินใจ" บางประการของ "พล.ต.อ.ชิดชัย" ที่ทักษิณประกาศตั้งให้เป็น "นายกฯรักษาการ" ในวันนั้น โดยตรง
ทักษิณจึงต้องเป็นสัมภเวสี ตราบวันนั้น ถึงวันนี้ และเช่นนั้นจนวันตาย ส่วนหนึ่งจาก "การตัดสินใจ" ในสถานการณ์นั้น ของ พล.ต.อ.ชิดชัย!
อยากให้อ่านเว็บ www.thaiindexnews.com/2009/11/19-49.html
คุณปรีชา จาสมุทร เขียนไว้ ถือเป็น "เบื้องหลัง" ปฏิวัติ ๑๙ กันยา ๔๙ ได้เลย ขออนุญาต "เก็บความ" บางตอนเป็นตัวอย่าง
............."สุเมธ" เป็นขุนพลคนล่าสุดที่เป็นกำลังหลักให้พรรคเพื่อไทย พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี เพื่อนตาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นโต้โผหอบหิ้วเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร (ตท.) 10 รวม 52 คน ที่เกษียณอายุมาสวมเสื้อแดง ใต้แบรนด์เพื่อไทย
ว่าไปแล้ว พล.อ.อ.สุเมธกับทักษิณ เป็นคู่หูตั้งแต่เป็นนักเรียน ตท.10 ด้วยกัน...."ซี้กันมาก เพราะเคยแอบลอกข้อสอบทักษิณ ตอนเรียนเตรียมทหาร 2 ปี"
จุดหักเหชีวิตทักษิณ อยู่ที่ปฏิวัติ 19 กันยา 49 ซึ่งมี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ และเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติคนเดียว ที่มีอำนาจหลังการยึดอำนาจเพียง 14 วัน
เหตุการณ์ยึดอำนาจวันนั้น ยังพอจำกันได้ว่า เป็นการยึดอำนาจเหมือน "การลักไก่"
คณะปฏิวัติไม่มีความพร้อมในการบริหารจัดการกำลังรบในวันนั้น.....เหตุการณ์อาจจะเปลี่ยน ถ้าผู้รักษาการนายกฯ แทนทักษิณ
ไม่ได้ชื่อ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์?
พล.อ.อ.สุเมธ เคยเล่าให้นักข่าวฟัง.....ในวันเกิดเหตุ 19 กันยา เขาคือคน "คุมกำลังรบ" ของกองทัพอากาศ ในหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน มีกองกำลังรบภาคพื้นดินและภาคอากาศที่ทรงประสิทธิภาพของกองทัพไทย
พล.อ.อ.สุเมธ พูดถึงความหลังครั้งนั้น ว่า.....
"ต้องเข้าใจว่า กองทัพอากาศจะมีหน่วยบัญชาการอากาศโยธินที่คุมกำลังทั้งหมด ซึ่งของผมยังอยู่พร้อม ถ้ารัฐบาล (ทักษิณ) ประกาศต่อสู้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย จนกระทั่งเขาประกาศ 'รัฐบาลยอมแพ้' ผมก็ต้องวางอาวุธ ตอนนั้นประมาณ 4 ทุ่ม"
"การปฏิวัติในวันนั้น ตอนบ่ายๆ ก็มีข่าวมาเรื่อยๆ ผมก็รอรับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาว่า เขาจะสั่งกันอย่างไร ตอนนั้น พล.ต.อ.ชิดชัย โทร.มาถามว่าจะทำอย่างไร?
ผมก็บอก...ให้ประกาศภาวะฉุกเฉิน พอมีเหตุการณ์ขึ้นจริงๆ ก็ใช้แผนของการปราบปราม ด้วยการเรียก ผบ.เหล่าทัพมา มันก็จะเป็นการสู้อย่างเป็นรูปธรรม แต่ปรากฏว่าไม่มีใครทำ"
...............ในสังคม "นักรบ" ทุกคนรู้กันว่า ถ้าในวันนั้น แค่รักษาการนายกฯ อย่าง พล.ต.อ.ชิดชัย จะสวมหัวใจสิงห์สักอึดใจเดียว สั่งการไปยัง พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ในฐานะผู้คุมกองกำลัง ซึ่งมีหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน แล้ว..."สั่งให้สู้"
เหตุการณ์ก็จะพลิกผันได้ไม่ยาก!
เพราะ พล.อ.สนธิเองกลับ "ไม่พร้อม" ต้องรอกำลังจากกองทัพภาคที่ 3 และกำลังที่มาจากชายแดนในวันนั้น...ฯลฯ....
ครับ...พอเป็นน้ำจิ้ม ไปคลิกอ่านเอง แล้วปรับทัศนคติจากที่เคยมีต่อ พล.ต.อ.ชิดชัยเอง...ตามที่ชอบ.

ไม่มีความคิดเห็น: