PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ไอเอส.ใกล้บ้านท่าน

17พ.ย.58



17112558 อินโดฯ มาเลเซีย สิงคโปร์ เชื่อมี ISIS สาขาใกล้บ้านท่านแล้ว โดย : กาแฟดำ
สัปดาห์นี้จะมีการประชุมระดับโลกสองเวที คือ G-20ที่ตุรกีและ Apec ที่มะนิลา ซึ่
งผมเชื่อว่าวาระสำคัญอันดับต้น ๆ ของเดิมจะเป็นหัวข้ออะไรก็ต้องเปลี่ยนเป็นประเด็น “การก่อการร้ายสากล” เพราะเกิดกรณี “สังหารหมู่” ที่ปารีสก่อนการประชุมใหญ่เพียงไม่กี่วัน
ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีน และนายกฯชินโซะ อาเบะ ของญี่ปุ่นจะไปปรากฏตัวพร้อมกัน ในงานประชุมใหญ่ทั้งสองแห่ง จึงพอจะเดาได้ไม่ยากว่าจะมีการประเมินอันตรายของการก่อการร้ายระหว่างประเทศ และออกแถลงการณ์ร่วมมือเพื่อทำสงคราม กับกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงต่าง ๆ เหล่านี้ได้อย่างไร
เป้าหลักคงจะหนีไม่พ้นกลุ่ม ISIS (Islamic State in Iraq and Syria) ที่ประกาศว่าตนเป็นผู้โจมตีปารีส 6 จุดพร้อม ๆ กันเมื่อคืนวันศุกร์ก่อนจนมีคนตายกว่า 130 คนและบาดเจ็บกว่า 350 คน
เมื่อกลุ่มนี้แสดงตนชัดเจนอย่างนี้ และทำท่าว่าจะขยายการปฏิบัติการออกนอกอิรักและซีเรียเพื่อให้องค์กรของตนเป็นองค์กรข้ามชาติ ผู้นำในการประชุมสุดยอดทั้งที่ตุรกีและฟิลิปปินส์ก็คงจะต้องวางมาตรการเข้มขึ้นกว่าเดิม
ยิ่งการประชุมสุดยอด Apec ปีนี้จัดที่มะนิลาก็ยิ่งใกล้กับจุดที่ผู้นำในอาเซียนหลายท่านได้แสดงความเป็นห่วงเป็นใยว่า ISIS ได้ขยายอิทธิพลมาในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้วโดยเฉพาะได้ใช้ประเทศแถบนี้เป็นที่รับสมัครผู้เข้าร่วมขบวนการมาระยะหนึ่งแล้ว
ภาพที่เอามาให้ดูนี้มาจากหนังสือพิมพ์ The Star ที่บอกว่าเป็นผู้ที่ทางการมาเลเซียไล่ล่าอยู่เพราะสงสัยว่าเกี่ยวโยงกับเหตุการณ์รุนแรงในประเทศ
ข่าวชิ้นเดียวกันนี้บอกว่าผู้ต้องสงสัยเหล่านี้หลบหนีไปอยู่ทางใต้ของฟิลิปปินส์กำลังเตรียมจะตั้ง “กลุ่มทางการของ ISIS” สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยที่กลุ่มนี้เตรียมจะรวมเอาหน่วยก่อการร้ายในมาเลเซีย อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์เป็นส่วนหนึ่งของการตั้งองค์กรใหม่นี้ด้วย
หนังสือพิมพ์มาเลเซียฉบับนี้บอกว่าหนึ่งในกลุ่มที่ว่านี้คือ Abu Sayyaf Group (ASG) ซึ่งถูกทางการมาเลเซียตั้งข้อหาก่อการร้าย
ผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจมาเลเซียต้องการตัวโดยอ้างว่าไปร่วมกิจกรรมกับ ISIS มีทั้งอดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยและอดีตลูกจ้างเทศบาลท้องถิ่นรวมไปถึงเจ้าของร้านชำ
ตำรวจมาเลเซียบอกหนังสือพิมพ์ The Star ว่าแกนนำของผู้ต้องสงสัยคนนี้เคยประกาศในวีดิโอว่าเขาจะก่อตั้งสาขา ISIS ภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และได้พยายามเดินทางไปซีเรียเพื่อทำพิธีสาบานตนต่อหัวหน้าใหญ่ของ ISIS ที่นั่น
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีหลี่เสียนหลงเคยให้คำปราศรัยเปิดเผยว่า ISIS ได้เพิ่มกิจกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างชัดเจนจนขณะนี้มีหน่วยรบก่อการร้ายที่รับสมัครจากอินโดนีเซีย มาเลเซียและสิงคโปร์
ผู้นำสิงคโปร์บอกว่า “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นศูนย์การหาสมาชิกที่สำคัญสำหรับ ISIS... โดยขณะนี้มีสมาชิกที่เป็นอินโดนีเซียมากกว่า 500 คนและมาเลเซียอีกหลายสิบคน”
หลี่เสียนหลงบอกว่า ISIS มีนักรบจากอินโดฯ และมาเลเซียมากถึงขนาดที่ตั้งเป็นหน่วยรบ แยกออกมาเป็นพิเศษชื่อ Katibah Nusantara หรือแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Malay Archipelago Combat Unit หรือ “หน่วยรบหมู่เกาะมาเลย์”
ในสิงคโปร์เองก็พบว่ามีคนรุ่นใหม่บางคนหลบไปซีเรียเพื่อร่วมขบวนการ ISIS แล้ว “และเราก็สกัดจับอีกบางคนที่เตรียมตัวจะไปร่วมกับไอซิสที่ซีเรีย” นายกฯสิงคโปร์บอกพร้อมเสริมว่า
“เมื่อเร็ว ๆ นี้เราจับนักเรียนได้สองคน อายุ 17 กับ 19 ที่ยอมรับว่าเตรียมไปร่วมขบวนการไอซิสที่ซีเรีย คนหลังนี้บอกว่าได้เตรียมจะลอบสังหารเจ้าหน้าที่รัฐบาลสิงคโปร์ ถ้าหากเขาไม่สามารถไปถึงตะวันออกกลางได้"
หลี่เสียนหลงบอกว่าด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจึงเอาจริงเอาจังกับเรื่องก่อการร้ายโดยเฉพาะ ISIS เป็นพิเศษ เพราะการคุกคามที่ว่านี้ไม่ได้อยู่ข้างนอกแล้ว แต่มาอยู่ในบ้านนี่เอง
“This is why Singapore takes terrorism, and in particular ISIS, very seriously. The threat is no long over there. It’s over here.”
วีดีโอโฆษณาชวนเชื่อและรับสมัครสมาชิกใหม่ของ IS ชิ้นหนึ่งมีเด็กพูดภาษามาเลย์พร้อมอาวุธภายในเขตควบคุมของไอซิส
วีดีโออีกชิ้นหนึ่งอ้างว่าสมาชิก IS ที่เป็นชาวมาเลเซียสองคนกำลังตัดหัวชาวซีเรียคนหนึ่งด้วย
หลังเหตุฝันร้ายที่ปารีสเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วเชื่อได้ว่าผู้นำชาติต่าง ๆ ที่ประชุมสุดยอดทั้ง G-20 และ Apec ก็จะต้องนำเอาประเด็น “ความเป็นสากล” ของไอซิสมาถกเพื่อลงรายละเอียดว่าจะร่วมมือป้องกันไม่ให้เกิดกรณี “สังหารโหด” เช่นนี้ไม่ว่าจะส่วนไหนของโลกได้อย่างไร
เพราะเมื่อไอซิสเปิด “สาขาใกล้บ้านท่าน” ขึ้นมาอย่างนี้ ย่อมไม่มีรัฐบาลไหนอยู่เฉยได้อย่างแน่นอน 

ไม่มีความคิดเห็น: