PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

อาจารย์เข้ามอบตัวถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคสช.

อาจารย์มหา'ลัยตบเท้ามอบตัว ถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคสช.
Cr:เดลินิวส์
เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายอรรถจักร สัตยานุรักษ์ อาจารย์สาขาวิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายสมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายจรูญ หยูทอง นักวิชาการสถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ นายณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ นายมานะ นาคำ อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก หลังได้รับหมายเรียกในข้อกล่าวหา "ร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศหรือคำสั่งหัวหน้าคสช."
โดย พ.ต.อ.มณฑป แสงจำนง รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ซึ่งเดินทางมาดูแลในคดีนี้ ได้เชิญอาจารย์ทั้ง 5 คนเข้าชี้แจงที่ห้องประชุมของโรงพัก จากนั้นก็ได้ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในการเรียกอาจารย์ทั้ง 5 คนมารับทราบข้อกล่าวหาในครั้งนี้ก็สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา อาจารย์ทั้งหมดได้จัดกิจกรรมเสวนาและร่วมกันอ่านแถลงการณ์เรื่อง "มหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร" โดยมีเนื้อหาที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนในสถาบันอุดมศึกษา ว่าเป็นกระบวนการที่ทำให้เกิดการต่อต้านรัฐบาล ซึ่งไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อสังคมไทย โดยรวมนั้นซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการฝ่าฝืนประกาศหรือคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ระบุว่าห้ามร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ทางพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายเรียกไป ซึ่งทางอาจารย์ทั้ง 5 คนก็ได้เดินทางมาในวันนี้ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา จากนั้นก็จะได้ส่งเรื่องฟ้องต่อศาลตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนอาจารย์ทั้งหมดนั้น ก็ได้ปล่อยตัวไปโดยไม่มีหลักประกัน เพราะเป็นการเรียกมาให้รับทราบข้อกล่าวหาเท่านั้น ด้าน รศ.ดร.สมชาย กล่าวว่า ตนเองและอาจารย์ทุกคนที่ถูกหมายเรียกได้ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาโดยสิ้นเชิง ส่วนการประชุมที่ทำให้ถูกออกหมายเรียกนั้น อาจารย์ทุกคนเห็นว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นไม่น่าผิดอะไร ก็พร้อมสู้ในชั้นศาลต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น: