PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2559

ศาลสืบพยานครั้งแรกคดีข้าวร้อนแรง! งัดคลิปสัมภาษณ์‘ปู’มัดเซ็น MOU จีน

15มกราคม 2559
“…ช่วงซักถามนายนพดล และนายนิพนธ์ เป็นไปอย่างร้อนแรง เนื่องจากทนายฝ่ายจำเลยมักถามคำถามซ้ำ ๆ เดิม ๆ ทำนองว่า โครงการประกันราคาข้าวแตกต่างจากโครงการรับจำนำข้าวอย่างไร ข้อดีข้อเสียอย่างไร ทำให้ทั้งคู่ต้องชี้แจงกลับไปทำนองว่า เคยตอบ และอธิบายคำถามดังกล่าวไปหมดแล้ว…”
PIC puuuu 15 1 59 1 
เริ่มต้นการไต่สวนพยานในคดีที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ท่ามกลางมวลชนจำนวนไม่น้อยที่มากันตั้งแต่เช้าเพื่อให้กำลังใจ ‘อดีตนายกฯ ปู’ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 กองร้อยคอยรักษาความสงบอย่างเข้มงวด
สำหรับวันนี้เป็นการนัดไต่สวนพยาน ‘ฝ่ายโจทก์’ จำนวน 4 ปาก ได้แก่ นายนพดล ทิพยวาน บรรณาธิการข่าวการเมืองและความมั่นคง สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 โดยจะสอบถามเรื่องข่าวที่ได้รวบรวมเนื้อหาในโครงการรับจำนำข้าว นายนิพนธ์ พัวพงศกร อดีตประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เปิดประเด็นโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่เริ่มต้น โดยมีคำถามทั้งหมดกว่า 160 คำถาม
นายประจักษ์ บุญยัง รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นำสืบประเด็นการทำหนังสือเตือนรัฐบาล และการตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวว่ามีข้อบกพร่องหรือไม่ และนายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นำสืบเรื่องความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว
เห็นภาพบรรยากาศนอกศาลไปแล้ว บรรยากาศในศาลเป็นอย่างไร สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รวบรวมไว้ ดังนี้
การนำสืบพยานปากแรกเริ่มต้นที่นายนพดล โดยให้การยอมรับว่า ไม่เคยไปให้การในชั้นไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก่อนหน้านี้ และมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวเป็นไปตามที่จำเลยให้การสัมภาษณ์ เช่น จำเลยให้ข่าวยอมรับว่ามีการเซ็นสัญญา MOU (ความร่วมมือ) กับบริษัทค้าข้าวกับประเทศจีนแล้ว โดยมีการเบิกพยานหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอด้วย
อย่างไรก็ดีประเด็นนี้ทนายฝ่ายจำเลยซักค้านว่า ทำไมเนื้อหาของข่าวกับพาดหัวข่าวไม่ตรงกัน อย่างไรก็ดีนายนพดล ยังยืนยันว่า นำเสนอข่าวเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวเป็นไปตามที่จำเลยให้สัมภาษณ์ทั้งหมด 
ทั้งนี้สำหรับคลิปวีดีโอดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2555 และฝ่าย อสส. นำมาใช้เป็นพยานหลักฐานในกรณีนี้ด้วย โดยนักข่าวถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า เคยเห็นสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจีหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า “เคยเห็นค่ะ เป็น MOU” จากนั้นนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ที่ยืนอยู่ด้านหลังชี้แจงเพิ่มเติมว่า “เป็น Sale Contract ครับ ไม่ใช่ MOU” 
ต่อมานายนิพนธ์ เป็นพยานปากที่สอง ให้การโดยเปรียบเทียบความแตกต่างในผลวิจัยของนโยบายประกันราคาข้าว กับนโยบายจำนำข้าว พร้อมกับเพิ่มพยานหลักฐานเป็นเอกสาร และซีดี ที่เป็นข้อมูลดิบการวิจัยประกอบการให้ปากคำด้วยโดยยอมรับว่า นโยบายประกันราคาข้าว และจำนำข้าว เป็นนโยบายที่มีมานานกว่า 30 ปีแล้ว และโครงการประกันราคาข้าวสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถูกนำมาใช้ครั้งแรก ซึ่งรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ไม่ได้ทำตามข้อเสนอทั้งหมด
ส่วนนโยบายจำนำข้าวเป็นการรับจำนำในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด ยกเว้นเมื่อมาถึงรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลของจำเลย ได้เปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ให้มีการรับจำนำข้าวที่สูงกว่าท้องตลาด ซึ่งในทางเศรษฐศาสตร์ ถือว่าเป็นการประกันราคาข้าว ไม่ใช่การจำนำข้าว ดังนั้นโครงการดังกล่าวจึงเป็นการทำให้เกษตรกรมีฐานะร่ำรวย ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด
นายนิพนธ์ ยอมรับด้วยว่า TDRI ทำวิจัยเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว ก่อนที่ ป.ป.ช. จะไต่สวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในคดีนี้ ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวเป็นการว่าจ้างของ ป.ป.ช. และถือเป็นลิขสิทธิ์ของ ป.ป.ช. โดยสามารถปรับแก้คำนำได้ แต่ไม่สามารถปรับแก้ในเนื้อหาที่มีการศึกษาวิจัยมาแล้วได้
ด้านพยานฝ่ายจำเลยซักค้านนายนิพนธ์ถึงความเหมาะสมในการทำหน้าที่นักวิจัย นายนิพนธ์ ยืนยันว่า ทำหน้าที่อย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่เคยเลือกปฏิบัติ 
อย่างไรก็ดีในช่วงซักถามนายนพดล และนายนิพนธ์ เป็นไปอย่างร้อนแรง เนื่องจากทนายฝ่ายจำเลยมักถามคำถามซ้ำ ๆ เดิม ๆ ทำนองว่า โครงการประกันราคาข้าวแตกต่างจากโครงการรับจำนำข้าวอย่างไร ข้อดีข้อเสียอย่างไร ทำให้ทั้งคู่ต้องชี้แจงกลับไปทำนองว่า เคยตอบ และอธิบายคำถามดังกล่าวไปหมดแล้ว 
เมื่อนายนิพนธ์เข้าให้ปากคำในฐานะพยานเสร็จสิ้น ศาลจึงมีคำสั่งให้พักการไต่สวนไว้ชั่วคราวเพื่อรับประทานอาหารในเวลาประมาณ 12.00 น. โดยในช่วงแรกถามคำถามไปแล้วประมาณ 30 คำถาม ยังเหลือคำถามอีกประมาณ 130 คำถาม
อย่างไรก็ดีคำถามวันนี้ ยังไม่มีประเด็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีพฤติการณ์ไม่ระงับความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่า พยานที่เหลืออีก 2 ปาก ได้แก่นายประจักษ์ และนายจิรชัย อาจจะเลื่อนการให้ปากคำในวันนี้ออกไปก่อนเนื่องจากติดภารกิจราชการในช่วงเวลาบ่าย ทำให้คาดว่าในวันนี้ศาลจะไต่สวนพยานได้แค่ 2 ปากเท่านั้น
ทั้งนี้ระหว่างพักรับประทานอาหาร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมยืนยันจะต่อสู้คดี โดยนำข้อมูลที่พยานฝ่ายโจทก์ชี้แจงไปเตรียมข้อมูลโต้แย้งเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อตัวเองอีกด้วย
สำหรับพยานฝ่ายโจทก์ที่น่าสนใจและต้องจับตามองคือ นพ.วรงค์ เดชวิกรม อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ผู้เปิดโปงพฤติการณ์ทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลชุดที่แล้ว รวมถึงข้าราชการระดับสูงในกระทรวงพาณิชย์ และข้าราชการเกี่ยวกับการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวในกระทรวงการคลัง ที่ยังไม่ได้ถึงวันนัดสืบพยาน
ทั้งหมดคือความเคลื่อนไหว-บรรยากาศที่ศาลฎีกาฯ ในวันนัดไต่สวนพยานครั้งแรกในคดีโครงการรับจำนำข้าว และยังเหลืออีก 19 นัด โดยนัดต่อไปเป็นช่วงปลายเดือน ม.ค. นี้ ถัดจากนั้นแบ่งเป็นเดือนละ 2 นัด ลากยาวไปสิ้นสุดช่วงปลายปี 2559
ท้ายสุดคดีนี้จะมีบทสรุปเช่นไร ปลายปีนี้รู้ผล !

ไม่มีความคิดเห็น: