"บิ๊กเจี๊ยบ"ประชุม คสช. สั่ง ทุกส่วนสนับสนุนกระบวนการสามัคคีปรองดองของรัฐบาล สั่ง เปิดพื้นที่ให้ทุกภาคส่วนมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น /ใช้สื่อสร้างการมีส่วนร่วมสร้างความรัก ความสามัคคี
ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ./เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พันเอกหญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคสช.กล่าวว่า พลเอกเฉลิมชัย ได้ให้ความสำคัญกับการสานต่องานด้านการสร้างความรักความสามัคคีและความปรองดองของคนในชาติ โดยมอบหมายให้ทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการสนับสนุนงานสร้างความสามัคคีปรองดองตามแนวทางที่รัฐบาลกำหนด
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ดำเนินการสร้างความรัก ความสามัคคีในรูปแบบต่างๆ เช่น จัดโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับความรัก ความสามัคคี การเปิดพื้นที่ให้ทุกภาคส่วนมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การใช้สื่อเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการสร้างความรัก ความสามัคคี เป็นต้น
สำหรับการช่วยเหลือประชาชนต่อสถานการณ์หลังน้ำลดในพื้นที่ภาคใต้นั้น พลเอกเฉลิมชัย กำชับให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 4 ดำเนินตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ให้กองทัพเข้าไปซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายในทุกพื้นที่ ในเวลาเดียวกัน ภายใต้การบริหารจัดการในภาพรวมของทางจังหวัด
โดยในส่วนของกองทัพภาคจะจัดทหารชุดช่างที่เหมาะสมกับความเสียหายของสิ่งก่อสร้าง มีการประสานงานกับกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อนำศักยภาพของนักศึกษาอาชีวะเข้ามามีส่วนร่วมในงานซ่อมแซมบ้านให้กับประชาชนด้วย
ทั้งนี้ให้ดำเนินการควบคู่ไปกับการฟื้นฟูสภาพจิตใจของประชาชน โดยทีมแพทย์จากกระทรวงสาธารสุขและชุดแพทย์ของหน่วยทหาร เพื่อให้สภาวะโดยรวมของภาคใต้กลับมาเป็นปกติให้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ พลเอกเฉลิมชัย ยังได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ส่วนราชการ หน่วยทหาร ได้ร่วมกันสร้างความพร้อมในการเข้าคลี่คลายเหตุการณ์ หากเกิดอัคคีภัยในชุมชนเมือง หรืออาคารสูง ซึ่งเหตุดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศในช่วงนี้
โดยย้ำให้ทุกส่วนดำเนินการซักซ้อม ประสานงาน ให้สามารถเข้าคลี่คลายสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสม เพื่อลดและป้องกันการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
การประชุมในวันนี้ พลเอกเฉลิมชัย ยังได้ให้ความสำคัญในเรื่องการสร้างสภาวะแวดล้อมที่ส่งเสริมและเอื้ออำนวยต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ โดยให้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยในทุกพื้นที่ประสานงานและบูรณาการ ร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ เช่น การป้องกันไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ การจัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาคต่างๆ ให้มีความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการให้มากที่สุด
ทั้งนี้ เพื่อให้การท่องเที่ยวยังคงเป็นธุรกิจสำคัญที่ช่วยสร้างรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ ในเรื่องของการป้องกันไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ ทางกองทัพภาคที่ 3 ได้เตรียมการป้องกันและคลี่คลายสถานการณ์ในทุกด้านไว้แล้ว รวมถึงการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน และจะใช้ช่วงเวลาต่อจากนี้เร่งสร้างจิตสำนึกของประชาชน เพื่อมิให้ไฟป่าและหมอกควันส่งผลกระทบต่อประชาชนและการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น