PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2560

โจทย์ภายในยากกว่า

โจทย์ภายในยากกว่า

เมื่อ “เปรี้ยว-น้องเปรี้ยว-อีเปรี้ยว” กลายเป็นปรากฏการณ์
ประจาน “ไทยแลนด์โอนลี” เมืองไทยแห่งเดียวที่ “ฆาตกรโหดฆ่าหั่นศพ” กลายเป็น “เน็ตไอดอล” โด่งดังราวกับเป็นคนสำคัญระดับประเทศ
เหตุเกิดในสังคมไทยยุคสื่อโซเชียลมีเดียทรงอิทธิพล
“หลักการ” ถูกกระแสคลื่นแห่งอารมณ์เสพสื่ออย่างฉาบฉวยพัดล้มจนแทบไม่เหลือ
ผิด ชอบ ชั่ว ดี มาทีหลังเรื่องของความเด่นดัง
เอาเป็นว่า ปรากฏการณ์ “เปรี้ยว” ได้รับความสนใจจากสังคมมากกว่าการรับรู้ความเป็นไปในบ้านเมือง โดยเฉพาะข่าวการเมืองที่วนซ้ำไปซ้ำมากับเรื่องของความขัดแย้ง
ล่าสุดถึงคิวขัดลำกันเองของทีมงานแม่น้ำ 5 สาย
กับกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติไม่ให้ กกต.ชุดปัจจุบันทั้ง 5 คน อยู่ในตำแหน่งจนครบวาระนำไปสู่วาทกรรม “เซ็ตซีโร่” กกต.
สร้างความไม่พอใจให้กับ 5 เสือ โดยเฉพาะรายของนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. คนดังที่ตั้ง “4 คำถาม” ย้อนศรกันแบบแสบๆคันๆ
นั่นไม่เท่ากับเสียงทักดักคอดังๆจากฝั่งนักการเมืองที่คัดค้าน ต่อต้านยุทธการเซ็ตซีโร่ กกต.ที่ส่อล้มกระดานฝ่ายจัดการเลือกตั้ง
เป็นมุกเลื่อนเลือกตั้งแบบไม่เนียน
เซียนการเมืองช่วยกันแห่กระแส ระแวงเกมลากยาวของรัฐบาลทหาร
ทุกอย่างถูกผูกเงื่อนไว้กับสถานการณ์เลือกตั้ง
ไฟต์บังคับตามสัญชาตญาณของนักการเมืองอาชีพที่โหยหาเวทีสภา อยากหวนคืนสนาม หลังจากตกงานมา 3 ปีจนเข้าสู่ปีที่ 4 ทนอดอยากปากแห้งต่อไปไม่ไหวแล้ว
ตามแนวโน้มสถานการณ์แบบเนียนๆที่โคตรเซียนยี่ห้อประชาธิปัตย์ใช้ฉากการหวนคืนถ้ำของทีมงาน กปปส. จัดอีเวนต์โชว์สื่อในห้องกาแฟของพรรค
กระตุกกระแสกองเชียร์ให้กลับมาคึกคักแต่หัววัน
ทั้งๆที่ คสช.ยังไม่ได้ปลดล็อกกฎเหล็กห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรมแต่อย่างใด
ที่แสบกว่านั้นก็คือการแท็กทีมแตะมือกับพรรคเพื่อไทยเปิดยุทธการเบิ้ล บลัฟ วิพากษ์วิจารณ์ผลงานของรัฐบาลในรอบ 3 ปี
ประชาธิปัตย์เป็นค่ายเดียวที่ตีกินกระแสได้แทบทุกช็อต
และก็เหมือนเพิ่งตั้งหลักได้ ตามจังหวะที่รัฐบาล คสช. เริ่มปฏิบัติการแถลงโชว์ผลงานครบรอบ 3 ปี ผ่านรายการเดินหน้าประเทศไทยทางสถานีโทรทัศน์
เน้นไปที่การแก้ปัญหาธงแดงไอเคโอ สางปมปัญหามาตรฐานการบินพลเรือน
ตามรูปการณ์ช็อตต่อไปก็คงจะเป็นเรื่องการแก้ไขปัญหาสินค้าประมงจากปมการค้ามนุษย์ที่โดนแบนจากต่างประเทศ สามารถปลดล็อกจากระดับเทียร์ 3 กลับมาสู่เทียร์ 2 ได้สำเร็จ
2 ช็อตสำคัญที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นโบแดงของรัฐบาลอำนาจพิเศษ
คสช.ต้องเฟ้นเนื้องานที่จับต้องได้ แก้เหลี่ยมเกมประจานกันลอยๆแบบนักการเมือง
ตามท้องเรื่องมาถึงจุดนี้ ดูท่าแรงเสียดทานภายในจากการทุบทำลายความเชื่อมั่นกันเอง ของขบวนการร่วมด้วยช่วยกันเขย่ารัฐบาลทหาร คสช. เร่งเกมเลือกตั้ง
จะกลายเป็นโจทย์ที่เคลียร์ยากกว่าแรงเสียดทานนอกประเทศ
ในสถานการณ์หัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญทางเศรษฐกิจ
ล่าสุดที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ ขนคณะใหญ่บินไปโรดโชว์เมกะโปรเจกต์ที่ประเทศญี่ปุ่น เชิญให้มาร่วมลงทุนที่เมืองไทย
อีกด้านก็มีโปรแกรมที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. เตรียมเหินฟ้าไปเยือนสหรัฐอเมริกาในเดือนกรกฎาคม ตามคำเชิญของประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์”
สหรัฐฯ ญี่ปุ่น รวมถึงจีน ขาใหญ่โลกที่รัฐบาล คสช.ต้องเหนื่อยในการประคองดุลอำนาจ
และถึงที่สุดเลย เมื่อเจรจาผลประโยชน์ร่วมกันลงตัวก็จบโดยดี
แต่ที่ไม่จบก็คือการเมืองไทยที่ไร้ซึ่งคำว่า “สปิริต” เพื่อชาติ.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: