PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ธงนำของพรรคประชาธิปัตย์

ธงนำของพรรคประชาธิปัตย์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการหรือร่วมกับอดีตส.ส.พรรค ที่ไปทำงานกับกลุ่มกปปส. ว่า
- กลุ่มคนเหล่านี้เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ คนที่มาพรรคในเวลานี้เพราะมีความชัดเจนในเรื่องของกฎหมายพรรคการเมือง และกฎหมายเลือกตั้งกำลังจะออกมาแล้ว จึงคิดว่าเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสมที่จะกลับมา โดยผมได้บอกว่าการมาอยู่กับพรรคต้องยึดอุดมการณ์และหลักการของพรรค ซึ่งเป้าหมายของคนเหล่านี้คือการปฏิรูปประเทศ และการต่อสู้กับระบอบทักษิณ ถือเป็นแนวทางที่พรรคฯยึดถือและเดินหน้าปฏิรูปประเทศอยู่แล้ว สิ่งที่รัฐบาลปัจจุบันทำได้ก็อยากให้ทำ แต่ถ้าทำไม่ได้พรรคฯพร้อมที่จะเดินหน้า เช่น การปฏิรูปตำรวจ การปฏิรูปสื่อ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองบนวิถีทางประชาธิปไตย โดยทุกคนที่มาวันนี้ก็สนับสนุนแนวทางของพรรค

ด้านแนวคิดของนายสุเทพ ที่ประกาศสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีก 5 ปีนั้น ได้คุยกับเกี่ยวกับความเห็นของนายสุเทพซึ่งอยู่ในส่วนการเมืองภาคประชาชน ไม่ใช่ในระบบพรรคการเมือง
ส่วนที่นายถาวร ระบุว่าหากหัวหน้าพรรคไม่ได้เป็นนายกฯก็ไม่ได้พูดชัดเจนว่าจะสนับสนุนคนอื่นหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของอนาคตไม่มีใครตอบได้ แต่เมื่อเราเป็นพรรคการเมืองต้องเสนอตัวเป็นทางเลือกให้ประชาชน เคารพการตัดสินใจของประชาชน วันนี้ยังไม่ได้เลือกตั้ง ยังไม่รู้ว่าใครจะอาสาลงสมัครรับเลือกตั้งบ้าง จะพูดว่ารัฐบาลต้องเป็นอย่างนั้น นายกฯต้องเป็นอย่างนี้คงไม่ได้ หลังจากประชาชนตัดสินแล้วค่อยมาดูว่าเป็นอย่างไร 

พรรคยืนยันว่าใครที่รวบรวมเสียงข้างมากในสภาได้ก็สมควรจัดตั้งรัฐบาล และไม่ต้องการเห็นส.ว.ฝืนเจตนารมย์ประชาชน เพราะจะเป็นเงื่อนไขนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองในอนาคต แต่ถ้าไม่สามารถเลือกนายกฯในบัญชีได้ก็ต้องไปสู่ขั้นตอนการยกเว้นหลักเกณฑ์ แต่ไม่ควรสรุปล่วงหน้า ไม่เช่นนั้นก็เป็นการไม่ให้เกียรติประชาชน

ด้านกรณีที่นายวิทยา ระบุว่าคนที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญกระสันอยากเลือกตั้งนั้น ผมเห็นทุกคนก็บอกว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ไม่รู้ว่าอย่างนี้จะเรียกว่ากระสันหรือไม่ เพราะที่กลับมาอยู่พรรคการเมืองก็เพื่อกลับมาลงสมัครรับเลือกตั้ง
ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของนักการเมือง และไม่มีใครในพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องว่าต้องเลือกตั้งพรุ่งนี้ แต่คสช.เป็นผู้วางโรดแมพก็อยากให้เดินตามนี้ ส่วนเห็นด้วยหรือไม่กับรัฐธรรมนูญเป็นคนละประเด็น แต่เข้าใจว่าเวลามีการพาดพิงอาจมีอารมณ์ตอบโต้ไปมา เมื่อมีโอกาสคุยกันก็เห็นว่ามีการยอมรับแนวคิดและอุดมการณ์พรรค และหลังจากนี้หากนายสุเทพมีความเห็นที่ไม่ตรงกับพรรคฯ คนกลุ่มนี้ก็ต้องยึดถือแนวทางของพรรคฯ ไม่ควรมีความเห็นที่สวนทางกับแนวทางของพรรค เพราะพรรคต้องมีเอกภาพ และมีจุดยืนที่ชัดเจนกับประชาชน
ส่วนที่มีข่าวมาตลอดว่านายสุเทพส่งอดีตส.ส.กลุ่มนี้กลับมาเพื่อยึดพรรคฯและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้น ทุกคนที่มายืนยันว่าไม่ใช่ และนายสุเทพก็ยืนยันกับผมว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์เพราะออกไปทำงานภาคประชาชนแล้ว จะไม่เข้ามาแทรกแซงการทำงานพรรคทั้งสิ้น
ที่นายเอกณัฏ ระบุว่ายังไม่สามารถพูดได้ว่าจะสนับสนุนนายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคในการเลือกผู้บริหารพรรคครั้งหน้านั้น ผมไม่มีสิทธิ์บังคับให้ใครมาสนับสนุน เพราะพรรคฯเป็นประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิ์เลือกหัวหน้าพรรค แต่สิ่งสำคัญคือใครก็ตามที่จะเป็นหัวหน้าพรรคต้องยึดอุดมการณ์พรรค ซึ่งตอนนี้คนกลุ่มนี้ก็บอกแล้วว่าสนับสนุนคนที่มีรายชื่ออยู่ในพรรคเป็นนายกฯ สิ่งนี้สำคัญกว่า ผมจึงไม่กังวล (ผู้จัดการออนไลน์)

ไม่มีความคิดเห็น: