PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2561

ตำราเดียวกัน

ตำราเดียวกัน



มีข่าวฮือฮาแจ้งให้สมาชิกสภากาแฟได้ทราบโดยทั่วกัน
เป็นข่าวศาลรัฐธรรมนูญ ได้วินิจฉัยคำร้องกรณี ร่าง พ.ร.บ.ป.ป.ช.ฉบับใหม่ยกเว้นกฎเหล็กให้ประธาน ป.ป.ช.และกรรมการ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบัน 7 คน
ซึ่งมีปัญหาขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ให้สามารถดำรงตำแหน่งต่อไปจนครบ 9 ปี
จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอึกทึกครึกโครม
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า การแก้ไขเพิ่มเติมบทเฉพาะกาล พ.ร.บ.ป.ป.ช. เพื่อต่ออายุให้ประธานและกรรมการ ป.ป.ช.ซึ่งต้องพ้นตำแหน่งเนื่องจากขาดคุณสมบัติ และมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ให้นั่งเก้าอี้ ป.ป.ช. ต่อไปจนครบเทอม
จะมีใบสั่งจากใครหรือไม่ ยังไม่มีใบเสร็จยืนยัน??
แต่ส่อเจตนาเอื้อประโยชน์ให้ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ลูกน้องใกล้ชิด “บิ๊กป้อม” ได้นั่งเก้าอี้ประธาน ป.ป.ช.ต่อไปอีกยาวๆ
การเพิ่มบทเฉพาะกาลใน ร่าง พ.ร.บ.ป.ป.ช.ยกเว้นคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้าม เพื่อต่ออายุให้ประธาน และกรรมการ ป.ป.ช.นอกจากไม่สง่างาม
ยังเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญจังเบอร์
ปรากฏว่า ที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้พิจารณาคำร้องประเด็นนี้แล้ว และได้มี “มติเป็นเอกฉันท์” ว่าการแก้ไขเพิ่มเติมบทเฉพาะกาลร่าง พ.ร.บ.ป.ป.ช.ฉบับใหม่ เพื่อต่ออายุให้ผู้ที่ขาดคุณสมบัติ และมีลักษณะต้องห้าม ยังดำรงตำแหน่งประธาน ป.ป.ช.และกรรมการ ป.ป.ช.ต่อไปจนครบเทอม...
ไม่เข้าข่ายขัด หรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายแม่แต่อย่างใด!!
“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่าคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเป็นเสมือนหนังสือรับรองว่า พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช.คนปัจจุบัน ซึ่งมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 204 เนื่องจากพ้นจากดำรงตำแหน่งทางการเมือง (เป็นเลขาฯ รองนายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ไม่เกิน 10 ปี
ยังสามารถนั่งเก้าอี้ประธาน ป.ป.ช.ต่อไปได้อย่างสบายแฮ
เช่นเดียวกับ นายวิทยา อาคมพิทักษ์ กรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ (เนื่องจากเคยดำรงตำแหน่งกรรมการองค์กรอิสระอื่นมาก่อน) ร่วมทั้งกรรมการ ป.ป.ช.อีก 5 คน ซึ่งเข้าข่ายขาดคุณสมบัติ เนื่องจากเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดี หรือเทียบเท่า ไม่ครบ 5 ปี ก็พลอยได้รับการต่อวีซ่าอัตโนมัติยกทีม
สรุปว่า เพราะต้องการต่ออายุ พล.ต.อ.วัชรพล คนเดียว ทำให้กรรมการ ป.ป.ช.อีก 6 คน พลอยได้รับส่วนบุญโดยทั่วหน้ากัน
อย่างไรก็ดี “แม่ลูกจันทร์” ไม่แปลกใจที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ประธาน ป.ป.ช.และ กก.ป.ป.ช.ซึ่งมีปัญหาขาดคุณสมบัติ และมีลักษณะต้องห้ามดำรงตำแหน่งต่อไปได้ทั้ง 7 คน
ไม่แปลกใจ เพราะศาลรัฐธรรมนูญ เองก็ได้ต่ออายุเหมือนกัน
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 5 คน ซึ่งขาดคุณสมบัติ เนื่องจากดำรงตำแหน่งมาครบ 9 ปีเต็ม ก็ได้รับต่อวีซ่าพิเศษให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
ส่วนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอีก 4 คนที่เข้าข่ายขาดคุณสมบัติก็ได้รับการต่อวีซ่าให้อยู่จนครบ 9 ปีเช่นเดียวกัน
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้ต่อวีซ่า ประธาน ป.ป.ช. และกรรมการ ป.ป.ช. ย่อมได้ต่อวีซ่าตามตำราเดียวกัน
ปั่ดโธ่...ไม่เห็นต้องแปลกใจอะไรเลย.
“แม่ลูกจันทร์”

ไม่มีความคิดเห็น: