PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2561

ดึง2พี่น้องตระกูล "คุณปลื้ม" ช่วยงานรัฐบาลคสช. ตั้ง "สนธยา" ที่ปรึกษานายกฯ


ดึง2พี่น้องตระกูล "คุณปลื้ม" ช่วยงานรัฐบาลคสช. ตั้ง "สนธยา" ที่ปรึกษานายกฯ ชง "อิทธิพล" ผู้ช่วยรมต.ท่องเที่ยว
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีแต่งตั้งนายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล อดีตรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ว่า เป็นการแต่งตั้งหัวหน้าส่วนราชการตามขั้นตอน และเป็นมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งผ่านการตรวจสอบแล้วจึงมีมติออกมาและการแต่งตั้งนายสนธยา เพื่อมาเป็นที่ปรึกษาด้านการเมือง การบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็จำเป็นต้องมีคนเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน
"ไม่ได้จะตั้งขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว เพราะวันนี้จะต้องเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง จึงจำเป็นต้องมีคนมาให้คำปรึกษาว่าการเมืองทำอย่างไร ส่วนนายสนธยาจะลาออกจากหัวหน้าพรรคหรือไม่ ไม่ทราบ อีกทั้งยังรัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวและกีฬา ยังได้เสนอนายอิทธิพล คุณปลื้ม เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีด้วย"
โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่ได้รังเกลียดนักการเมือง ส่วนจะตั้งใครมาเพิ่มอีกหรือไม่ก็ต้องพิจารณาดูตามความเหมาะสม
---
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ได้แต่งตั้งให้นายสนธยา คุณปลื้ม ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง มีผลตั้งแต่วันนี้ (17 เม.ย.)
วันนี้(17เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมครม.สัญจร จ.จันทบุรี ในระหว่างวันที่ 5-6 ก.พ.นั้น นายสนธยา หัวหน้าพรรคพลังชลได้นำทีมอดีต ส.ส.ไปพบกับคณะของนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งกลุ่มมัชฌิมาของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ซึ่งมีอดีต ส.ส.อยู่ในจังหวัดสุโขทัย ชัยนาท และราชบุรี ท่ามกลางกระแสข่าวว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มีความพยายามรวบรวม อดีต ส.ส.เพื่อจัดตั้งพรรคการเมืองที่จะสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
นอกจากนั้น พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ว่าได้เห็นชอบแต่งตั้งนายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีตนายกเมืองพัทยาเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา
--                                                  
"แกนนำพลังชล" โอ่ "สนธยา-อิทธิพล" เหมาะ ช่วยงาน "พล.อ.ประยุทธ์"
           17 เมษายน 2561 นายสันต์ศักดิ์ จรูญ งามพิเชษฐ์ ที่ปรึกษาพรรคพลังชล ระบุ ถือเป็นเรื่องดี ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่งตั้ง นายสนธยา คุณปลื้มหัวหน้าพรรค เป็นที่ปรึกษานายกฯ และ นายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีตนายกเทศมนตรีเมืองพัทยา เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นายสันต์ศักดิ์ ยืนยันว่า บุคลากรของพรรคที่มีความรู้ มีประสบการณ์ และเคยดำรงตำแหน่งเป็นถึงรัฐมนตรีประจำกระทรวง และเป็นบุคลกรที่มีประสบการณ์ด้านการพัฒนาพื้นที่เข้าไปช่วยงานของรัฐบาล ทั้งการให้ข้อมูลที่ถูกทางและเหมาะสมต่อการพัฒนาในด้านต่างๆ ต่อไป
          "วันนี้เมื่อเราสามารถช่วยงานของรัฐบาลได้ ถือเป็นโอกาสที่ดี ซึ่งคุณสนธยา หรือ คุณอิทธิพลเองถือเป็นผู้มีประสบการณ์ด้านการพัฒนาด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ดังนั้นเชื่อว่าจะสะท้อนความเห็นในด้านที่เป็นประโยชน์ได้ และประเด็นสำคัญที่อาจต้องผลักดันต่อไปคือ การพัฒนาเขตเศรฐกิจพิเศษ , การท่องเที่ยว รวมไปถึงการปฏิรูปที่เกี่ยวข้องเพื่อให้พัฒนาและปฏิรูปได้จริง" นายสันต์ศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามถึงการถูกดึงตัวไปช่วยงานรัฐบาลหมายถึงการยอมให้พรรคพลังชลรวมกับพรรคของรัฐบาลในอนาคตใช่หรือไม่ นายสันต์ศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องการเมืองตนยังตอบไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของอนาคตและหากจะมีโอกาสดังกล่าวมาถึงต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและความเหมาะสม​ ขณะที่การเคลื่อนไหวของพรรคต่อการยืนยันสมาชิกพรรค ล่าสุดยังอยู่ระหว่างดำเนินการและยังไม่พบปัญหาหรืออุปสรรคใด.
--

พลังชลกั๊ก จับมือ ชทพ. เป็นพันธมิตร ระบุขอรอชัดวันเลือกตั้งก่อน

พรรคพลังชล กั๊กจับมือ ชาติไทยพัฒนา เป็นพันธมิตรสู้ศึกเลือกตั้ง ส่วนจะหนุนใครนั่งนายกฯ บอกยังมีเวลาอีกนาน ขอรอชัดเจนวันเลือกตั้งก่อน...
เมื่อวันที่ 4 มี.ค.61 นายสุระ เตชะทัต โฆษกพรรคพลังชล กล่าวถึงการยื่นขอจดจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่วันแรกมีถึง 42 พรรคว่า ถือเป็นสิ่งที่สวยงามในระบอบประชาธิปไตย เป็นการทำตามกติกาที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ แต่รายละเอียดยังมีขั้นตอนที่แต่ละพรรคต้องทำอีกมาก เช่น เรื่องสมาชิกพรรค จำนวนสาขาพรรค เพื่อให้ได้รับการรับรองเป็นพรรคการเมืองอย่างสมบูรณ์ ส่วนวันที่ 28 มี.ค. ที่ กกต.จะเชิญพรรคการเมืองเดิม มาประชุมชี้แจงทำความเข้าใจในแนวทางปฏิบัติ ก่อนจะเริ่มดำเนินการเรื่องสมาชิกพรรคในวันที่ 1 เม.ย.นั้น อะไรที่เป็นประโยชน์กับส่วนรวม พรรคพลังชลยินดีให้ความร่วมมือ เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันระหว่าง กกต.กับพรรคการเมือง
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวพรรคพลังชลเตรียมจับมือเป็นพันธมิตรการเมืองกับพรรคชาติไทยพัฒนาในการเลือกตั้งครั้งต่อไป นายสุระตอบว่า ข้อเท็จจริงยังไม่ได้มีการเจรจาพูดคุยกัน เวลานี้ คสช.ยังห้ามไม่ให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม จึงยังบอกไม่ได้ว่าใครจะไปรวมกับใคร หรือจะสนับสนุนผู้ใดผู้หนึ่งให้เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องรอให้ทำกิจกรรมทางการเมืองได้ก่อน ยังมีเวลาอีกนาน อีกทั้งขอให้มีความชัดเจนอย่างแท้จริงก่อนว่าการเลือกตั้งเกิดขึ้นในช่วงใดแน่ เมื่อถึงเวลานั้นค่อยมาหารือพูดคุยกัน.

--
ปชป.-พลังชลตบเท้าพบ บิ๊กตู่ร่วมประชุมผู้นำท้องถิ่น ชงพัฒนาภาคตะวันออก ปัดคุยการเมือง
วันนี้ (5 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติจันทบุรี อ.เมือง จ.จันทบุรี ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.จะเดินทางมาเป็นประธานร่วมประชุมพบผู้นำท้องถิ่นของจันทบุรี โดยมีบรรดานักการเมืองทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่น อาทิ นายทรงยศ เทียนทอง นายกฯอบจ.สระแก้ว จำนวน 41 คนในพื้นที่ภาคตะวันออกมาร่วมประชุมด้วย อาทิ นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายพงศ์เวช เวชชาชีวะ นายธารา ปิตุเตชะ พร้อมด้วยอดีตส.ส.ในจังหวัดระยอง รวมทั้งนายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล พร้อมสมาชิกพรรคพลังชลที่อยู่ในพื้นที่ชลบุรี อาทิ นายวิทยา คุณปลื้ม และนายสันตศักย์ จรูญงามพิเชษฐ์
โดยนายสนธยา กล่าวว่า การเดินทางมาร่วมประชุมร่วมกับนายกฯในครั้งนี้เพื่อพยปะพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนาท้องถิ่นในภาคตะวันออก ซึ่งมีทั้งหมด 8 จังหวัดในภาคตะวันออก โดยจะมีการนำเสนอเกี่ยวกับเรื่องระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) การท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม ซึ่งทั้งหมดจะต้องมีการเชื่อมโยงกับท้องถิ่นโดยในพื้นที่ได้มีการติดตามเรื่องกรออกร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกซึ่งมีทั้งหมด 168 โครงการ งบประมาณพันๆล้านบาท รวมทั้งในพื้นที่จ.จันทบุรีและตราด ซึ่งนอกจากเป็นพื้นที่เศรษฐกิจด้านท่องเที่ยว ชายฝั่งทะเลและการเกษตร รวมถึงการส่งเสริมอัญมณี ผลไม้ จึงอยากให้รัฐบาลดำเนินการเรื่องการขนส่งขนาดใหญ่ โดยไม่จำเป็นต้องมีรถไฟฟ้าความเร็วสูง ขอให้มีรถไฟรางคู่ เพื่อใช้ขนคนและสินค้าการเกษตร เพื่อรองรับอีอีซี
นายสนธนา กล่าวยืนยัน การร่วมประชุมร่วมกับนายกฯจะไม่มีการพูดเรื่องการเมือง เกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้ง เพราะเชื่อว่าพรรคการเมืองมีความอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
ด้านนายสาธิต กล่าวว่า การเข้าหารือกับนายกฯจะไม่มีการพูดคุยเรื่องการเมือง จะพูดคุยเรื่องการพัฒนาในพื้นที่ภาคตะวันออกจึงอยากให้รัฐบาลได้ดำเนินการ ในส่วนของจ.จันทบุรีและตราด ซึ่งเป็นพื้นที่เรื่องการท่องเที่ยว เกษตรและโรงงานอุตสาหกรรมโดยโครงการต่างๆที่ลงไปทั้ง 2 จังหวัด อยากให้ประชาชนมีส่วนร่วม เหมือรสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลที่ใช้คณะกรรมการกลางเข้ามาดูแล จึงอยากให้สารต่อตรงนี้ รวมถึงอยากให้ปฏิรูปเรื่องการศึกษา เพราะถือเป็นพื้นที่พิเศษที่ควรจะเข้ามาให้ความสำคัญ
/////

"บิ๊กตู่" ปัดพบ "เผดิมชัย" ไร้ดีลการเมือง บอกคนเยอะหากดีลจริงไม่ทำแบบนี้ แจงแค่ไปตีกอล์ฟ เผยแค่ฝากให้ดูแลปชช.พร้อมลั่นเป็นนายกฯต้องไปได้ทุกที่ อย่าหยิบมาโจมตี

(29ธ.ค.60) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ชี้แจงกรณีที่นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายนายกฯร่วมกับคนในตระกูล "สะสมทรัพย์"ผ่านเฟซบุ๊กว่า สำหรับตนไปไหนมาไหนก็ได้ในทุกจังหวัด ตนพร้อมไปทุกที่ หรือใครจะมาพบตนก็พร้อมพบ แต่มาแล้วไม่ใช่มองว่าพบเพื่อการเมือง เรื่องดีลต่างๆ 
    "ยืนยันว่าผมไม่ได้ดิลอะไรกับใคร ทุกวันนี้ผมมีหน้าที่ในการทำให้ประเทศมีความมั่นคงแข็งแรง วันข้างหน้าใครจะอยู่พรรคไหน อย่างไรก็เป็นเรื่องของท่าน เลือกตั้งก็ไปเลือกของท่าน เมื่อท่านเข้ามาท่านจะอยู่กับใครก็เป็นเรื่องของท่าน จะอยู่ฝ่ายรัฐบาลหรืออยู่กับฝ่ายค้านผมไม่รู้ เพราะผมยังไม่ได้เข้าไปอยู่ตรงนั้นเลย แล้วผมจะไปดิวอะไรกับใครใช่หรือไม่"
 
    นายกฯกล่าวว่า วันนี้เห็นมีรูปออกมาหน้าสื่อสิ่งพิมพ์กับคนนั้นคนนี้ ตนก็ถ่ายได้กับทุกคน ใครอยากถ่ายกับตนก็ให้หมดไม่เห็นหรือ ตนถ่ายมาไม่รู้กี่รูปแล้ว ทุกคนขอถ่ายตนก็ให้ถ่าย ตนจะรังเกียจเขาได้หรือไม่ ถ้าเขาไม่ขอแล้วตนไปเสนอตัวไปให้เขาถ่ายก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตนไม่เคยไปเสนอตัว เขาขอตนให้ถ่าย และไม่ว่าจะใครมาขอถ่ายตนก็ให้ถ่ายร่วมได้ทั้งนั้น อย่าไปมองว่าเป็นการตกลง หรือเป็นการดีลกัน ถ้าเป็นเช่นนั้นตนคงไม่ต้องไปไหนกันแล้ว
 
    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้การที่ตนเดินทางไปในพื้นที่จังหวัดต่างๆนั้น ต้องการไปดูว่าทุกพื้นที่ว่าเป็นอย่างไรในแต่ละจังหวัด แล้วเมื่อมีคนเขามารับจะเป็นนักการเมือง หรือไม่ใช่นักการเมืองเขาอยากมารับก็มาไม่ได้ว่าอะไร จะไปมีดีลอะไร ตนยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง
 
    "แต่สิ่งที่ผมพูดกับพวกเขาคือ วันข้างหน้าช่วยดูแลประเทศชาติหน่อย ไม่ว่าใครก็ตามที่จะเข้ามาสู่การเมืองขอให้ไปทำให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ทำให้ประชาชนมีความสุข และไว้วางใจ เพราะวันนี้เป็นปัญหาของนักการเมือง ไม่ใช่ปัญหาของผม และยิ่งมาว่าผมมากๆเข้า ผมก็ว่าเขาไม่มีอะไรจะดีขึ้น และเขาต้องไปแก้ที่ตัวของเขาเอง ไม่ใช่มาโจมตีผม และขอถือโอกาสอธิบายรูปภาพที่ออกมาว่า ผมไปถ่ายรูปกับคนนั้นคนนี้ อย่าคราวที่แล้วไปที่จ.สุโขทัย เขาก็มารับแล้วจะให้ผมทำอย่างไง จะให้ไล่เขาไปเหรอ ผมไปที่ไหนเขาก็มาหา เขารู้ว่าผมมา เขาอยู่ในพื้นที่เขาก็ต้องมาหามาพูดคุย ซึ่งพูดคุยเรื่องทั่วไป เรื่องประชาชนมีความเป็นอยู่อย่างไร ผมก็ได้แต่ขอร้องว่าช่วยกันดูแลประชาชนให้ดี สิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วก็ต้องแก้ไขปรับปรุงตัวเอง ถ้าวันข้างหน้าจะกลับเข้ามาสู่การเมือง ต้องเป็นการเมืองที่มีธรรมาภิบาล ผมพูดกับทุกคนที่เป็นนักการเมือง พูดแค่นี้มันผิดตรงไหน" นายกฯกล่าว
 
    เมื่อถามว่า สรุปแล้วไปพบคนตระกูลสะสมทรัพย์เมื่อไหร่ นายกฯ กล่าวว่า "จำไม่ได้นานมาแล้ว ผมไปเล่นกอล์ฟ มีคนบอกว่าจังหวัดมีสนามกอล์ฟที่ดีที่สุดแถมได้รางวัลก็อยากรู้ว่าสนามกอล์ฟนั้นดีแค่ไหน เพราะเราไม่เคยไปตรงนั้นเลย ก็อยากไปดูเขาหน่อย พื้นที่ใครก็ยังไม่รู้เลย ซึ่งตนก็ว่าสวยงาม แต่ความจริงคนกลุ่มนี้มาอยู่แล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นเจ้าของด้วย สัปดาห์หนึ่งเขาก็จะมานั่งที่สนามกอล์ฟแห่งนี้ ซึ่งผมก็ไม่รู้ และตอนที่จองก็ให้คนอื่นไปจองเท่านั้นเอง แหม่..คนตั้งเยอะแยะจะไปดีลอะไรกันตรงนั้น และถ้าผมจะไปดีลกับใครก็คงไม่ทำแบบนี้ให้คนเห็น แล้วทำไมจะต้องไปดีลล่ะ
     
    ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่บังเอิญสถานการณ์ช่วงนี้มีกระแสข่าวการตั้งพรรคการเมืองใหม่สนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อหลังเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "อย่าไประแวงผมสิ เพราะผมบอกมาตลอดว่าผมเป็นรัฐบาลที่จะไปไหนก็ได้ ไม่ใช่ตรงนี้จังหวัดนี้ไปไม่ได้ แล้วถ้าผมไปไม่ได้ ประชาชนจะเข้าถึงผมได้อย่างไร เพราะวันนี้ไม่มีส.ส.ไม่มีอะไร ผมก็ต้องเป็นคนที่ต้องไปถึงประชาชน ข้าราชการก็ต้องเข้าถึงประชาชนทำหน้าที่แทนนักการเมือง อย่างวันนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็มีจิตอาสา รัฐบาลมีอาสาสมัคร ข้าราชการทุกคน รวมถึงอปท. ต้องไปดูแลประชาชนแทนให้ใกล้ชิดมายิ่งขึ้น ทุกฝ่ายต้องการสร้างการเรียนรู้ประชาชนให้มากขึ้นและทุกคนต้องพัฒนาตัวเองว่า เราจะรวมพลังกันอย่างไรในการพัฒนาประเทศให้พ้นจากความยากจน ซึ่งปีหน้ามาตรการใหม่ๆจะลงไปในพื้นที่"
--------

ไม่มีความคิดเห็น: