PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2561

แกะรอยตระกูล "คุณปลื้ม" กับอำนาจยุค "คสช."

สมจิตต์ นวเครือสุนทร
5 ชม.
แกะรอยตระกูล "คุณปลื้ม" กับอำนาจยุค "คสช."
หลังครม.มีมติแต่งตั้งสองพี่น้องตระกูลคุณปลื้มคือนายสนธยา หัวหน้าพรรคพลังชล และนายอิทธิพล อดีตนายกเมืองพัทยาเข้ารับตำแหน่งทางการเมืองในรัฐบาล โดยนายสนธยาผู้พี่รับตำแหน่งกุนซือหรือที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ขณะที่คุณปลื้มผู้น้องคือนายอิทธิพล นั่งแท่นเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ซึ่งหมายถึงว่าเป็นตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีในโควต้าของนายกรัฐมนตรี แสดงถึงความใกล้ชิดจากการแต่งตั้งครั้งนี้ว่าเป็นอำนาจสายตรงที่ต่อท่อมาจากนายกรัฐมนตรี
หมากของ คสช.เกมนี้จึงถือเป็นการเปิดหน้าไพ่ที่ชัดเจนมากขึ้นถึงทิศทางการเมืองที่เตรียมปูฐานไว้สำหรับอนาคต ตอกย้ำว่าข่าวที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯจะตั้งพรรคการเมืองสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ โดยมีพรรคการเมืองตอบรับร่วมงานแล้วคือ พลังชล จึงดูเป็นรูปเป็นร่างมากยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อว่ายังจะมีการแต่งตั้งคนการเมืองจากพรรคอื่นในลักษณะนี้อีกในเวลาอันใกล้นี้
ย้อนมาดู 3 คนสำคัญในตระกูลคุณปลื้มใต้เงา คสช.กันหน่อยว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
เริ่มกันที่กำนันเป๊าะ หรือ น.ช.สมชาย คุณปลื้ม นักโทษคดีสนับสนุนให้เจ้าพนักงาน (มีหน้าที่ซื้อทรัพย์) ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตกรณีซื้อที่ดินเขาไม้แก้ว และคดีร่วมกันใช้จ้างวานให้ผู้อื่นฆ่าคนตาย กรณีจ้างวานฆ่ากำนันยูร หรือนายประยูร สิทธิโชติ ถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุก 30 ปี 4 เดือน ถูกจับกุมวันที่ 30 ม.ค.56
ในยุคที่คสช.บริหารประเทศ มีการออกประกาศกรมราชทัณฑ์ เรื่องหลักเกณฑ์การคัดเลือกนักโทษเด็ดขาดเข้าโครงการพักโทษ กรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง พ.ศ.2560 ลงวันที่ 25 ม.ค.2560
ต่อมามีการประชุมคณะกรรมการพักการลงโทษประจำปีงบประมาณ 2561 ครั้งที่ 2/2561 สรุปผลการพิจารณาเห็นชอบให้พักการลงโทษกกรณีปกติ 407 รายและกรณีมีเหตุพิเศษ 2 ราย โดยพล.อ.อ.ประจินต์ จั่นตอง รมว.ยุติธรรม อนุมัติพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ ในวันที่ 14 ธ.ค.60
นักโทษสองรายแรกที่ได้รับประโยชน์จากประกาศนี้ประกอบด้วย กำนันเป๊าะ และน.ญ.จันทร์เพ็ญ สืบเม้ย คดีมีและจำหน่ายยาบ้า
โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรงจากโรคมะเร็งระยะสุดท้าย รวมถึงเป็นผู้สูงอายุเกิน 70 ปีขึ้นไปไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงพักโทษเพื่อเป็นการสงเคราะห์ให้นักโทษเด็ดขาดได้รับการดูแลและรับการรักษาพยาบาลที่เหมาะสมตามหลักมนุษยธรรม
ก่อนหน้านี้กำนันเป๊าะใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในโรงพยาบาลชลบุรี โดยมีการให้เหตุผลเรื่องของอาการเจ็บป่วย พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลดังกล่าวนานเกือบ 3 ปี กระทั่งวันที่ 1 มี.ค.60 อธิบดีกรมราชทัณฑ์สั่งให้นำตัวกลับมาควบคุมที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากมีอาการหยุดหายใจขณะนอนหลับ และในที่สุดก็ได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ
การพักโทษดังกล่าวทำให้เกิดกระแสข่าวว่ามีการใช้เรื่องนี้ต่อรองทางการเมืองกับพรรคพลังชลแลกกับการหนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี แต่พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาปฏิเสธ
มาถึงนายอิทธิพล ซึ่งเป็นอดีตนายกเมืองพัทยากันบ้าง นายอิทธิพล ครบวาระในตำแหน่งดังกล่าวเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2559 และหัวหน้าคสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แต่งตั้งพล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี เป็นนายกเมืองพัทยา ก่อนที่นายอิทธิพลจะได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี
ส่วนนายสนธยา เคยออกมาแบ่งรับแบ่งสู้เรื่องการสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ หลังมีโอกาสได้พบกับพล.อ.ประยุทธ์ ระหว่างการประชุมพบปะพูดคุยกับผู้นำท้องถิ่นของจังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนจะเข้ารับตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ให้เหตุผลการแต่งตั้งครั้งนี้ว่า
"ผมจำเป็นต้องมีคนเหล่านี้เข้ามาบ้าง เพื่อมาทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน แต่ไม่ได้หมายความว่า เอาคนนี้มาเพื่อประโยชน์อะไรของผม มันไม่ใช่ วันนี้ กำลังเดินหน้าไปสู่ตรงนั้น ผมก็ต้องมีคนที่รู้เรื่องเหล่านี้มาให้คำปรึกษาว่าเป็นอย่างไร"
นี่คือเรื่องราวของสามคนในตระกูลคุณปลื้ม ที่เกิดขึ้นในยุค คสช. ส่วนพล.อ.ประยุทธ์กำลังเดินหน้าไปสู่อะไร และจะมีผลกับประเทศชาติอย่างไร เป็นเรื่องที่สังคมต้องจับตากันต่อไป
////////////

ไม่มีความคิดเห็น: